การทำวิจัยในชั้นเรียนของครูพลศึกษาโรงเรียน
ในเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก ปีการศึกษา 2546
พบว่า
2.1 ครูพลศึกษาเพศชาย
อยู่ในระดับปัญหาปานกลาง คือ
2.1.1 ด้านความรู้และทัศนคติของครู
คิดเป็นร้อยละ 37.37
2.1.2 ด้านวิธีการทำวิจัยในชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ
35.72 อยู่ในระดับปัญหามาก คือ
2.1.3 ด้านอุปสรรคของการทำวิจัยในชั้นเรียน
คิดเป็นร้อยละ 38.30
2.1.4
ด้านการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ
32.00
2.2
ครูพลศึกษาเพศหญิง อยู่ในระดับปัญหาปานกลาง
คือ
2.2.1 ด้านความรู้และทัศนคติของครู
คิดเป็นร้อยละ 39.72
2.2.2 ด้านวิธีการทำวิจัยในชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ
56.00
2.2.3 ด้านอุปสรรคของการทำวิจัยในชั้นเรียน
คิดเป็นร้อยละ 35.36
2.2.4
ด้านการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียน
คิดเป็นร้อยละ
34.25
2.3 ครูที่มีประสบการณ์ในการสอนน้อยกว่า 10
ปี อยู่ในระดับปัญหาปาน
กลาง คือ
2.3.1 ด้านความรู้และทัศนคติของครู
คิดเป็นร้อยละ 41.90
2.3.2 ด้านวิธีการทำวิจัยในชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ
42.58 อยู่ในระดับปัญหามาก คือ
2.3.3 ด้านอุปสรรคของการทำวิจัยในชั้นเรียน
คิดเป็นร้อยละ 51.00
2.3.4
ด้านการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ
27.42
2.4
ครูที่มีประสบการณ์ในการสอนระหว่าง 10 - 20
ปี อยู่ในระดับปัญหา
ปานกลาง คือ
2.4.1 ด้านความรู้และทัศนคติของครู
คิดเป็นร้อยละ 38.99
2.4.2 ด้านวิธีการทำวิจัยในชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ
36.98
2.4.3
ด้านการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียน
คิดเป็นร้อยละ
33.50 อยู่ในระดับปัญหามาก คือ
2.4.4 ด้านอุปสรรคของการทำวิจัยในชั้นเรียน
คิดเป็นร้อยละ 30.15
2.5 ครูที่มีประสบการณ์ในการสอนตั้งแต่ 21 ปี
ขึ้นไป อยู่ในระดับปัญหา
ปานกลาง คือ
2.5.1 ด้านความรู้และทัศนคติของครู
คิดเป็นร้อยละ 34.85
2.5.2 ด้านวิธีการทำวิจัยในชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ
43.34 อยู่ในระดับปัญหามาก คือ
2.5.3 ด้านอุปสรรคของการทำวิจัยในชั้นเรียน
คิดเป็นร้อยละ 35.68
2.5.4
ด้านการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ
30.76
(ยังมีต่อนะครับ)
ไม่มีความเห็น