เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนของจ๊ะจ๋าได้ส่งภาพวาดฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่หาดูได้ยากมากมาให้ และเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชสมบัติครบ 60 ปี ในปีพุทธศักราช 2549 นี้ จ๊ะจ๋าอยากให้ทุกท่านทราบในพระราชอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านหลายด้าน และด้านหนึ่งที่สำคัญคือ จิตรกรรม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระทัยการวาดภาพมาแต่ยังมีพระชนมายุ 10 พรรษา พระองค์ทรงศึกษาและฝึกหัดการวาดภาพ ด้วยการทรงซื้อตำราการเขียนภาพมาศึกษาค้นคว้าตั้งแต่ประทับอยู่สวิตเซอร์แลนด์ พ.ศ. 2502 พระองค์ทรงโปรดให้จิตรกรที่มีความสามารถเข้าร่วมโต๊ะเสวยและทรงรับคำวิจารณ์ผลงานฝีพระหัตถ์ และเสด็จพระราชดำเนินเปิดการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 13 เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505 ในปีต่อมา พระองค์ทรงพระราชทานภาพเขียนฝีพระหัตถ์เข้าร่วมแสดงทุกครั้ง ภาพวาดฝีพระหัตถ์มีทั้งแบบเหมือนจริง (Realism) แบบเอกเพรสชั่นนิสซึ่ม (Expressionism) และแบบนามธรรม (Abstractionism) ซึ่งทำให้ต่างประจักษ์ถึงพระปรีชาสามารถและพระอัฉริยภาพด้านจิตรกรรมของพระองค์แล้ว พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้ประชาชนสนใจการฝึกฝนและเรียนรู้งานศิลปะมากขึ้น ดังนั้น พ.ศ. 2508 มหาวิทยาลัยศิลปากรได้ทูลเกล้าถวายปริญญาศิลปะดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาจิตรกรรม ใน พ.ศ. 2507 ตลอดเวลานั้นพระองค์ทรงใช้เวลาว่างเขียนฝีพระหัตถ์อยู่เสมอ จนถึงปี พ.ศ. 2510 พระองค์ทรงยุติการเขียนภาพด้วยเหตุมีพระราชภารกิจมากขึ้น ใน พ.ศ. 2525 พระองค์ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดแสดงภาพเขียนสีน้ำมันฝีพระหัตถ์จำนวน 47 ภาพ แสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ นับเป็นนิทรรศการครั้งแรกของโลกของพระมหากษัตริย์ที่ทรงแสดงภาพจิตรกรรมฝีพระหัตถ์พระองค์เดียว
ในหลวงท่านทรงมีพระอัจฉริยภาพในหลายๆ ด้านจริงๆ ดีใจจังที่เกิดมาใต้แผ่นดินของท่าน
เรารักในหลวง
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ตอบกลับช้าครับ และขอคุณสำหรับบทความดีๆ ส่งมาอีกนะครับ
การที่พระองค์ทรงมีพระอัฉริยภาพในทุกๆทางเป็นเพราะว่าทรงสนพระทัยและทุ่มเทการทรงงานให้รู้จริงในทุกเรื่อง ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการทุ่มเทในการทำหน้าที่
ขอคุณครับ