แมลงกับงานพิพิธภัณฑ์


แมลงตัวน้อย แต่ทำลายข้าวของได้มหาศาล

  

เมื่อวันที่  25  -  26  สิงหาคม ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ชุมพร  ได้ส่งเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์  เข้าร่วมการฝึกอบรม เรื่อง “การป้องกันและกำจัดแมลงในพิพิธภัณฑ์   โบราณสถาน และห้องสมุด” ซึ่งจัดโดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  กรุงเทพฯ  เพื่อให้ความรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศทั้งของรัฐบาลและเอกชนรวมทั้งห้องสมุดต่างๆ  โดยมุ่งเน้นวิธีการที่ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเองอย่างปลอดดภัย  และไม่ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ราคาแพงและวิธีการเหล่านี้ยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี     ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ชุมพร  เห็นว่าเนื้อหาในการอบรมเรื่องนี้น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานอื่น  ไม่เฉพาะแต่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น  เราจึงนำหลักในการป้องกันและจำกัดแมลงในเบื้องต้นมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง  ดังนี้ค่ะ
หลักการสำคัญในการป้องกันและกำจัดแมลง

     เพื่อลดจำนวนแมลง แหล่งเพาะพันธุ์  ที่อยู่อาศัยของแมลง  แมลงที่พบเสมอในโบราณสถาน  พิพิธภัณฑ์  ห้องสมุด สำนักงาน และอาคารบ้านเรือน มีมากมายหลายชนิด ได้แก่  ปลวก  แมลงสาป  แมลงสามง่าม  มอดเจาะไม้  มอดไม้ไผ่ มอดขี้ขุย  มอดหนังสือ  มอดยาสูบ ด้วงขนสัตว์  ผีเสื้อกลางคืน  เหาหนังสือ  ไร
มอดแป้งฯลฯ
     ขั้นตอนแรกที่จำเป็นที่สุดในการป้องกันและกำจัดแมลง   ผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับชนิด  ลักษณะนิสัย   วงจรชีวิต  การขยายพันธุ์  แหล่งอาหาร  แหล่งที่อยู่อาศัย  ช่องทางเข้าออกของแมลง
และลักษณะการทำลายของแมลงเหล่านั้นเป็นอย่างดีเสียก่อน จึงจะสามารถป้องกันและกำจัดได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
      วิธีป้องกันและกำจัดแมลง   ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้
1.   ปริมาณการทำลาย
2.   ความหนาแน่นของประชากรแมลง
3.  ชนิดของแมลง
4.   ชนิดของวัตถุที่ถูกแมลงทำลาย
5.   ลักษณะของอาคารหรือห้องเก็บ
6.   ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสารเคมี
7.   บุคลากรที่ปฏิบัติงาน
8.   อุปกรณ์ที่มีอยู่
9.   งบประมาณ
 
วิธีป้องกันและกำจัดแมลง
       1 วิธีกล
       เป็นการป้องกันและกำจัดแมลงโดยไม่ใช้สารเคมีที่มีพิษ   เริ่มด้วยการสำรวจตรวจตราอย่างสม่ำเสมอ หมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ  ติดตั้งตาข่าย หรือมุ้งลวดเพื่อป้องกันแมลงไม่ให้บินเข้าอาคาร ดักจับแมลงด้วยวิธีการต่างๆ เช่น  ใช้กับดักแสงไฟเพื่อล่อแมลงพวกที่ชอบแสงไฟ  ใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนที่มีกลิ่นที่แมลงชอบเพื่อล่อให้แมลงมาติดกับ ใช้สารเคมีที่ลักษณะเป็นยางเหนียวดักจับแมลง         
         2.  วิธีฟิสิกส์
       เป็นการกำจัดแมลงโดยใช้วิธีกายภาพ เช่น ใช้ความร้อน  ความเย็น รังสี  ลดความชื้น ลดออกซิเจน  ใช้คลื่นเสียง ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า  เพื่อให้แมลงตายหรือไม่สามารถเจริญเติบโตหรือขยายพันธุ์ได้ตามปกติ  หรือทำหน้าที่สกัดกั้น ไล่  หรือกักเก็บแมลงมิให้เข้ามาทำอันตรายต่อวัตถุ  วิธีการเห่ลานี้กำลังเป็นที่นิยมของนักอนุรักษ์อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากปราศจากสารเคมีที่อาจทำให้เกิดมลพิษหรือทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติ     
           3.  วิธีเคมี
    เป็นการกำจัดแมลงโดยการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์ในการฆ่าแมลงหรือที่เรียกกันว่า   “ยาฆ่าแมลง ”
ซึ่งหมายถึงสารเคมี ที่ใช้ในการทำให้แมลงบาดเจ็บและตายโดยการขาดอากาศหรือทำให้เกิดการครูดถูขัดสี หรือดูดน้ำออกจากตัวแมลง หรือแมลงอาจตายเนื่องจากผลของปฏิกิริยาเคมีของยาฆ่าแมลง
           4. วิธีชีววิทยา
    เป็นการลดปริมาณของประชากรแมลงลงด้วยวิธีทางชีววิทยากำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น  เช่น  ปล่อยตัวห้ำหรือตัวเบียนออกมาทำลายแมลงที่ก่อให้เกิดปัญหา การทำให้แมลงมียีนส์ผิดปกติหรือทำให้แมลงเป็นหมันด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ใช้สารเคมีหรือใช้กัมมันตรังสี การสกัดการเจริญเติบโตของแมลง การใช้จุลินทรีย์ทำลายแมลง
 
       ยาฆ่าแมลง

       ยาฆ่าแมลงที่ใชในการป้องกันและกำจัดแมลงสามารถจำแนกตามลักษณะการออกฤทธิ์ของเคมีในร่างกายของแมลง จะแบ่งยาฆ่าแมลงออกได้เป็น   3   กลุ่มใหญ่ๆคือ
1.  ยาฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์ในทางเดินอาหาร
2.  ยาฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์ต่อผิวหนัง
3.  ยาฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์ต่อระบบหายใจ
        นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับยาฆ่าแมลงอีกมากมายไม่ว่าจะเรื่องระดับความเป็นพิษของยาฆ่าแมลง แต่ละชนิด  รายชื้อยาที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน  และพืชสมุนไพรที่ใช้ฆ่าหรือไล่แมลง
           ผู้ที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ชุมพร หรือเข้ามาพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ (คุณธีระพล  สมศรี)  ได้ทุกวันพุธ - วันอาทิตย์  เวลา  9.00 - 16.00 น.ค่ะ  
 
 
 
 
 
 

 

หมายเลขบันทึก: 3517เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2005 15:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 02:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท