ชมพระอาทิตย์ตกดิน (บนรถยนต์)


                                          ชมพระอาทิตย์ตกดิน  (บนรถยนต์)               

ก่อนเข้าถึงเมืองเสียมเลียบราว  50  กม.  เริ่มมองเห็นบ้านเรือนชาวบ้านที่ตั้งกันเป็นกลุ่ม ๆ  อยู่ริมถนน  บ้านเรือนมองให้เห็นถึงสภาพความเป็นชนบทที่อยู่บนที่ราบสูงบ้างเล็กน้อย  สภาพทุ่งนากว้างใหญ่ค่อย ๆ หายไป  ปรากฏมีป่าละเมาะเป็นหย่อม ๆ  บ้านเรือนมีทั้งเก่าใหม่ปะปนกัน  ยกพื้นสูงเอามาก ๆคือสูงกว่าเมืองไทยสักสองศอกหรือเมตร  ส่วนใหญ่เป็นเรือนทรงจั่วแบบมะนิลา  เป็นเรือนสามห้อง  หรือสามจั่ว  โดยมีเรือนใหญ่จั่วกว้างอยู่กลาง  และจั่วเล็กขนาบข้าง   แปลกตรงที่ไม่มีนอกชาน  โดยมีระเบียงด้านหน้าค่อนข้างกว้างมีไว้เป็นพื้นที่ทางสังคม(Social  Area)  แบบเรือนไทย

                สภาพถนนเริ่มดีกว่า 100  กม.  ที่ผ่านมา  มีร่องรอยการทำผิวทางแบบลาดยางมะตอยบ้าง

เป็นช่วง ๆ  นักเรียนปั่นจักรยานกลับบ้านปะปนกับชาวบ้านที่กลับจากงาน  เต็มสองข้างทาง  นักเรียนหญิงใส่เสื้อสีขาวดูสะอาดสวมผ้าถุงหรือผ้าสิ้นพื้นถิ่น  ดูน่ารักน่าเอ็นดูท้ายจักรยานมีฟืนมัดติดท้ายเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานในครัวเรือน                ที่เมืองนี้เขาเรียนกันเป็นชุดละครึ่งวัน  ครูชุดเดียว  ดังนั้นเขาจะผลิตคนได้  2  เท่า  หรือสองรุ่นในหนึ่งปี  อีกครึ่งวันก็กลับไปช่วยพ่อแม่ทำงานหรืออาจกล่าวได้ว่าไปเรียนวิชาการยังชีพกับพ่อแม่  รัฐบาลให้เรียนฟรี  12  ปี  เช่นเดียวกับเมืองไทย  ป.1 ป.4  ,มัธยม  1-6  โอกาสเรียนระดับอุดมศึกษานั้นน้อยมาก  เด็กในเมืองจะเรียนพิเศษกันอีกครึ่งวัน  ในกรณีที่พ่อแม่พอมีฐานะ  ที่มีอาชีพค้าขาย  จะเห็นมีกลุ่มนักเรียนนั่งเรียนกันตามใต้ถุนบ้านหลายหลัง

รถเรากว่าจะถึงโรงแรมก็จวนพลบค่ำพอดี

                คุณซาร่าพาคณะเราผ่านเมืองเสียมเลียบเพื่อที่จะไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่เขาปราสาทซึ่งตั้งอยู่ยอดเขา  คณะท่องเที่ยวจะต้องซื้อตั๋วเข้าชมโบราณสถานกับทุกคนๆละ 20 US  หรือประมาณ  900 บาท  เก้าพันเรียว  ค่าเงินไทย  1  บาท  เท่ากับ  10  เรียว  นับเงินจ่ายกันแต่ละครั้ง  พอ ๆ กับเงินกีบประเทศลาว  หรือเงิน  จ๊าด ในเมียนม่า  เช่นกัน  ตั๋วเข้าชมถูกกำชับว่าห้ามหายเด็ดขาดและจะต้องโชว์ทุกครั้งก่อนเข้าชมเมือง                   การดำเนินการจัดการ  รัฐบาลให้สัมประทานเอกชนจัดการทั้งหมดคือรัฐจะได้ไม่ต้องลงทุน  นั่งเก็บค่าต๋งอย่างเดียวสบายดี  ผู้ได้รับสัมประทานจะต้องดำเนินการทุกอย่างตามที่ตกลงกับรัฐไว้ เช่น  ทำถนนจัดทำสาธารณูประโภคที่จำเป็นทุกอย่าง  จัดการระเบียบร้านค้าขายตามเงื่อนไขทุกประการ  จึงดูทุกอย่างมีระบบระเบียบเรียบร้อยดี                รถเราเคลื่อนออกจากสำนักงานขายบัตรได้เล็กน้อย  รถก็ดับอีกครั้งเหลือแต่เครื่องปั่นแอร์อีกเช่นกัน  ดวงออกเดินทางคงไม่ดีแน่  ปรากฏว่าน้ำมันหมดเพราะท่อน้ำมันรั่ว  ไม่ใช่ถูกขโมยดังที่กล่าวไว้คราวก่อนโปรแกรมที่ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินก็เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นนั่งอยู่ในรถดูพระอาทิตย์ตกดินแทน  ส่วนรถคันที่  1  ได้ดูไปแล้ว                คุณซาร่าบอกว่าไม่ต้องตกใจ  พรุ่งนี้จะชดเชยให้ได้ดูแน่นอน  และดังที่เคยคุยไว้ว่ารถที่ใช้นี้เป็นบริษัทใหญ่ที่เชื่อถือได้  เสียที่ใดไม่ช้า  ไม่ต้องคอยนาน  จะมีชุดคอมมาโดรีบมาแก้ไข  ก็จริงดังว่าลงไปยิงกระต่ายกันพักเดียว  ชุดปฏิบัติการก็มาจัดการให้ทันทีมีไฟฉาย  มีช่างมาแก้ไข   แต่ก็เสียเวลาไปเกือบชั่วโมงเช่นกัน  รถราวุ่นวายคล้ายกับปักกิ่งเมืองจีน  ทั้งสามล้อเครื่อง  จักรยาน  รถยนต์วิ่งกันกันแบบมีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นปาดซ้ายขวาไปมาดูน่าหวาดเสียว  แต่ไม่มีชนกันดูก็แปลกดี  เมืองอื่นๆห้ามเอาเป็นตัวอย่าง  คุณซาร่าบอกกำชับนี่คือวิถียวดยานใช้ความสามารถเฉพาะตัวของหมู่เฮาชาวขแมร์     เป็นอันว่าได้เวลาอาหารพอดี  รถพาคณะเราย้อนเข้าเมืองอีกครั้ง  เพื่อพบกับเมนูอาหารไทยเมืองขแมร์  รถพาคณะเราผ่านเข้าออกบนถนนแคบๆ  แต่ให้รถสวนกันได้  ไฟฟ้าในเมืองสว่างไสว ด้วยค่ากระแสอันแสนแพงหน่วยละ  13  บาท  แพงกว่าไฟเมืองไทยอีกเช่นกัน                ร้านอาหารไม่ใหญ่โตเกินไปเตรียมเปิดแอร์ตั้งโต๊ะอาหารพร้อมสรรพ  ยกเว้นสุราปลาปิ้งเบียร์ไม่มี  แต่ใครใคร่ดื่มก็มีขาย  เบียร์อังดอร์  กระป๋องละ  1  US  หรือ  35  บาท  ถ้าเป็นไฮเนเก้นก็  2  US   เบียร์ช้างไม่มีหรือไม่ให้นำเข้าไม่ทราบเหตุผล    นักอนุรักษ์บางโต๊ะแอบซ่อนสุราไว้ใต้โต๊ะค่อยๆรินแจกคอเดียวกันคนละจอกสองจอกพอเป็นกะสายเรียกน้ำย่อยไม่ว่ากัน  อาหารเป็นชุดลำเลียงมาไม่ขาดสาย  ด้วยความหิวทีถูกรถขย่อนท้องไส้มาทั้งวันมือไม้ขวักไขว่ไปมาเต็มโต๊ะ  รสชาติอาหารใช้ได้ถูกปากกันทุกคน  ที่ขาดไม่ได้คงเป็นปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไท หรือพริกเขมร  เนื้อนุ่มจริงๆ  แต่เย็นไปหน่อยคงทอดคอยนานจนเกินไป  พนักงานถือโถข้าวเดินวนเวียนไปมาไม่ขาดสาย  ซอมบาย  ซอมบาย  ขอข้าวหน่อย  คำฮิตติดปาก  ข้าวสวยนุ่มเหนียว  ขาวเม็ดเล็ก  แต่ไม่เหนียวเท่าข้าวเกาหลี  กลิ่นหอมนักคงเป็นข้าวใหม่แน่นอน  หกสิบชีวิตอนุรักษ์ก้มหน้าก้มตา  วนเวียนกับโต๊ะอาหารสักพักใหญ่ทุกอย่างก็เรียบร้อย  น้ำดื่มเป็นขวดแบบเมืองไทย  ดื่มเสียให้พอเพราะซื้อข้างนอกแพงอีก  ขวดเล็ก  1 US  เช่นกัน  คงไม่ต้องอธิบายว่าทำไมแพง  ก็ต้นทุนการผลิตจากน้ำมันหรือค่าไฟเป็นต้นทุนที่แพง  แค่สองอย่างนี้ก็พอแล้ว  ยังไม่รวมฟิกคอร์สอื่น ๆ  อีกมากมาย  เขามีไว้เฉพาะคนต่างชาติที่มีเงินเท่านั้น  ชาวบ้านเขาดื่มน้ำบ่อกันไม่ต้องซื้อ   ต้องกรองกลั่นให้เสียสตางค์  ด้วยบ้านเมืองนี้นั้นได้รับสมญานามเป็นเมืองแห่งน้ำ  มีอารายธรรมสายแห่งน้ำ  หรืออองโกรนครน้ำ  แหล่งกำเนิดอารยธรรมขแมร์ ดังฯพณฯ  ณุด  ณาราง  นักวิชาการนักต่อสู้ชาวขแมร์  ท่านอ้างไว้     
หมายเลขบันทึก: 35164เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2006 23:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท