กลอนแม่เพราะๆ


มาฟังคำกลอนเกี่ยวกับแม่กันดีกว่า แล้วคุณจะรักแม่อีกเยอะ

กลอนแม่ซึ้งๆ

     ร่มไทรงามยามเช้าคราวเบิกฟ้า สร้อยระย้าม่านไทรไหวอ่อนหวาน

ให้ความรื่นชื่นเย็นและเบิกบาน คุ้มภัยพาลจากกิ่งใบไม้ไทรบัง
ยามราตรีมีความหมายให้พิงพัก เข้าร่มรักถักทอก่อความหวัง

เป็นเรือนนอนผ่อนใจให้พลัง ร่มไทรยังความสดชื่นให้คืนมา
เย็นร่มไทรเพียงหนึ่งในส่วนของล้าน ไม่เปรียบปานร่มชีวีที่แน่นหนา

คือร่มเกล้าอุ่นเกศของมารดา แผ่ปกมาคราชนม์เริ่มบนครรภ์
สายโลหิตสนิทแนบแอบไอรัก แม่ฟูมฟักถนอมหวังตั้งความฝัน

ป้อนอาหารผ่านสายใจไปให้กัน รอคอยวันพบหน้ามาอิงทรวง
เห่กล่อมขวัญวันลืมตามาพบพักตร์ กระแสรักแผ่ไปอย่างใหญ่หลวง

ธารน้ำนมผสมใจแม่ทั้งดวง บำรุงเลี้ยงให้ล่วงเจริญวัย
จวบวันนี้จะกี่ปีที่ผันผ่าน ต้นรักยังแตกก้านกิ่งไสว

ผลิใบรักถักดอกบอกเยื่อใย จากหัวใจของแม่แผ่คุ้มเงา
กี่ร้อนแล้งแห้งไร้น้ำไหลหลาก ใบรักจากใจแม่ไม่เคยเฉา

ให้ความเย็นคลายร้อนผ่อนบรรเทา อบอุ่นใจคลายเศร้าทุกคราวเอย .

------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทกลอนพระคุณแม่

แม่สละสวย สละสาว คราวอุ้มท้อง แม่ไม่ร้อง แม่ไม่บ่น แม่ทนได้
แม่เฝ้าถนอม จนครรภ์แก่ แม่เต็มใจ จะหาใคร เหมือนแม่ แพ้ทุกคน

ครบสิบเดือน เคลื่อนคลอด รอดชีวิต แม่ใกล้ชิด ลูกน้อย คอยฝึกฝน
แม่ลำบาก อย่างไร ใจแม่ทน สายเลือดข้น เต้าแม่กลั่น ปันลูกกิน

แม่ป้องริ้น ป้องไร มิให้ผ่าน แม่สงสาร ห่วงลูกยา กว่าทรัพย์สิน
แม่เห่กล่อม ยามนิทรา เป็นอาจิณ แม่ไม่ผิน แม่ไม่ผัน ทุกวันมา

ยามลูกสุข แม่สุขสม อารมณ์ชื่น ยามลูกขื่น แม่ขม ระทมกว่า
ยามลูกไข้ แม่อดนอน ร้อนอุรา ยามลูกยา อับโชค แม่โศกใจ

คราลูกหิว แม่หิวกว่า น้ำตาร่วง แม่เป็นห่วง ดิ้นรนหา เอามาให้
แม้แม่อด หมดข้าวปลา ไม่ว่าไร แม่สละได้ ลูกอิ่มแปร้ แม่ทนเอา

ใครไหนเล่า เฝ้าอบรม บ่มนิสัย แม้เติบใหญ่ ไม่ท้อถอย คอยนั่งเฝ้า
พระคุณเลิศ ลูกโศก ช่วยบรรเทา ใครไหนเล่า รักมั่นแท้ แม่ฉันเอง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
แม่ แม่ แม่

แม่ ๆ แม่ คำนี้มีความหมาย แม่เป็นได้หลายสิ่งหลายสถาน
แม่เป็นได้หลายสิ่งหลายประการ เป็นธนาคารเป็นเป็นพระพรหมเป็นร่มไทร
เป็นผู้ให้กำเนิดเกิดลูกรัก เป็นผู้ให้ที่พักพิงอาศัย
เป็นผู้ให้ไออุ่นทั้งกายใจ เป็นผู้ให้อะไรอะไรไม่รามือ
ยามลูกป่วยแม่ให้การรักษา ลูกโตมาแม่ให้เรียนหนังสือ
ลูกต้องการตำราแม่หาซื้อ ลูกปรึกษาหารือแม่ยินดี
ลูกคนใดกระทำกรรมแก่พ่อแม่ สุดเลวแท้ชั่วช้าสิ้นราศรี
ลุกด่าแม่ตีพ่อลุกกาลี ลูกอัปรีย์ทำแม่ช้ำน้ำตาริน
น้ำตาแม่ไหลรินเมื่อลูกร้าย น้ำตาแม่เป็นสายเมื่อลูกหมิ่น
น้ำตาแม่หลั่งลงรดแผ่นดิน แม่ยอมสิ้นสละแม้จะตาย


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------


รักใดเล่าจะแน่เท่าแม่รัก
ผูกสมัครรักมั่นไม่หวั่นไหว
ห่วงใดเล่าเท่าห่วงดังดวงใจ
ที่แม่ให้แก่ลูกอยู่ทุกครา
ยามล้มกลิ้งใครหนอวิ่งเข้ามาช่วย
แล้วปลอบด้วยคำหวานกล่อมขวัญให้
พร้อมจูบที่เจ็บชมัดปัดเป่าไป
ผู้นั้นไซร้ที่แท้ .. แม่ฉันเอง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เสียงใดเล่าไพเราะเสนาะแน่ เสียงของแม่ไพเราะเสนาะยิ่ง

เสียงแม่ใสไพเราะเสนาะจริงเสียงแม่ยิ่งไพเราะเสนาะนาน


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


สองมือจับไถใจแน่วแน่
ตั้งใจแท้เพื่อลูกรักจักสดใส
ส่งลูกเรียนเขียนอ่านคิดการณ์ไกล
เพียงเพื่อให้สมหวังดังใจจินต์
แม้แดดร้อนฝนโปรยแม่โหยแห้ง
ถึงสิ้นแรงเหนื่อยกายไม่ถวิล
เหงื่อไหลย้อยรินหยดรดแผ่นดิน
แม่ยอมสิ้นสละแม้จะตาย ฯ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เหงื่อไคลไหลรินลงโลมดินแทบสิ้นใจ
ก้มหน้าหาเงินไปเพื่อให้ใครได้อยู่กิน
อดนอนทนร้อนหนาวอดหวานคาวอดข้าวกิน
แม่อดจนหมดสิ้นให้ลูกกินหมดสิ้นเอย ฯ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------


เสียงของแม่ไพเราะเสนาะแน่
เสียงของแม่ไพเราเสนาะยิ่ง
เสียงแม่ใส่ไพเราะเสนาะจริง
เสียงแม่ยิ่งไพเราะเสนาะนาน


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


แม่ไม่เคยหิวถ้าลูกยังไม่อิ่ม แม่ไม่เคยง่วงถ้าลูกยังไม่หลับ

แม่ไม่เคยหนาวถ้าลูกยังไม่อุ่น และแม่ไม่เคยร้อนถ้าลูกยังไม่เย็น


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง

หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย

ณ มุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้ หญิงแก่ ๆ นั่งหงอยคอยจนสาย

โอ้วันนั้นในวันนี้อันตราย แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์

วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่ เจ็บท้องแท้เท่าไหร่ไม่เคยบ่น

กว่าอุ้มท้องกว่าคลอดรอดเป็นคน เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร

แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส

ได้ชีวิตแล้วก็เหลิงระเลิงใจ ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา

ไฉนเราจึงเรียกกันว่าวันเกิด วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า

คำอวยพระที่เขียนควรเปลี่ยนมา ให้มารดาเป็นสุขจึงถูกแด

เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่

รำลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด อย่ามัวแต่จัดงานประจานตน ฯ


-------------------------------------------------------------------------------------------------------


วันใดที่ว้าเหว่และเงียบเหงา ขอเจ้ากลับคืนมาเถิดหนา

แม่คอยรับซับน้ำตา เยียวยารักษาแผลใจ

หญิงแก่ๆคนนี้ยังคอยอยู่ เอ็นดูลูกเสมอเจ้ารู้ไหม

ไม่เคยคิดมุ่งร้ายหมายพิษภัย มีแต่ให้กับให้ด้วยใจจริง


----------------------------------------------------------------------------------------------------------


ยามมีกิจหวังเจ้าเฝ้ารับใช้ ยามป่วยไข้หวังเจ้าเฝ้ารักษา
เมื่อถึงคราววันตายวายชีวา หวังลูกยาปิดตาคราสิ้นใจ ฯ


---------------------------------------------------------------------------------------------------------


รักใดเล่ารักแน่เท่าแม่รัก
ผูกสมัครรักมั่นไม่หวั่นไหว
ห่วงใดเล่าห่วงเท่าดังดวงใจ
ที่แม่ให้กับลูกอยู่ทุกคราว
ยามลูกขื่นแม่ขนตรมหลายเท่า
ยามลูกเศร้าแม่โศกวิโยคกว่า
ยามลูกหายแม่ห่วงดั่งดวงตา
ยามลูกมาแม่หมดลดห่วงใย

-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดวงใจแม่ สะอาดแท้ กว่าทุกสิ่ง
ดวงใจแม่ สะอาดยิ่ง กว่าสิ่งไหน
ดวงใจแม่ สะอาด เหนือสิ่งใด
ดวงใจแม่ มีไว้เพื่อ ลูกเอย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------


พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน

แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป

ขอเถิดถ้าสงสาร อย่างกล่าวขานให้ช้ำใจ

คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผเป็นแน่นอน

ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร

ให้กินและให้นอน คลายทุกผ่อนพอสุขใจ

เมื่อยามเจ้าโกรธขึง ให้นึกถึงเมื่อเยาวัย

เมื่อยามเจ้าป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน

เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน

หวังเพียงจะได้ยล เติบโตจนสง่างาม

ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุก ๆ ยาม

ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย

ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้

วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ ให้วังเวง ฯ
--------------------------------------------------------------------------


พ่อแม่ก็แก่ลง นับวันคงถอยเรี่ยวแรง

ดุจดังอาทิตย์แสง สีส้มอ่อนเมื่อตอนเย็น

ดวงตาท่านฝ้าฟาง มองเลือนรางเมื่อยามเห็น

ความจำแสนลำเค็ญ หลงลืมเป็นทุกเรื่องไป

หยิบยกของตกหล่น งกเงิ่นจนลื่นไถล

คนแก่แต่ไหนไร ยากที่ใครจะเหลียวแล

บุญดีก็มีลูก ใส่ยาหยูกผูกพันแผล

ให้นอนพรมห่มผ้าแพร เฝ้าดูแลและห่วงใย

ของอ่อนป้อนพ่อแม่ เพราะท่านแก่เคี้ยวไม่ไหว

บางคนจนน้ำใจ ปล่อยให้ท่านน้ำตาริน

เลี้ยงหล่อพ่อแม่ไว้ บุญนั้นไซร้เหมือนทรัพย์สิน

ทำให้ได้ใช้กิน ไม่หมดสิ้นไปก่อนกาล

ความแก่ไม่ไปไหน อีกไม่ไกลก็คืบคลาน

แม้เราและลูกหลาน ก็ต้องแก่ไม่แพ้กัน

ทำดีกับท่านเถิด บุญบังเกิดมากมหันต์

อย่ามัวแต่ผัดวัน เมื้อไรกันจะเกื้อ+++ล

หมดลมก็หมดแล้ว สองดวงแก้วก็สิ้นสูญ

ร้องหาด้วยอาดูร พ่อแม่จ๋าอย่าเพิ่งตาย

ยื้อยุดฉุดกระชาก พูดแต่ปากมันก็สาย

ทำดีอย่าเสียดาย เพราะวันตายท่านหลับตา.

----------------------------------

ที่มา/ขอขอบคุณ พระมหาวิทวัส webmaster วัดยานนาวา

คำสำคัญ (Tags): #กลอนแม่
หมายเลขบันทึก: 342384เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2010 16:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 23:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 รักแม่มากค่ะ                    

มาให้กำลังใจและแวะเยี่ยมเยียนกันอย่างนี้ถึงจะเรียกว่ารักกันจริง

comment hi5 / code hi5 / แต่ง hi5

แม้นวันนี้ ไม่มีแม่อยู่ใกล้ ๆ

หากดวงใจยังมีแม่อยู่เสมอ

ทุกวันคืนแม้นหนาวเหน็บ ที่พบเจอ

แม่ยังเคยห่วงเสมอ..แม้นอยู่ไกล

+++ยินดีที่แวะมาทักทายค่ะ

กลอนเพราะมากค่ะ+++

กยยพนเขๆจพจนพนสสดยยดววหบขไบ///ำยดส

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท