เวลามีคนรู้จักหรือสนิทสนมคุ้นเคยเสียชีวิต ธรรมเนียมปฎิบัติของคนไทย นิยมตั้งศพไว้ 3-7 วัน โดยจะมีการนิมนต์พระมาสวดทุกคืน ผู้ไปร่วมงานนิยมนำพวงหรีดดอกไม้สดไปเคารพศพเพื่อแสดงความคาราวะผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ผู้เขียนไปร่วมงานศพของพ่อเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านชนบท สังเกตไปบริเวณรอบ ๆ งานศพ มองเห็นพวงหรีดดอกไม้สดที่มีผู้มาร่วมงานนำมาเคารพศพหลากหลายพวง แต่ที่ทำให้ผู้เขียนแปลกใจคือ มีพัดลมขนาดตั้งโต๊ะวางไว้ใกล้ ๆ ที่ตั้งศพโดยมีป้ายสีดำที่เขียนข้อความแสดงความอาลัยผู้ตาย พร้อมทั้งระบุชื่อผู้นำมามอบให้เจ้าภาพ ทีแรกผู้เขียนมองดูและรู้สึกสงสัยพร้อมทั้งแปลกใจนิด ๆ โดยยังไม่แน่ใจในคำตอบที่ตอบคำถามตัวเองในใจ พอสักพักมีแขกเดินเข้ามาร่วมงานศพอีกท่านพร้อมหิ้วพัดลมขนาดตั้งโต๊ะเท่ากับตัวแรกที่เห็น โดยมีข้อความแสดงความอาลัยเหมือนกับพัดลมตัวแรกที่ผู้เขียนสังเกตเห็น ทำให้มีข้ัอสรุปและตอบข้อสงสัยของตนเองได้แล้วว่า............ที่แท้แขกนำพัดลมมาร่วมแสดงความอาลัยกับผู้ตายนี่เอง
วัฒนธรรมในสังคมคนไทย นิยมนำพวงหรีดดอกไม้สดไปร่วมงานศพ เมื่อถึงเวลาประชุมเพลิงบางแห่งนิยมนำไปเผารวมกับผู้ตาย พร้อมข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวผู้่ตาย บางแห่งไม่นิยมนำไปเผารวม ผู้เขียนเคยลองสอบถามสัปเหรอวัดว่า ทำไมไม่เผารวมได้รับคำตอบว่า จะทำให้การเผาศพต้องใช้เวลานานขึ้นและอาจเผาศพไม่หมด ยิ่งโดยเฉพาะเดี๋ยวนี้หลาย ๆ วัดนิยมใช้เตาเผาศพด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันกลิ่นและควันไปรบกวนชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัด ผู้เขียนไม่ได้ซักไซร้ต่อว่าเตาเผาศพระบบไฟฟ้ามันจะมีกระบวนการทำงานอย่างไร เพราะคิดว่าตัวเองคงจะไปใช้่บริการเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต เลยไม่อยากจะรู้มากไปกว่านี้
พวงหรีด.........กับพัดลม ทำให้ผู้เขียนเกิดการเปรียบเทียบกันว่า พวงหรีดดอกไม้สด 1 พวงราคาประมาณ 500 บาท ความสวยงามและคงทนประมาณ 7 วัน ดอกไม้สดคงทำให้อารมณ์เศร้าโศกของญาติผู้ตายได้ผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับความอ่อนหวานของดอกไม้ เมื่อเสร็จพิธีต้องนำไปเผาทิ้ง โฟมที่ใช้ประกอบพวงหรีดทำให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ วัสดุต่างๆ เป็นภาระของวัดที่ต้องกำจัดให้หมด ส่วนพัดลมราคาประมาณ 400 บาท เมื่อเสร็จพิธีนำไปถวายพระต่อ พระท่านได้ใช้ประโยชน์จากพัดลมคลายความร้อนอย่างน้อย ๆ อายุการใช้งานของพัดลมน่าจะอยู่ได้สักประมาณ 2 ปี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการเผาเงิน 500 บาท ค่าพวงหรีดดอกไม้สดทิ้งไป ............อย่างไหนคุ้มกว่ากัน
ผู้เขียนคิดว่าการมองต่างมุมที่หลากหลายย่อมให้คำตอบที่มากมายเช่นกัน แต่ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ หากเราบริหารจัดการเงินให้เกิดความคุ้มค่าและมีประโยชน์ทั้่งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ และอาจเผื่อแผ่การเอื้อประโยชน์ไปยังผู้อื่นได้อีกคงจะเกิดประโยชน์ต่อองค์รวมมากขึ้น หรือผู้อ่านท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะ ช่วยกรุณาเล่าให้ฟังบ้าง ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ถ้าถามว่า..อย่างไหนคุ้มกว่ากัน
หลายคนคงตอบว่า พัดลม คุ้มกว่า...ในแง่ของการใช้เงิน
หากคงมีใครบางคนคิดถึงสิ่งอื่นร่วมด้วย
ดอกไม้เป็นสิ่งที่นุ่มละมุนกว่า แทนความรู้สึกได้ดีกว่า
หรือพวงหรีดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อ ๆ กันมา
หรือคิดอย่างอื่น แนวอื่นได้อีก
เชื่อว่า คงไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่า อย่างไหนดีกว่า
เพราะความคิดเห็นและความรู้สึกของคนเรามีหลายปัจจัยเหลือเกิน
แต่อยากเล่าต่อว่า
ที่โรงเรียนมีการหารายได้ระหว่างเรียนของนักเรียนค่ะ
พวงหรีดดอกไม้แห้งที่มีผู้นำมาเคารพศพแล้ว จะถูกนำไปเผาพอเป็นพิธี 2-3 อันเท่านั้น
เจ้าภาพจะนำมามอบให้เด็ก ๆ
คัดเลือก ตกแต่งใหม่ ขายในราคาย่อมเยาต่อไป
อย่างนี้ ก็ถือว่า คุ้มในระดับหนึ่งเหมือนกันนะคะ
เรียน ครูจินน์
นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในอีกแง่มุมหนึ่งน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดี ๆ ที่กรุณาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ครูน้อง
เป็นความคิดที่ดีมากนะคะ น่าจะช่วยกันเผยแพร่เรื่องเช่นนี้ไปในชุมชนให้มากๆนะคะ
คุณครูทุกท่านเป็นผู้ช่วยกระจายความคิดได้ดีที่สุดคะ
* เคยเห็นพวงหรีดหนังสือ มองแล้วก็ได้ประโยชน์เกิดปัญญาดีค่ะ
พวงหรีด พัดลมนับเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่เกิดประโยชน์
* บางทีการคิดนอกกรอบเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย นับว่ามีคุณค่าไม่น้อยค่ะ
* ขอบพระคุณเรื่องดี ๆ ที่แบ่งปันค่ะ
ขอบคุณคุณธรรมทิพย์ และคุณกระดังงา นาวาสิทธิ์ ค่ะที่แวะเข้ามาเยี่ยม หากพบเจออะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ จะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกน่ะค่ะ
บางครั้ง คนไทยยังยึคติดกับวัฒนธรรมแบบเดิม ๆ ไม่ยอมรับ นวัตกรรมใหม่ ๆ ค่ะ
ผมว่าทุกวันนี้ประเพณีหรือวัฒนธรรมเริ่มจะสูญหายไปเพราะความคิดดีๆนี่เอง น่าจะหันมามองในแง่ความรู้สึก ระหว่างพวงหรีดกับพัดลมหรืออะไรที่คล้ายๆกัน แต่ไม่ใช่พวงหรีด เพราะยังไงมันก้อไม่ใช่พวงหรีดอยู่ดี ต่อให้มันมีประโยชน์มากขนาดไหน มันก้อมาแทนพวงหรีดไม่ได้อยู่ดี แต่ผมก้อไม่ได้ต่อต้านนะเพียงแค่แสดงความคิดบ้างเท่านั้น ถ้าคิดดีๆอย่างคุณนิภารัตน์ก็ถูก แต่ผมคิดว่าคนที่เขารวยๆหรือมียศมีศักดิ์เป็นเจ้า คนนายคนทำไมเขาถึงยังต้องเอาพวงหรีดไปงานศพอยู่ดีตามสื่อทีวีก็เห็นผมไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจนเกินไป เพราะความคิดแค่คน คนเดียวเลยที่อาจจะเข้าท่า หรือเปล่า ต่อไปกลัวพระท่านจะลำบากก้อไม่ต้องนิมนต์มาสวดก้อได้ใช่ไหมครับ ผมอยากให้ศึกษาเรื่องพวงหรีดให้ดีๆก่อนนะแล้วจะเข้าใจ เพราะต่อไปมันอาจจะเป็นแอร์หรือคอมพิวเตอร์-โน๊ตบุค รถยนต์หรีด ทีวีโฮมเธียเตอร์หรีด หรืออะไรต่อมิอะไรหรีดก้อได้ สิ่งไหนที่มันไม่เสียหายก้ออย่าเปลี่ยนมันเลย ทำความเข้าใจให้ดีแล้วจะเข้าใจ ทำไมธูปยังขายดีทั้งๆที่มันเป็นสารก่อมะเร็ง ทำไม ทำไม ทำไม
เรียน คุณรับไม่ได้บ้าง
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เจ้าฟ้าชายวิลเลี่ยม แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับ นส.แคทเธอรีน ทำพิธีอภิเษกสมรส .......ธรรมเนียมปฏิบัติฝรั่ง เขาจะแจ้งรายการสิ่งของที่คู่บ่าวสาวต้องการ เพื่อให้แขกสามารถเลือกของขว้ญได้ถูกใจและนำไปใช้สอยได้จริง.........แต่ทั้งสองพระองค์ ได้แจ้งระบุในการ์ดเชิญว่า ........."ไม่ประสงค์จะรับของขวัญ แต่ขอรับบริจาคเป็นเงิน เพื่อนำไปบริจาคให้องค์กรมูลนิธิการกุศลที่พระองค์เป็นองค์อุปถัมภ์"..........คงจะเป็นคำตอบอีกมุมหนึ่งให้..."คุณรับไม่ได้บ้าง" ได้ไม่มากก็น้อยน่ะค่ะ
ไม่มีถูก ไม่มีผิด..........ขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของผู้ให้ และความถูกใจกับผู้รับค่ะ
เวทีนี้ ยินดีรับฟังความคิดเห็น ทุก ๆ ท่านน่ะค่ะ