ภาพของ ผู้แสดงหนังเรื่อง “รักจัง” ที่ได้ชมผ่านตัวอย่างก่อนฉายจากสื่อต่างๆ ไม่แปลกใจว่าภาพยนตร์แนวนี้ ขายง่ายและติดตลาดคนไทยได้เป็นอย่างดี เรื่องที่อดสูที่เห็นกันมานานกับหนังไทย ก็คือวิธีคิดของผู้มีส่วนร่วมในการสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา อคติในใจของคนสร้างหนังที่สะท้อนให้เห็นการมองมนุษย์บนพื้นฐานของความไม่เท่าเทียม กับ กลุ่มชาติพันธุ์หนึ่ง (an ethnic group) ภาพขบขัน ภาพตลกที่โง่เขลาเบาปัญญา ล้วนแล้วแต่เป็นภาพของชาวเขา(ไม่ใช่ชาวเรา) ที่สกปรก เคี้ยวหมากฟันดำ เป็นภาพที่เห็นได้ในหนังเรื่องนี้ บน “ภูชี้ฟ้าเชียงราย” พวกเราไปนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยน กับคน-ชาติพันธุ์ คุณอาทู่ หนุ่มใหญ่ชาวอาข่า(ไกรสิทธิ์ สิทธิโชดก) น้องอายิ หนุ่มอาข่า แห่งมูลนิธิกระจกเงา น้องสุรสิทธิ์ หนุ่มปกากะเญอจากดอยอินนนท์ รู้สึกไม่ค่อยดีกับเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ ไม่ค่อยสบายใจกับภาพของ “ชาวเขา” ที่ติดอยู่ในมโนสำนึก มายาคติของคนกรุงบางกลุ่มที่มองพวกเขา ถูกเบียดและขับให้เป็นชายขอบ (marginalization) อยู่ตลอดเวลา <p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> มีคำถามมากมายที่ถามสังคม เพื่อที่จะเรียกร้องจุดยืนบนสังคมอย่างเท่าเทียม ซึ่งเวลาผ่านไปพื้นที่ทางสังคมของพวกเขากลับถูกลดทอนลงเรื่อยๆ การนำเสนอภาพสู่ภายนอกกลับไม่ได้นำสิ่งดีๆ ภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของพวกเขาออกมาให้สังคมได้เรียนรู้และได้รู้จัก พอที กับการเหยียดหยาม เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พอทีกับสื่อที่น่าขบขันไร้สาระ พอทีกับวิธีคิดของคนสร้างหนังที่มีหัวใจอันเต็มเปี่ยมไปด้วย “อคติ” </p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> ถ้าฝรั่งนำคนไทยเราไปทำหนัง แล้วให้บทบาทที่มองแล้วน่าขบขัน น่าสมเพส เราจะรู้สึกอย่างไร?</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"> อนิจจา “รักจัง” หนัง “ไม่น่ารัก”</p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal"></p><p style="text-justify: inter-cluster; margin: 0cm 0cm 0pt; text-align: justify" class="MsoNormal">ภาพจาก www.thaicinemix.com</p>
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ คนทำงานบ้านเราไม่ว่าทำหนังหรือทำโฆษณาได้ทำงานที่ "cheap" (แปลว่าไร้ซึ่งศักดิ์ศรีแต่ทำเพื่อการขายอย่างเดียว) ที่เอา "discrimination" มาเล่นเป็นเรื่องตลกมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนต่างจังหวัด ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างประเทศบางประเทศ ต่าง... ฯลฯ หรือคนเตี้ย คนดำ คนอ้วน คนจมูกแบน คนปากใหญ่ ฯลฯ
ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวประเภทนี้ถึงยังได้ทำออกมาขายกันไม่หยุดหย่อน คราวก่อนก็เรื่องอะไรสองเรื่องที่ประเทศลาวไม่ยอม ก่อนหน้านี้ก็เรื่องที่ประเทศกัมพูชาไม่ยอมเหมือนกัน
แต่ไม่เป็นไรครับ คนไทยในหนังตลกฝรั่งก็ไม่ได้แพ้กัน ถ้าพูดถึงว่าไป Bangkok มากก็เป็นอันรู้กันว่าไปทำไม ถ้าใครไปทำอะไรที่ Thailand ก็ได้หัวเราะครืนกันอีกเหมือนกัน
ต้องเรียกว่ากรรมตามทัน ไม่ต้องไปดูที่ต่างประเทศ หาดูได้ใน UBC ในช่องที่ไม่ได้แปลเป็นภาษาไทย (เพราะ UBC ไม่ยอมแปล) ครับ
สู้ สู้
เห็นด้วยกับ อาจารย์ ดร.ธวัชชัย ครับ - - - ขายก็ขายได้ แต่เอาเรื่องราวๆดีๆแง่มุมที่น่ารักมาให้สังคมได้เรียนร้ ซึ่งผมเองก็เชื่อว่าแง่มุมบวกเหล่านี้ ก็น่าจะขายได้ไม่แพ้กันครับ
จะทำอย่างไร ไม่ให้มีการดูถูกทางเชื้อชาติของชนกลุ่มน้อยในสังคม ? คำถามอาจารย์ขจิต
เป็นคำถามที่ตอบยากจังครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับมโนสำนึกของผู้สร้างสรรค์งาน
ตอนนี้ทางเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่างก็ร่วมกันเรียกร้องและต่อสู้อยู่ครับ คุณ ออต
ขอบคุณครับสำหรับความเห็นทุกท่านครับ
<b>เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ หนังลักษณะแบบนี้ไม่เคยสนับสนุนและไม่เคยดูเลย </b>
คุณ beyond frontiers
ผมใช้คำเปรียบเทียบเพื่อเขียนบันทึกให้เห็น เป็นศัพท์เปรียบเทียบครับ ...ผมเองก็ได้แต่ดู "หนังตัวอย่าง" แต่หนังตัวอย่างก็สื่อเหลือเกินว่า เอาอะไรมาเป็นจุดขาย มันค่อนข้างอ่อนไหวมากเลยครับ สำหรับประเด็นแบบนี้ ส่วน
คุณยอดดอยวิเคราะห์ที่ผมตามไปอ่านก็มีส่วนถูกครับ แต่ยังไงก็ตามว่า เรามองเป็นกลางนะครับ ...ถ้าสำหรับผม ผมรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดีครับ แต่ผมเองก็ไม่ได้Bias มากไป หนังแบบนี้หากสร้างได้ดี มีแง่มุมงามๆ น่ารักชวนมอง ก็น่าดู และน่าสรรเสริญ ครับ