หน้าแรก
สมาชิก
นาย นายทันดร ธนะก...
สมุด
สศต. มสธ.
การฝึกอบรมในระบบก...
นาย นายทันดร ธนะกูลบริภัณฑ์
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
การฝึกอบรมในระบบการศึกษาทางไกล
อบรมทางไกล
การฝึกอบรมในระบบการศึกษาทางไกล
ทันดร
ธนะกูลบริภัณฑ์*
บทนำ
บุคลากรหรือ
“
คน
”
นั้นเป็นปัจจัยที่กำหนดทุกอย่างในองค์กร ถ้าคนเก่ง คนมีความรู้ความสามารถ งานต่าง ๆ ที่เป็นวัตถุประสงค์ขององค์กร ก็จะสำเร็จได้ด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง ประหยัด มีประโยชน์สูงสุด
คนหรือมันสมองของหน่วยงานที่ต้องได้รับการพัฒนา เพราะหากมีแต่เงิน
เครื่องมือ อุปกรณ์พร้อมแต่
คน
ไม่พร้อม การขับเคลื่อนหรือการพาองค์กรไปในทิศทางที่เจริญขึ้นกับทั้งต้องแข่งขันกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ปัจจุบันเป็นโลกแห่งความรู้บนฐานเศรษฐกิจ (
Knowledge – Based Society)
ไม่ได้
การฝึกอบรมนั้นเป็นแนวทางการพัฒนาคนที่ทำงานอยู่แล้วเป็นหลักให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น การจะพัฒนางานจำเป็นต้องมีการพัฒนาคน พัฒนาสมรรถภาพ(
Competency)
ของผู้ทำงาน ทุกองค์กรต้องการ
คนเก่ง
คนดี
คนมีความรู้
ความเข้าใจ
ทักษะ และทัศนคติที่ดีต่อหน่วยงาน หากผู้เข้ารับการอบรมได้นำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงาน การจะทำให้เกิดผล จำเป็นที่หน่วยงานผู้ประสงค์จะพัฒนาคน จะต้องวางแผนการฝึกอบรมให้ตรงต่องาน และของหน่วยงาน
เทคนิควิธีการของการจัดฝึกอบรมนั้นมีมากมายหลายแบบ ที่จัดกันอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการบรรยายและอภิปราย การมีบทบาทของผู้เข้าร่วม การจัดเฉพาะตัว การใช้โสตทัศนูปกรณ์ นั่นก็แล้วแต่ชนิด ลักษณะ
และประเภทงานการอบรมหลักสูตรและจำนวนผู้เข้ารับการอบรม
ระบบการอบรมทางไกล
(
Distance Training
) เป็นการอบรมที่นิยมใช้กันอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเป็นการอบรมที่สามารถดำเนินการให้กับคนจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งเหมาะกับการดำเนินการของหน่วยงานที่มีคนในสังกัดที่มีการทำงานในลักษณะเดียวกันกระจายไปทั่วประเทศ เพราะมีลักษณะของงานที่เหมือนๆกันในการออกให้บริการประชาชน
สำนักการศึกษาต่อเนื่อง เป็นหน่วยงานในสังกัดของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ที่ใช้ระบบการศึกษาทางไกลให้บริการแก่ผู้สนใจศึกษามาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ในปีแรกมีผู้สมัครเข้าศึกษากว่าแปดหมื่นสี่พันคน นับเนื่องถึงปัจจุบันมีผู้สมัครเป็นนักศึกษาและผู้เรียน ประมาณ
3,000,000 คน
สำเร็จเป็นบัณฑิตไปแล้วกว่า 300,000 คนในหลายระดับการศึกษา
ดังนั้นในฐานะที่เป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่มีการกำหนดว่าจะต้องมีการบริการทางวิชาการแก่สังคม
ดังนั้น การจัดการฝึกอบรมจึงควรมีการดำเนินการให้สอดคล้องกับรูปแบบของการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัย
ทิศทางการพัฒนางานของสำนักการศึกษาต่อเนื่องในการฝึกอบรม
ในระบบการศึกษาทางไกลที่มหาวิทยาลัยใช้อยู่นั้น
การเจริญเติบโตทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ การสื่อสารผ่านทางอินเทอร์เน็ต(
Internet
)การอบรม ทางไกลมีความเป็นไปได้
และมีแต่จะขยายตัวมากขึ้นตาม เทคโนโลยีที่สำคัญเช่น ดาวเทียม
เส้นใยนำแสง
ที่มีอยู่แล้วในประเทศ ที่ยังช้าอยู่เป็นเพียงแต่การเชื่อมโยงเป็นระบบที่มีผู้ให้บริการที่แตกต่างกันหากมีการปรับกฎหมาย
เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี ในการให้บริการโทรคมนาคม
การเจริญเติบโตของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สำนักจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับระบบหรือพัฒนารูปแบบและกระบวนการให้บริการให้เป็นรูปแบบเดียวกับมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งใช้ เทคโนโลยีสมัยใหม่มาให้บริการและควรเป็นการบริการวิชาการในรูปแบบเชิงหน่วยงานอิสระที่จะต้องดำเนินการเพื่อความคล่องตัวในทุกรูปแบบ
และระบบการศึกษาทางไกลที่บุคลากรมีความเคยชินและเข้าใจกันดีแล้ว
ดังนั้น
การฝึกอบรมทางไกล
จึงจะเป็นจุดมุ่งหมายหลักที่จะต้องดำเนินการต่อไป
ตามสภาพความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
โดยมีแนวคิด
ทิศทางการพัฒนางานของสำนักดังนี้
1. ปรับรูปแบบเป็นหน่วยงานอิสระเชิงธุรกิจ
ในการดำเนินงานตั้งแต่ปี
2550
เป็นต้นไป
สำนักจะก้าวเข้าสู่การเป็นหน่วยงานอิสระเชิงธุรกิจหรือเป็นหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ(
SDU
)ที่จะมีความคล่องตัวในการทำงาน
การบริหารงาน
การบริการ
การกำหนดอัตราค่าตอบแทบ
การบริหาร คน วัสดุ
ครุภัณฑ์ ที่ออกนอกระบบราชการ
มีการจ้างคนเข้าทำงาน
การฝึกอบรม
การจ้างบริษัทที่ปรึกษาหรือการเป็นเครือข่ายร่วมในการดำเนินการด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์กับหน่วยงานอื่น
2. การขยายงานเชิงรุก
จากการที่สำนักแต่เดิมมาใช้วิธีการประชาสัมพันธ์จัดหลักสูตรและอบรมแต่เฉพาะในที่ทำการ
ณ
มหาวิทยาลัย รวมถึงการผ่านสื่อต่างๆมีการดำเนินการ
ตามสถานการณ์ที่มีการแข่งขันกันอย่างมากในหลายสถาบันการศึกษา
รวมทั้งบริษัทเอกชน
ดังนั้น
การทำงานแบบเดิมๆนั้นจะไม่สามารถทำงานได้ดีอีกต่อไปในโลกยุคที่ต้องแข่งขัน
จึงจำเป็นที่จะต้องขยายงานเชิงรุกโดยการไปจัดอบรมในภูมิภาค
ระยะเริ่มต้นจะเป็นเครือข่ายในการหากลุ่มเป้าหมาย
รวมถึงกลุ่มที่เป็น
In-house
สำหรับงานฝึกอบรมตามสถานประกอบการต่างๆ
และจะขยายไปเป็นเครือข่ายความร่วมมือกับศูนย์บริการการศึกษาประจำจังหวัดและสถานที่จัดอบรมนั้นจะใช้บริการตามโรงแรมหรือสถานศึกษาที่มีศักยภาพและพร้อมในการให้บริการ
3. กลุ่มเป้าหมายของการฝึกอบรม
ในการจัดบริการทางวิชาการในระยะสั้นนั้นกลุ่มเป้าหมายเน้นไปยังกลุ่มผู้มีงานประจำทำอยู่แล้ว
เป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ
เพิ่มทักษะในการพัฒนาคน
พัฒนางาน
เป็นการสร้างคนเพื่อไปสร้างงานหรือเป็นการปรับเลื่อนวิทยฐานะของผู้มาเข้าอบรมทำให้เป็นผู้คิดเป็น
ทำเป็น
โดยปกติแล้วกลุ่มแรกที่มักจะเข้ามาพัฒนาตนเองมักเป็นข้าราชการที่เป็นนโยบายของรัฐที่กำหนดให้ทุกคนได้เข้ารับการอบรม
ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายของการพัฒนาคนด้วยการอบรมอาจแบ่งเป็น
3.1 อบรมทั่วไป
(Public Training
)
ให้ความรู้ทั่ว ๆ ไป
ไม่เป็นการเฉพาะผู้ใด
คนมาเข้า
หลากหลายทั้งระดับความรู้และประเภทของงานที่ปฏิบัติอยู่
จะเข้ามาพัฒนาแนวคิด เทคนิควิธีการทำงาน
แต่มีความใกล้เคียงกันในงานประจำที่ทำอยู่
3.2
In-house
Training
จะจัดให้กับบุคลากรในหน่วยงานนั้น ๆ
ที่ทางเจ้าของหน่วยงานบริษัทจะเป็นผู้กำหนดตัวคนไว้แล้ว
จะเป็นการพัฒนาเฉพาะด้านตามกำหนด
อาจจะเป็นการขอให้ไปจัดโดยความเชื่อถือหรือการขอเข้าไปจัดจากการเห็นว่าน่าจะทำได้
จึงอาจรวมถึงเป็นโครงการความร่วมมือกับส่วนราชการหรือหน่วยงานเพื่อดำเนินการ
ในปี
2550
เป็นต้นไป
กลุ่มเป้าหมายหลักที่สำนักการศึกษาต่อเนื่องจะไปดำเนินการเป็นกลุ่ม
In-house
โดยหากลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ เพื่อการฝึกอบรมที่เป็น
หน่วยงานภาครัฐ
รัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน
4. การหารายได้และการใช้จ่ายเงินรายได้
ในการดำเนินการในระบบรูปแบบพิเศษที่มหาวิทยาลัยกำหนดนั้น
ส่วนหนึ่งต้องดำเนินการ
เพื่อหารายได้คืนให้กับมหาวิทยาลัยเป็นค่าสถานที่ บุคคลและการใช้วัสดุเครื่องมืออุปกรณ์ของมหาวิทยาลัย
ในการดำเนินการ
ในขณะที่มหาวิทยาลัยกำลังประสบปัญหาเรื่องรายได้ที่มีน้อยลง
จำเป็นอย่างยิ่งต้องปรับ
ระบบการทำงานของสำนักให้พึ่งตนเอง
มีการวางระบบพัฒนาสื่อหรือเทคโนโลยีการฝึกอบรม
โดยใช้
เครื่องมืออุปกรณ์สมัยใหม่
การเปิดหน้า
Home page
ฝึกอบรมใน
Internet
การซื้ออุปกรณ์พื้นฐานที่
จำเป็นต่องาน
สำนักการศึกษาต่อเนื่องจำเป็นต้องเป็นจุดขายหรือจุดทำรายได้ให้กับมหาวิทยาลัย
โดยในการ
หารายได้นั้นอาจดำเนินการออกมาได้จาก
4.1
จัดการฝึกอบรมปกติ
(
ระยะสั้น
)
(Public Training)
4.2
การให้บริการเป็นที่ปรึกษา
(Consult)
4.3
การจัดอบรมทางไกล
(Distance Training)
4.4
การเป็นวิทยากรของบุคลากร
4.5
โครงการความร่วมมือฝึกอบรม
(Co-operation
training)
5. การจัดบริการทางวิชาการแบบให้เปล่า
การเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ยอมรับของสังคม
และการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเป็นสิ่งหลัก
เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องจัดตอบแทนให้กับสังคม
ดังนั้น
สำนักการศึกษาต่อเนื่องจึงมีแนวทางการดำเนินการบริการทางวิชาการแบบให้เปล่า
โดยการจัดฝึกอบรมในลักษณะร่วมจัดกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานหรือส่วนราชการอื่นที่มีวิทยากรและกลุ่มเป้าหมายแล้ว
สำนักเข้าไปทำหน้าที่บริหารจัดการอันจะเป็นการสร้างภาพให้กับหน่วยงาน
เป็นการประชาสัมพันธ์ทางอ้อมให้กับการเป็นนักศึกษาในอนาคต
โดยประมาณว่าจะต้องดำเนินการปีละ
2
ครั้ง
6. การจัดฝึกอบรมแบบนานาชาติ
/
หรือการประชุมนานาชาติ
เพื่อการก้าวสู่ความเป็นสากลและเป็นการกระตุ้นการพัฒนาคนให้ต้องฝึกอบรมเพิ่ม
จำเป็นต้อง
มีการฝึกอบรมหรือจัดประชุมนานาชาติขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยจะเริ่มจากกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ก่อน
เช่น
มาเลเซีย
สิงคโปร์
อินโดนีเซีย
ฟิลิปปินส์
ลาว
เขมร
พม่า
เป็นการขยาย
ขอบเขตงาน
และจะทำให้สำนักเป็นหน่วยงานที่เป็นจุดขายของมหาวิทยาลัย
7. การขยายงานไปยังภูมิภาค
ในโลกยุคเร็ว
ทันที
ถูกต้อง
ใกล้ตัว
สำนักจะต้องพัฒนาระบบการให้บริการที่เป็นที่ถูกใจ
ตรงใจผู้ขอใช้บริการ
ดังนั้นเมื่อมีหลักสูตร
มีวิทยากร
มีสื่อประกอบ
มีเครื่องมือในการจัดการ
จำเป็นต้อง
ขยายงานไปยังส่วนภูมิภาคตามจังหวัดที่มีกลุ่มเป้าหมายโดยประสานกับศูนย์วิทยพัฒนาและสถานที่เข้า
ร่วมมือกันหารายได้
แม้จะขาดทุนบ้างกำไรบ้างก็ต้องทำเพื่อการประชาสัมพันธ์งาน
โดยภาพรวมของ
มหาวิทยาลัยซึ่งการขยายงานไปในภูมิภาคนั้นต้องเข้าไปจับเข้ากับกลุ่มภารกิจต่าง ๆ
ตามนโยบายของ
รัฐบาลในการให้บริการประชาชน
การเจริญเติบโตและความก้าวหน้าของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งนับวันจะมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด
ย่อมแสดงถึงจะเป็นสิ่งที่เอื้อต่อระบบการอบรมทางไกล
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่รวมการเรียนรู้ และการศึกษาอยู่ในตนเอง
การใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อเผยแพร่บทเรียน การใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
และกลุ่มข่าวสารเพื่อการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น(
CHAT
) และส่งการบ้าน
กระทำได้อย่างประหยัดในปัจจุบันสามารถใช้
E-mail
ติดต่อกัน
การเผยแพร่บทเรียนได้เช่นเดียวกัน
หรือการใช้โทรศัพท์ผ่านอินเตอร์เน็ตในราคาที่ต่ำ และไม่ขึ้นกับระยะทาง
ย่อมจะเปิดโอกาสให้เกิดการประชุมด้วยเสียง (
Audio Conference
)
และการประชุมด้วยภาพและเสียงทางไกลพร้อมกัน
(
Video Conference
)
เมื่อมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานที่เป็นจริงได้
คงจะเป็นโครงการขยายงาน ของมหาวิทยาลัยไปในส่วนภูมิภาค
ไปยังศูนย์วิทยพัฒนาและศูนย์ความร่วมมืออื่นๆได้
บทสรุป
ปัญหาและอุปสรรคจะต้องเป็นเรื่องที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องที่มาช่วยกันพิจารณาหาทางที่เหมาะสมคุณภาพงานสำเร็จ
ในการใช้ต้นทุนที่ต่ำ
ที่สำคัญที่สุดคงจะเป็นการบริหารเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ
การเลือกหลักสูตรสาขาวิชาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ ความต้องการของประเทศโดยส่วนรวม
อีกทั้งการสร้างเนื้อหาหลักสูตรต้องที่มีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของผู้ที่เข้าอบรมแล้วเกิดประโยชน์ทั้งหน่วยงานและตัวผู้รับอีกทั้ง ค่าใช้จ่าย อื่นๆ ที่นอกเหนือจากเทคโนโลยี
อาทิ บุคลากร ที่มาทำหน้าที่ และที่สำคัญทีสุดคือ
การมีองค์กรบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพและมีความเป็นสากล
มีความคล่องตัวเป็นอิสระและสามารถช่วยหน่วยงานแม่ในการเพิ่มรายได้และสร้างภาพลักษณ์ที่เสริมระบบที่ดำเนินการอยู่
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นาย นายทันดร ธนะกูลบริภัณฑ์
ใน
สศต. มสธ.
คำสำคัญ (Tags):
#ทันดร
#แจ้งแนวคิดการอบรม
หมายเลขบันทึก: 34633
เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2006 11:45 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:10 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นาย นายทันดร ธนะก...
สมุด
สศต. มสธ.
การฝึกอบรมในระบบก...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท