เมื่อวานนี้
30 พ.ค.49
เป็นการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบบริหารความรู้ในองค์กร ของ
มอ.กรรมการชุดนี้ทำอะไร คณะกรรมการชุดนี้จะดูแลเรื่องการบริหารจัดการความรู้ในองค์กร เรื่องการจัดการความรู้ในองค์กรและมีเรื่องที่เชื่อมต่อไปยังคณะกรรมการอื่น
ๆ ในเรื่องหมวดหมู่ของข้อมูลที่จะทำให้สืบค้นได้ง่าย
ประชุมกันเดือนละครั้ง ทุกสัปดาห์ที่สามของเดือน
เมื่อวานนี้
เป็นนัดผมจะต้องส่งไม้ให้ประธานคนใหม่ (ท่านรองฯวรัญ
ตันชัยสวัสดิ์) แต่จริงๆ
แล้วทั้งผมและท่านรองฯวรัญคลุกคลีงานเรื่องนี้มาด้วยกันตลอด
เพียงแต่เหตุผลของการเปลี่ยนคือ มอ.จะเปลี่ยนทีมบริหารชุดใหม่
ในวันพรุ่งนี้ 1 มิย.49 เนื่องจากชุดเก่าหมดวาระ
ผมจะไปดูแลงานด้านอื่นและเป็นโอกาสที่
มอ.นำการพัฒนาบุคลากรและการจัดการความรู้มาอยู่ที่เดียวกัน
โดยการดูแลของท่านรองวรัญ
กรรมการมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ผมคิดว่าเราผ่านช่วงการสื่อสารให้ประชาคมเข้าใจ
ความหมาย จำลองกระบวนการ เทคนิควิธี
เครื่องมือที่ใช้ในการจัดการความรู้ต่างๆ
มาแล้ว เราพูดคุยสรุปการดำเนินการตามแผน ปี
2549 อะไรทำไปแล้ว อะไรคงค้าง
พูดคุยเรื่องการนำการจัดการความรู้สู่ คณะ หน่วยงาน ซึ่งเราจะมีนัดแรก
ที่จะคุยกับ CKO คณะ หน่วยงานในวันที่
9 มิย.นี้ จะเชื่อมโยงไปถึง ตัวบ่งชี้ที่ 5.2
การพัฒนาสถาบันสู่องค์การเรียนรู้ ฯ ที่ สมศ.จะมาประเมินรอบสอง
ผมพร้อมทั้งคุณหมอปารมี จากภาคพยา-ธิ
จะร่วมนำการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่ม CKO ใหม่ ในประสบการณ์การเป็น
"คุณเอื้อ" และเราจะพูดตกลงกันว่าเราจะเดินเรื่อง
เครือข่ายการจัดการความรู้ภายในได้ยังไง
ผมทำในฐานะส่วนกลางตามเป้าประสงค์ 6 ของมหาวิทยาลัย
(นำองค์กรสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้) มีความจริงเฉพาะ
มอ.ก็คือ เรามีบุคลากรรวม 8,000 คน
ส่วนกลางทำการจัดการความรู้หลังคณะแพทยศาสตร์ มอ. เรามีการทำ
QCC CQI หรืออื่น ๆ ที่เป็นเครื่องมือคุณภาพตลอดมา
ผู้คนของเรามักจะคุ้นชินกับเครื่องมือในการบริหารจัดการเพื่อคุณภาพงานไม่ว่าตัวไหนเข้ามา
เราก็จะขานรับ นำมาใช้ เราไม่บังคับให้ทุกคณะทำการจัดการความรู้
แต่เราคาดหวังให้ทุกคณะ
หน่วยงานหรือทุกยูนิต ของเราพัฒนางานให้ดียิ่ง
ๆ ขึ้น
คำถามที่ผมมักจะต้องถูกตอบเสมอเมื่อมาทำงานด้านการจัดการความรู้
สมัยต้น ๆ เลย คือ
"KM
จะเป็นแฟชั่นหรือเปล่า"
"ใครเข้าใจดีที่สุดเรื่องการจัดการความรู้"
"KM
ที่ผมเข้าใจและทำนั้นถูกต้องหรือเปล่า"
คำถามถัดมา
"ทำการจัดการความรู้แล้วได้อะไร"
"หลังจากทำการจัดการความรู้แล้วงานดีขึ้นมั๊ย"
"ถ้าสามารถทำงานให้ดีขึ้นได้โดยไม่ใช่การจัดการความรู้ท่าน
จะโอเค มั๊ย"
คำถามหลังสุด
"การจัดการความรู้ยากตรงไหน"
เป็นคำถามที่ปนๆ กัน ระหว่างหยั่งเชิง อยากรู้
ท้าทาย ผมทำหน้าที่โดยไม่ละเลยที่จะตอบคำถาม
ที่เข้ามาในหลายรูปแบบที่ว่า นั้น ผมมองเห็นวิวัฒนาการของคำถาม
คำถามเปลี่ยนไปเพราะกระแสการจัดการความรู้แรงขึ้น
คำถามต่างๆล้วนที่ตอบยากเป็นความท้าทายที่จะต้องตอบ คณะกรรมการฯ
ตกลงจะประเมินในภาพรวม สำหรับคำถาม
"หลังจากการทำการจัดการความรู้ไปแล้วงานดีขึ้นมั๊ย" ส่วนคำถามหลังสุด ผมตอบได้เลย
"การจัดการความรู้ยากตรงตอนเริ่มต้นครับ"
ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหน่วยงานย่อยๆในมอ.ส่วนใหญ่มีการจัดการความรู้ (KM) กันอยู่แล้ว เพียงแต่เราอาจจะไม่รู้ว่าเรากำลังทำ
สิ่งสำคัญก็คือการแนะนำให้บุคคลากรได้จัดการความรู้อย่างมีทิศทาง ได้ใช้เครื่องมือต่างๆสำหรับการจัดการความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้บทบาทของตนเองในการขับเคลื่อน KM ขององค์กร และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานให้ขยายเครือข่าย เพื่อให้การขับเคลื่อน KM เป็นไปในทิศทางเดียวกัน