ภาพในขณะที่องค์พ่อหลวงทรงโบกพระหัตถ์พร้อมกับรอยแย้มสรวลให้กับประชาชนของพระองค์ท่าน เสียงของประชาชนที่มารอรับเสด็จซึ่งเปล่งออกมาดังกึกก้องพร้อมกันว่า “ ทรงพระเจริญ.. ทรงพระเจริญ...ทรงพระเจริญ...” พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาข้างแก้มด้วยความปลื้มปิติ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ธ ทรงสถิตอยู่ในดวงใจคนไทย 63 ล้านดวง คงจะทำให้หลายคนต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปลื้มปิติและตื้นตันใจ โดยส่วนตัวดิฉันเองภาพแห่งความดีงามเหล่านี้ ดิฉันคงจะจดจำทุก ๆ ภาพที่ปรากฏต่อสายตา เก็บทุกความทรงจำ ความรู้สึกปิติยินดี ความรู้สึกขณะ หัวใจพองโตด้วยความสุขสุด ๆ ไว้ในหน่วยความทรงจำอย่างแน่นหนาไม่มีวันลืมเลือน เมื่อใดที่เกิดความรู้สึกขุ่นมัวขึ้นมา ก็จะใช้ความทรงจำอันดีงามและพระราชดำรัสคุณธรรม 4 ประการ อันได้แก่
ประการที่หนึ่ง คือ การที่ให้ทุกคนคิด พูด ทำ ด้วยความเมตตา มุ่งดี มุ่งเจริญต่อกันมาเป็นยาวิเศษย่อยสลายสิ่งขุ่นมัวให้หมดสิ้นไป ช่วยเตือนสติตัวเองเสมอ ๆ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นครั้งเดียวในชีวิต และจะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มคุณค่าความดีงามเพื่อตัวเราเองและ ชาติบ้านเมือง และจะจดจำไปตลอดกาลว่า 60 ปีแล้วที่องค์ในหลวงท่านอยู่ในหัวใจคนไทยประการที่สอง คือ การที่แต่ละคนต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประสานงานประสานประโยชน์กันให้งานที่ทำสำเร็จผลทั้งแก่ตนแก่ผู้อื่นและประเทศชาติ
ประการที่สาม คือ การที่ทุกคนประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสุจริต ในกฎกติกาและในระเบียบแบบแผนโดยเท่าเทียมเสมอกัน
ประการที่สี่ คือ การที่ต่างคนต่างพยายามทำนำความคิดความเห็นของตนให้ถูกต้องเที่ยงตรงอยู่ในเหตุในผล