ระยะสุดท้ายของชีวิต


ก่อนตาย

      เล่าสู่กันฟัง ระบายความรู้สึก

ความตายเป็นเรื่องที่ทุกคนหนีไม่พ้นไม่เร็วก็ช้าทุกคนก็ต้องได้พบ เมื่อร่างสิ้นสลายเหลือแต่ความดีเท่านั้นที่จะเป็นสิ่งที่ควรจดจำไว้ตลอดกาล

       คนไข้รายหนึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายของชีวิตเขาต้องทุกข์ทรมานในความเจ็บปวดมานานมากนอนโรงพยาบาลแทนบ้านและที่สำคัญคือเขาไม่มีบ้านที่จะนอนด้วย บัตรประชาชนก็ไม่มี เขาจึงเลือกที่จะอยู่โรงพยาบาลดีกว่า ผู้ป่วยนอนนานๆๆย่อมมีความผูกพันธ์ ความห่วงใยความสงสารมากขึ้นเอื้ออาทรด้วยไมตรีจิตที่ดีรู้สึกเหมือนเขาเป็นญาติคนหนึ่ง และทราบข่าวจากเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมอาการผู้ป่วยคนนี้ว่าเป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ เป็นคนซื่อๆเพื่อนบ้านที่มาเยี่ยมบอกว่าชีวิตผู้ป่วยรายนี้น่าสงสารทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด รับจ้างทำงานทุกอย่าง ให้ครอบครัวอยู่สบาย และมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนบ้านมาตลอด เขารับจ้างเลี้ยงเป็ด เป็ดไข่ในนาผู้จ้าง เขายังนำไข่เป็ดมาคืนเจ้าของนา  เป็นที่น่าสงสารความโชคร้ายที่เขาเป็นมะเร็ง และตรวจพบเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

       วาระสุดท้ายของชีวิตเหมือนรอใครซักคนเพื่อนบอกว่าเขาเขาหอบเหนื่อยทั้งวันเลยเรียกไม่รู้ตัวเหมือนจะลาจากโลกนี้ไปแล้ว เเละเย็นวันนั้นดิฉันมาปฏิบัติงานเวรบ่าย มาทำแผลให้เขาเรียกเขาจากคนที่นอนไม่รู้สึกตัว เขารับรู้มองตามเสียงได้ แววตาเขาสดใสขึ้นคำแนะนำที่จะสอนเขาเสมอทุกครั้งที่มาทำแผลให้คือให้ทำสมาธิกำหนดจิต ทำจิตใจให้สงบ คิดถึงคุณพระ และขออโหสิกรรมถ้ามีอะไรล่วงเกินเขา เขาพยักหน้ารับรู้ได้สีหน้าดูดีขึ้น เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเหมือนเขาจะรู้ว่าพรุ่งนี้ดิฉันไม่มาทำงาน แล้ววาระสุดท้ายของเขามาถึงดูเหมือนเขาจะพยายามที่จะรอพบและบอกลาเขามีอาการเหนื่อยล้าหายใจแผ่วเบาด้วยอาการของโรค  ดิฉันพูดคุยกับเขาสัมผัสที่แขนเบาๆ พร้อมอธิบายอาการให้ญาติทราบ  ให้เขาท่องพุทโธ....พุทโธ....ๆๆๆๆจนเขาสิ้นลมหายใจด้วยความสงบ 9 มีนาคม 2553

    " คนดี มีความซื่อสัตย์ รู้จักหน้าที่ตนเอง ย่อมเป็นที่รักของคนทั่วไป "

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 343263เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2010 13:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดี ครับ

เข้ามาอ่านบันทึกนี้ แล้วรู้สึกคล้อยตาม นะครับ

ขอดวงวิญญานของเขา จงไปสู่ภพภูมิที่ดี

คนดี มีความซื่อสัตย์ รู้จักหน้าที่ตนเอง ย่อมเป็นที่รักในทุกที่ที่เขาไป

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาทักทาย และคำนี้ ย่อมเป็นที่รักในทุกที่ที่เขาไป  ใช่เลยค่ะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาเรียนรู้ค่ะ

ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น

ชื่นชมค่ะที่ได้ดูแลเขาในวาระสุดท้าย

เป็นกำลังใจในการทำงานค่ะ

ชื่นชมค่ะ ที่คุณได้ทำดีเพื่อดี

มาชื่นชมผู้ส่งจิตผู้ตายสู่สุคติด้วยวิถีพุทธค่ะ...เป็นประสบการณ์ที่เป็นแบบอย่างของการเจริญมรณานุสติทุกขณะจิตนะคะ..ขอผลบุญกุศลนี้ส่งให้คุณจงมีความสุขตามที่ปรารถนทุกประการค่ะ..

ขอบพระคุณค่ะ อาจารย์หมอ

...อ่านบันทึกนี้แล้วทำให้ผมต้องรีบ เจริญมรณาสติให้มากขึ้นแล้วครับ

...ขอบคุณ jinni

...ผลของการส่งจิตจงทำให้คุณมีความสุขเจริญด้วยเถิด

...สาธุ

สวัสดีค่ะIco48 ความตายเป็นเรื่องธรรมดา...และผู้ที่มีประสบการณ์และมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายย่อมมองเห็นเป็นปกติ...แต่ต้องขอชื่นชมคุณjinniมากๆค่ะ ที่มีจิตใจอ่อนโยนมีเมตตา...กับคนไข้ระยะสุดท้ายที่นอนโรงพยาบาลแทนบ้าน ...นึกถึงตอนคุณแม่นอนป่วย...ในระยะสุดท้าย...มีพยาบาลมาถามว่าพี่จะใส่บาตรตอนเช้าไหมจะนิมนต์พระมาที่ห้อง...ก็ดีใจ...แต่ไม่เข้าใจความนัยคิดแต่พยายามยื้อชีวิตคุณแม่...ก็จัดเตรียมทั้งอาหารและสังฆทานหลายชุดกะว่าจะใส่ทุกวันในขณะที่คุณแม่รักษาตัวอยู่เพราะไม่ทราบว่าเป็นระยะสุดท้าย...ใส่บาตรได้สองวันพอวันที่สามเห็นสายแล้วพระยังไม่มาก็เดินไปถามพยาบาลว่าเช้านี้พระจะมารับบิณฑบาตรหรือเปล่า...พยาบาลตอบว่าไม่ได้ใส่ได้ทุกวันนะคะเพราะต้องมีคนไปรับพระจากตึกที่พระสังฆราชประชวร...ก็ยังไม่เอะใจยังนำของไปใส่บาตรหน้าโรงพยาบาล...อธิษฐานขอให้แม่หายไวๆ...วันรุ่งขึ้น...มองดูแม่อย่างพิจารณา...ก็รู้(insight)ว่าร่างกายคุณแม่ไม่ไหวแล้วถึงแม้ตลอดการรักษา คุณแม่ไม่มีอาการเจ็บปวดทรมานใดๆเลยคงได้รับยาระงับความเจ็บปวด....เมื่อหมอมาบอกว่าวันนี้จะผ่าตัดก้อนเนื้อที่ตับโดยบอกว่าต้องผ่าตัดผ่านไต...จึงไม่อนุญาต...พยาบาลก็ได้ถอดอุปกรณ์ต่างๆออกจากร่างกายคุณแม่...ทั้งๆที่ยังหายใจอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่อาจลืมได้ตลอดชั่วชีวิตนี้...นึกถึงภาพทีไรก็ร้องไห้...ทำไมหมอและพยาบาลจึงปฏิบัติกับคนไข้ระยะสุดท้ายแบบนี้...

 

ท่องพุทโธ ก่อนสิ้นชีวิตไป

เกิดสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นอย่างน้อยแน่นอน

บารมีของพระ ได้อานิสงส์มาก

สวัสดีค่ะอ.ดร.พจนา

เสียใจด้วยนะคะการจากไปของคุณแม่ ท่านอาจารย์เป็นคนมีบุญเหลือเกินที่ได้ดูแลคุณแม่ระยะสุดท้าย

ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้ ยามป่วยไข้ หวังเจ้า เฝ้ารักษา

เมื่อถึงยาม ต้องตาย วายชีวา หวังลูกช่วย ปิดตา เมื่อสิ้นใจ

บางครั้งอาจจะมีการสื่อสารอะไรที่ไม่ตรงกันก็ได้นะคะ

มีญาติมาร้องขอให้หยุดช่วยเหลือชีวิตบอกว่าทรมานสงสารผู้ป่วย แพทย์ พยาบาลยังไม่สามารถทำได้เลยค่ะ

เพราะเราเป็นมนุษย์และศาสนาเดียวกัน ต้องรอให้เขาจากไปอย่างสงบเอง

อนุโมทนาบุญ และส่งกำลังใจกับการทำงานนะคะ

ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่ยังไม่มีบัตรปชช. ไม่มีญาติพี่น้อง ระยะสุดท้ายของชีวิต ต้องมรณานุสติ บ่อยๆ ขอบพระคุณค่ะ

มาร่วมอนุโมทนาด้วยครับ

ขอชื่นชมการทำบุญให้ผู้อื่น ทำได้ก็ทำครับ เพราะเวลาของเราทุกคนเองก็เหลือตามเหตุและปัจจัยของเรา ซึ่งเป็นได้ทุกกาลครับ

เป็นที่มาของการกำหนดถึงความตายในทุกขณะครับ

ความตายยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจ ทำให้คุ้นเคยและเป็นโอกาสให้เตรียมตัวสำหรับการเดินทางในอนาคตกาลครับ

เจริญสุขครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท