**ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 25 ปี 2548 ว 26 ปี 2548 ว 2 ปี 2551 **
1. คุณสมบัติ
1.1 ดำรงตำแหน่ง/วิทยฐานะตามมาตรฐาน วิทยฐานะ
1.2 มีภาระงาน ขั้นต่ำตามส่วนที่ราชการกำหนด
(เฉพาะตำแหน่งครู) นอกนั้นเต็มเวลา
1.3 ปฏิบัติงานตามหน้าที่ ย้อนหลัง 2 ปี
ติดต่อกันนับถึงวันยื่นคำขอ
2. ผ่านการประเมิน 3 ด้าน ดังนี้
ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม
จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
ด้านที่ 2 ด้านความรู้ความสามารถ
ด้านที่ 3 ด้านผลการปฏิบัติงาน
ด้านที่ 1 ด้านวินัย
คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ พิจารณาจาก
1.1
การมีวินัย
1.2
การประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
1.3
การดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม
1.4
ความรักและศรัทธาในวิชาชีพ
1.5
ความรับผิดชอบในวิชาชีพ
ให้ผู้ขอฯ รายงานพฤติกรรมที่แสดงถึงความเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพตามแบบ ก.ค.ศ.2 และรวบรวมเอกสารหลักฐานอ้างอิงไว้ที่สถานที่ปฏิบัติงาน เพื่อรอรับการประเมิน
เมื่อเขียนรายงานแล้วให้นำเสนอ
- ผู้บังคับบัญชา
-
คณะกรรมการสถานศึกษา/คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
เพื่อรับรองการเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพ
หลักฐานอ้างอิง
1. สำเนาประวัติการรับราชการ (ก.พ.7)
2. วุฒิบัตร เกียรติบัตร ฯลฯ
เกี่ยวกับการมีวินัยและการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างวินัย ฯ
3. คำรับรองของผู้บังคับบัญชา
และคณะกรรมการสถานศึกษา/เขตฯ
ด้านที่ 2
ด้านความรู้ความสามารถ
ส่วนที่ 1
ความสามารถในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบ
ส่วนที่ 2 การพัฒนาตนเอง
ให้ผู้ขอฯ รวบรวมเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการพัฒนางานในหน้าที่ และการพัฒนาตนเอง โดยเก็บไว้ที่สถานที่ปฏิบัติงาน เพื่อรอรับการประเมินจากคณะกรรมการชุดที่ 1
ครูผู้สอน
ส่วนที่ 1
การเป็นผู้มีความสามารถในการจัดการเรียนการสอน
พิจารณาจาก
- หลักสูตร
- แผนการจัดการเรียนรู้
- สื่อ/นวัตกรรม
- แฟ้มสะสมผลงานคัดสรร
ส่วนที่
2
การพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะในสาขาหรือกลุ่มสาระที่ รับผิดชอบ
(40 คะแนน) พิจารณาจาก
2.1 การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ
2.2 ผลการทดสอบจากหน่วยงานหรือสถาบันทางวิชาการ
2.3 การประมวลความรู้และการ นำไปใช้สอน
2.4 การให้บริการทางวิชาการและวิชาชีพ
ด้านที่ 3
ด้านผลการปฏิบัติงาน
มี 2 ส่วน
ส่วนที่ 1
ผลการพัฒนาคุณภาพ (60 คะแนน)
ครู พิจารณาจาก
- ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
- ผลประเมินหรือการทดสอบ ระดับเขต/ประเทศ
- ผลการพัฒนาผู้เรียนด้านอื่น ๆ
โดยคำนึงถึงปริมาณ
คุณภาพและสภาพของงานและอาจพิจารณาการปฏิบัติงานจริงด้วยก็ได้
โดยผู้ขอฯ ต้องรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามแบบ
ก.ค.ศ.3/1
ส่วนที่
2 ผลงานทางวิชาการ (40 คะแนน)
- ชำนาญการพิเศษ เสนอผลงานไม่น้อยกว่า 1 รายการ
- เชี่ยวชาญ ไม่น้อยกว่า 2 รายการ
(ต้องเป็นงานวิจัยอย่างน้อย 1 รายการ)
- เชี่ยวชาญพิเศษ ไม่น้อยกว่า 2
รายการ (ต้องเป็นงานวิจัยและพัฒนาอย่างน้อย 1
รายการ)
ผลงานทางวิชาการ
พิจารณาจาก
1. คุณภาพของผลงานทางวิชาการ
- ความถูกต้องตามหลักวิชาการ
- ความสมบูรณ์ของเนื้อหาสาระ
- ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
- การจัดทำ การพิมพ์ และการจัดรูปเล่ม
2. ประโยชน์ของผลงานทางวิชาการ
- ประโยชน์ต่อผู้เรียน ครู
บุคลากรทางการศึกษา การจัดการศึกษา หน่วยงานการศึกษา
และชุมชน
-
ประโยชน์ต่อความก้าวหน้าทางวิชาการและการเผยแพร่ในวงวิชาการ
3. คณะกรรมการประเมินมี 2 ชุด
- ชุดที่ 1 ประเมินด้านที่ 1 และด้านที่ 2
- ชุดที่ 2 ประเมินด้านที่
3
4. คณะกรรมการชุดที่ 1
ประเมินด้านที่ 1 (ด้านวินัยฯ)และประเมินด้านที่ 2 (ด้านความรู้
ความสามารถ)
- ให้ประเมินที่สถานศึกษา และตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน
ผลการปฏิบัติงานจริงที่สถานศึกษา
- บันทึกคะแนนผลการประเมิน
- บันทึกจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา
-
ส่งผลการประเมินให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
5. คณะกรรมการชุดที่ 2 ตั้งจากบัญชีรายชื่อ
ผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. ให้ความเห็นชอบ (ผู้ขอ 1 ราย
มีกรรมการประเมิน 3 คน) ประเมินด้านที่ 3 ทั้ง 2 ส่วน
(ผลการพัฒนาคุณภาพฯ และผลงานทางวิชาการ)
วิธีการ
- ให้ผู้ขอฯ
ส่งคำขอและผลงานด้านที่ 3 มาพร้อมกับคำขอได้ปีละ 1
ครั้ง
- ขอได้ทั้งปี (ผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ
ให้ยื่นคำขอพร้อมกับผลงานด้านที่ 3
ก่อนจะเกษียณฯ ไม่น้อยกว่า 6 เดือน)
- ให้ผู้ขอฯ สามารถพัฒนาผลงานด้านที่ 1และด้านที่ 2
ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละ
ไม่เกิน 3 เดือน หากไม่ผ่านถือว่า ไม่ อนุมัติ
- หากผ่านด้านที่ 1 และด้านที่ 2
จึงจะ ประเมินผลงานด้านที่ 3
- ผู้ขอฯ สามารถปรับปรุงผลงานด้านที่ 3 ทั้ง 2
ส่วน ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ไม่เกิน 6
เดือน (ผลการประเมินต้องผ่านเกณฑ์จากกรรมการไม่น้อยกว่า
2 ใน 3
คน ) และครั้งที่ 2 ไม่เกิน 3 เดือน
- หากส่งเกินเวลาอาจเสียสิทธิ์
-
หากผ่านให้แต่งตั้งได้ไม่ก่อนวันที่ได้รับผลงานปรับปรุง
ครั้งหลังสุด
การอนุมัติ
- ไม่ก่อนวันที่ สพท. รับคำขอฯ
- ถ้ามีการพัฒนาด้านที่ 1 หรือด้านที่
2 หรือ ปรับปรุงด้านที่ 3 ให้อนุมัติไม่ก่อนวันที่ สพท./สำนักงาน
ก.ค.ศ.
ได้รับหนังสือที่ส่งรายละเอียดในการพัฒนาหรือปรับปรุงครบถ้วนสมบูรณ์ครั้งหลังสุด
- ถ้าประเมินไม่แล้วเสร็จภายใน
1 ปี สพท./สำนักงาน ก.ค.ศ. ต้องแจ้งผู้ขอฯ
ทราบและเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
-
ต้องมีเงินเดือนห่างขั้นต่ำไม่เกิน 1 ขั้น
-
ต้องผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งตามมาตรา 80
(เฉพาะวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและ วิทยฐานะเชี่ยวชาญ)
ผลการพิจารณาให้ถือเป็นอันสิ้นสุด
การขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ
1. ยื่นแบบเสนอขอ ดังนี้
- วิทยฐานะชำนาญการทุกตำแหน่ง
ใช้แบบ ก.ค.ศ. 1
- วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
เชี่ยวชาญและเชี่ยวชาญพิเศษทุกตำแหน่งใช้แบบ ก.ค.ศ. 1/1
2. ยื่นแบบรายงานด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพ ทุกวิทยฐานะที่ขอ ตามแบบ ก.ค.ศ.
2
3. ยื่นแบบรายงานผลการปฏิบัติงาน
-
วิทยฐานะชำนาญการทุกตำแหน่งตามแบบ ก.ค.ศ. 3
- วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ
และเชี่ยวชาญพิเศษ ทุกตำแหน่ง ตามแบบ ก.ค.ศ. 3/1 -
ก.ค.ศ.3/4
4. ผลงานทางวิชาการตามที่หลักเกณฑ์กำหนด
สวัสดีค่ะคุณครูแป๋ม
แวะมาอ่านและรับทราบข้อมูลดี ๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(^___^)
สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีราก
สวัสดีค่ะพี่ครูแป๋ม
เทียนน้อยยังสงสัยว่าเกณฑ์ใหม่นี้เขาดูฐานเงินเดือนอยู่ไหมคะ
เหมือนกับว่าเงินเดือนต้องถึงเกณฑ์ที่กำหนดอยู่นะคะ...^_^
สวัสดีค่ะครูพี่แป๋ม
สบายดีนะคะ เห็นบรรยากาศในห้องเรียนสนุกสนานกับการเรียนรู้
อย่างนี้ช่วงปิดเทอม คุณครูก็เหงาแย่เลยสิคะ มีความสุขมากมายค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูธนิตย์
ฝากรูปเด็กชายผู้ใฝ่รู้มาให้ชมค่ะ.
เรียนท่านผู้รู้
การส่งผลงานเพื่อขอวิทยฐานะชำนาญการพิเศษสายบริหารสถานศึกษา(เกณฑ์ใหม่ ตุลา 52 ต้องผ่านการอบรมก่อนเหมือนเกณฑ์เดิมหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ