• ประมาณต้นเดือนกันยายน 2510 ผมขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกในชีวิต เพื่อไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน เมือง Ann Arbor, รัฐมิชิแกน, สหรัฐอเมริกา
• จำไม่ได้ว่าเป็นสายการบินอะไรแน่ น่าจะเป็น Pan American Airlines ที่เรียกย่อๆ ว่า Pan Am (ที่เจ๊งไปนานแล้ว อนิจจังไม่เที่ยง) บินจากกรุงเทพไปแวะเติมน้ำมันที่ ไทเป ไต้หวัน แล้วไปต่อเครื่องอีกลำหนึ่งที่โตเกียว ซึ่งจะแวะเติมน้ำมัน (และบางจุดก็ให้ผู้โดยสารขึ้น-ลง) ที่เกาะกวม เกาะเวค โฮโนลูลู ไปสิ้นสุดการเดินทางที่ลอส แองเจลีส แล้วจึงต่อเครื่องบินภายในประเทศไปเมือง ดี ทรอยต์ แอนอาร์เบอร์อยู่ห่างจากดีทรอยต์ประมาณ 50 ไมล์
• เครื่องบินสมัยนั้นลำเล็ก พิสัยบินสั้น ต้องลงเติมน้ำมันบ่อยมาก ต้องแวะถึง 5 ครั้งจึงจะถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐอเมริกา
• ผมเดินทางคนเดียว ด้วยความทุลักทุเล เริ่มด้วยการไปส่ง สมัยนั้นการเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องใหญ่ คนไปส่งจะเอาพวงมาลัยไปคล้องคอและถ่ายรูปหมู่ ผมมีคนไปส่งมาก ทั้งน้องชาย อาหมออนันต์ อาบูรณ์ อาจารย์หมอสุภา อาจารย์หมอประเวศ ทีมงานตึกอานันทราช ศิริราช และที่สำคัญที่สุด แฟน (ก็คนนี้แหละครับ ตอนนั้นเป็นคู่หมั้น) ปัญหาก็คือส่งและร่ำลากันจนเบื่อแล้ว เครื่องบินก็ไม่ออกสักที จนในที่สุดคนมาส่งกลับกันหมดแล้ว เครื่องบินก็ยังออกไม่ได้ เขาต้องขนผู้โดยสารไปนอนที่โรงแรมนานา ซอยนานาใต้หนึ่งคืน รุ่งขึ้นเช้าอีกวันหนึ่งจึงออกเดินทาง ตอนอยู่ที่โรงแรมนานาคิดจะโทรศัพท์ไปหาแฟนก็เกรงจะโกลาหลว่าโทรมาจากโลกไหน แฟนบอกว่าคืนนั้นอนร้องไห้จนหมอนเปียก
• ความยุ่งยากเกิดตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง ก็เกิดความยุ่งยากป็นลูกโซ่ตามมา ผมตกเครื่องบินที่กำหนดไว้ว่าต้องไปต่อตลอดทาง คือที่โตเกียว และที่ ลอสแองเจลีส เป็นการเดินทางที่ผมตื่นเต้น เหงื่อแตกอยู่ตลอดเวลา ที่โตเกียวผมนั่งรอเครื่องบินที่สนามบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง ผุดลุกผุดนั่ง จนมีคนมาสะกิดเอาบัตรผ่านขึ้นเครื่องบินใบหนึ่งมายื่นถามว่าของยูใช่ไหม ผมใจหายวาบ เกือบไม่ได้ต่อเครื่องบินแล้วไหมล่ะ
• แต่การตกเรือบิน (หมายความว่าต่อเครื่องตามกำหนดไม่ทัน ไม่ใช่ตกลงมาจากเรือบิน) ทำให้มีเวลาซื้อของ ผมซื้อกล้องถ่ายรูป Nikon อย่างดีราคา 170 เหรียญ(สหรัฐ) และวิทยุทรานซิสเตอร์หาคลื่นอัตโนมัติซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่เอี่ยมในขณะนั้นราคา 120 เหรียญ ตอนนั้นผมพอจะมีเงิน เพราะได้รับทุนจาก The China Medical Board of New York (เป็นสาขาของ The Rockefeller Foundation) อ. หมอประเวศติดต่อทุนให้
• ตอนไปถึงดีทรอยต์ก็โกลาหล อาจารย์หมอเสบียง (ศรีวรรณบูรณ์) และพี่ม่ำ (ส่องศรี) มารับเก้อและกลับไป ผมจำไม่ได้แล้วว่าสายการบินเขาช่วยโทรเลขหรือโทรศัพท์แจ้งกำหนดถึงใหม่
• ผมไปนอนหมดแรงที่อพาร์ทเม้นต์ของ อ. หมอเสบียงและพี่ม่ำ ที่ถนน Washtenaw อยู่ถึง 3 วัน 3 คืนจึงค่อยฟื้นแรง ช่วงเดินทางสองวันคงจะใช้ อะดรีนาลินไปจนหมด ฮอร์โมนอะดรีนาลินเป็นสารช่วยชีวิต หลั่งออกมาในช่วงที่เผชิญภัยฉุกเฉิน
วิจารณ์ พานิช
๗ มิย. ๔๙
บนเครื่องบินการบินไทย กรุงเทพ - นิวยอร์ก
ไม่มีความเห็น