ผลพวงของการศึกษา...


หากเพียงฉันมิได้เกิดมาเป็นครูคงไม่รู้หรอกว่าความรักความศรัทธาที่ศิษย์มอบให้ครู กับความรักที่ครูมอบให้ศิษย์เป็นเช่นไร บริสุทธิ์ขนาดไหน มากมายเพียงใด และคงไม่รู้ถึงคุณค่าของความเป็นครูที่พร่ำเพียรสอนคนให้เป็นคน


          ไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ชีวิตมีแต่การเปลี่ยนแปลงและเราก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงตามสังคมที่เป็นไป ตนเองอาจจะอายุน้อยที่สุดในเหล่าบรรดาครูขององค์กรแห่งนี้ พลังในด้านต่าง ๆ ย่อมมีมากเป็นเงาตามตัว มีอุดมการณ์ในชีวิตที่มั่นคง มีความมุ่งมั่นในการทำงาน รักในวิชาชีพของตน 

          หากแต่ครั้งหนึ่งที่ตนได้นั่งฟังเพลงเพื่อชีวิต “ครูกรรณิการ์...กับผลพวงของการศึกษา...ที่ครูไปแล้วไม่กลับมา...เด็ก ๆ ก็นั่งเฝ้าแต่ชะเง้อหารอครูกรรณิการ์ก็ไม่กลับมา” ฟังทุกครั้งก็ไม่เคยได้คิดอะไรมากมาย ฟังแล้วก็ผ่านเลยไป แต่พอมาในวันนี้เพลง “ครูกรรณิการ์” ก็กลับมาให้หวนคิดอีกครั้ง เมื่อเด็กนักศึกษาเริ่มรับรู้ถึงการเป็นไปที่เกิดขึ้นกับครู “ข่าวดีของครู...ที่ทำให้นักศึกษาสลดใจ” มันเลยทำให้ครูสลดใจตามไปด้วย ใช่ว่าจะทิ้งศิษย์  ใช่ว่าไม่รักศิษย์  ใช่ว่าจะทิ้งสถาบันที่ให้กำเนิดทางด้านความรู้ ความเป็นคน ใช่ว่าไม่มีทางเลือกแต่ต้องเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับชีวิต ใช่ว่าไม่เสียใจที่ต้องจากแหล่งพักพิง แหล่งกำเนิดของมิตรภาพ แหล่งกำเนิดของความเป็นคน แหล่งกำเนิดของอุดมการณ์ ใช่ว่าครูไม่เสียใจ...“อาจารย์จะทิ้งพวกผมไปได้อย่างไร...อาจารย์ไม่สงสารพวกผมเหรอครับ…พวกผมไม่ยอม...อาจารย์หนีเอาตัวรอดคนเดียว(แค่ลูกระเบิดนิดหน่อยเอง)...แล้วทิ้งพวกผมไว้กับใคร...พวกผมไม่มีอารมณ์เรียนเลยวันนี้” น้ำตาเอ่อคลอเบ้า...หากเพียงฉันมิได้เกิดมาเป็นครูคงไม่รู้หรอกว่าความรักความศรัทธาที่ศิษย์มอบให้ครู กับความรักที่ครูมอบให้ศิษย์เป็นเช่นไร บริสุทธิ์ขนาดไหน มากมายเพียงใด และคงไม่รู้ถึงคุณค่าของความเป็นครูที่พร่ำเพียรสอนคนให้เป็นคน ฉันแทบไม่ได้สอนอะไรให้เขาเลยในชั่วโมงนี้ เขาขอให้ฉันพูดอะไรก็ได้ให้เขาฟังก่อนที่ฉันจะไป แต่ฉันพูดอะไรไม่ออกจริง ๆ สิ่งที่ฉันรับรู้ คือ “นี่แหละผลพวงของการศึกษา...ครูไปลับไม่กลับมาสอนในที่กันดาร” ดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมกับศิษย์เลยสักนิดเดียว

          ในขณะที่ฉันทำเพื่ออุดมการณ์ของตนเอง แต่อีกด้านหนึ่งของชีวิตฉันกลับทิ้งอุดมการณ์ที่ได้ปลูกฝังไว้ให้กับศิษย์เป็นร้อยไว้เบื้องหลัง อุดมการณ์ทางการศึกษา อุดมการณ์ของการเป็นคนดี อุดมการณ์เพื่อหมู่มวลมนุษย์ในสังคม ฉันไม่ได้หนีเอาตัวรอดเพียงลำพัง...แต่ฉันไปเพื่อเพิ่มพูนพลังทางการศึกษา เพื่อแตกหน่อ แตกยอด แตกใบ ผลิดอก ออกผลทางการศึกษาที่ดีสืบไป ยังไงความเป็นครูก็ยังเป็นเงาติดตามตัวฉันไปตลอดกาล


หมายเลขบันทึก: 32787เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2006 20:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ในยามที่คนอื่นนอนหลับ เธอจะหาโอกาสอ่านหนังสือ และทดลองโน่นนี่ไม่ได้หยุดหย่อน ความมุ่งมั่นของเธอ ไม่ใช่มุ่งมั่นแบบหัวชนฝา ทว่าเป็นการมุ่งมั่นอย่างมียุทธศาสตร์ว่าเป้าหมายของตัวเองคืออะไร และและจะไปให้ถึงจุดนั้นอย่างไร ธงของเธออยู่ที่ตำแหน่งซังกุงสูงสุดของห้องเครื่อง ทำให้เธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในวัง จากนั้นก็ตั้งใจฝึกปรือวิชาการทำอาหาร โดยฝากตัวเองเป็นคนสนิทของฮังซังกุงซึ่งเอ็นดูมากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามต้องกลายเป็นทาสหลวง ถ้าเป็นคนอื่นก็คงยอมแพ้ไปแล้ว แต่ไม่ใช่เธอ ธงของเธอยังเหมือนเดิมคือตำแหน่งซังกุงสูงสุดของห้องเครื่อง แม้ต่อมาภายหลังจะกลายเป็นแพทย์หลวงแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ลืมคำสั่งเสียของมารดาผู้ล่วงลับ นั่นคือเป็นซังกุงสูงสุดของห้องเครื่องให้ได้ซึ่งเธอรักษาการในตำแหน่งนี้ช่างสั้นๆ บุคคลิกเธอคือบุคคลิกที่มีอยู่ในตัวคนเกาหลี มุ่งมั่น อดทน กำหนดเป้าหมาย กำหนดวิธีการ อย่างมียุทธศาสตร์ทั้งสิ้น   

จากนสพมติชน 13 พค.2549

  • ทำให้อยากอยู่ในอาชีพที่ประเสริฐนี้นานๆ
  • ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังครับผม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท