แนวทางการจัดการความรู้สำหรับเขตพื้นที่การศึกษา
1.การกำหนดโครงสร้างการจัดการความรู้และผู้รับผิดชอบ
1.1 ทีมบริหารความรู้ประกอบด้วย
ผู้บริหารความรู้ ( Chief Knowledge officer : CKO ) ผอ. สพท.
และทีมบริหารได้แก่
รองผอ. สพท. และ ผช.ผอ. สพท. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
1.2 ทีมที่ปรึกษา
ได้แก่บุคคลจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวกับการจัดการความรู้
1.3 ทีมผู้รับผิดชอบหรือทีมแกนนำ
ประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่าย ทำหน้าที่กระตุ้น
1.4 จุดประกาย
และจัดกิจกรรมที่มุ่งให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Knowledge Sharing
: KS )
เป็นผู้ที่มีทักษะในการจัดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้
1.5 ทีมนักปฏิบัติ (Knowledge Practices)
เป็นผู้ที่มีความรู้ ( Explicit Knowledge &
Tacit Knowledge ) ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานจริง ประมารณ
ร้อยละ 90 – 95 ของงานนั้น ๆ
1.6 ทีมเลขา ทำหน้าที่ประสานระหว่างทีมต่าง
ๆ นัดประชุมคณะทำงานและทำรายงานการประชุม
รวบรวมรายงาน ความคืบหน้า การดำเนินงาน
ประสานงานและดูแลระบบ ICT
1.5.1 ผู้ประสานงานเครือข่าย ( Network Management )
1.5.2 ผู้ดูแลระบบ ICT
1.6 ทีมงานอื่น ๆ ที่ สพท.
เห็นว่าจำเป็น
2.
จัดทำแผนการจัดการความรู้
เป็นการดำเนินงานรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในหน่วยงานที่กระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคล
หรือเอกสาร
นำมาจัดเก็บและเผยแพร่ทั้งในส่วนของความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคน (Tacit
Knowledge ) และความรู้
ที่ชัดแจ้ง ( Explicit Knowledge )
เพื่อให้ทุกคนในหน่วยงานสามารถเข้าถึงความรู้
นำความรู้ไปใช้
ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เกิดการพัฒนาตนเองให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรจัดทำแผนการจัดความรู้
2
ลักษณะคือ
1.
แผนการจัดการความรู้ตามความต้องการของ
สพท.
กิจกรรมใดจะทำเมื่อไหร่
อย่างไร ใครรับผิดชอบ
ก่อนการจัดทำแผนควรจะมีกระบวนการสำรวจ
ความต้องการของ สพท.
ก่อนว่าต้องการความรู้อะไรที่จะช่วยผลักดันให้ยุทธศาสตร์ของ
สพท. บรรลุเป้าหมาย
2.
แผนการจัดการความรู้ตามจุดเน้นหรือนโยบายของ
สพฐ
เป็นแผนการจัดกิจกรรมเฉพาะกิจหรือเป็นกรณีพิเศษเป็นนโยบายหรือกิจกรรมที่จำเพาะเจาะจง
ลงไปว่าจะต้องดำเนินการใน สพท. และในปีงบประมาณ 2549
เช่นการจัดทำคำรับรอง
**** สามารถนำแผน 1 และ 2
หลอมรวมเป็นแผนเดียวกันได้****
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 สพฐ
ได้กำหนดแผนด้านการพัฒนาการจัดความรู้ในองค์กร
ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษให้ทุก สพท.
ต้องดำเนินการโดยมีเป้าหมาย
ลำดับ
|
ตัวชี้วัด
|
เป้าหมายตัวชี้วัด
|
กิจกรรม
|
ระยะเวลา
|
งบประมาณ
|
ผู้รับผิดชอบ
|
1
|
จำนวนครูที่ได้รับการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
ในสถาบันในประเทศ
|
จำนวนครูที่ได้รับการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ จำนวน
…...คน
|
1.
พัฒนาครูในด้านการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษร่วมกับสถาบันในประเทศ
|
..................
|
..................
|
..................
|
2
|
ระดับความสำเร็จในการจัดตั้ง
KNOWLEDGE MANAGEMENT CENTER
|
มี KNOWLEDGE MANAGEMENT CENTER
....... เว็บไซต์
|
2. จัดทำ KNOWLEDGE MANAGEMENT CENTER
เพื่อเป็นฐานความรู้ เก็บรวบรวม Best Practice และ Working
Knowledge โดยพัฒนาจาก เว็บไซต์ที่ สพฐ.
ได้พัฒนาขึ้น
|
..................
|
..................
|
..................
|
3
|
จำนวนระบบฐานข้อมูล
การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
|
จำนวนความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้
.. ...เรื่องต่อเดือน
|
3. การจัดการความรู้ที่นำเสนอผ่าน
KMC
|
..................
|
..................
|
..................
|
4
|
จำนวนช่องทางในการเข้าถึงความรู้
|
มีช่องทาง ICT และ CoPs ชุมชน
นักปฏิบัติ หรือ
ชมรมวิชาการที่เกี่ยวกับการพัฒนาการจัดการสอนภาษาอังกฤษ…….ชมรม
|
4.
สร้างช่องทางในการเข้าถึงความรู้ ด้วย ICT และ Cops
|
..................
|
..................
|
..................
|
5
|
จำนวนผู้เข้ามาใน Sharing
Board
|
จำนวนผู้เข้ามาใน Sharing Board
.......ครั้ง
|
5. จัดทำ Sharing
Board
|
..................
|
..................
|
..................
|
6
|
จำนวนบุคลากรที่ได้นำความรู้การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษไปสู่การปฏิบัติ
|
จำนวนบุคลากรที่ได้นำความรู้การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษไปสู่การปฏิบัติ.......คน
|
6.
จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของครูในสังกัด
|
..................
|
..................
|
..................
|
7
|
จำนวนนักเรียนที่ได้รับการพัฒนา
|
จำนวนนักเรียนที่ได้รับการพัฒนาจากกิจกรรมในหลักสูตรและนอกหลักสูตร
เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ .........คน
|
7.
จัดกิจกรรมการเรียนภาษาอังกฤษในหลักสูตร และนอกหลักสูตร
|
..............................
|
..........................
|
..........................
|
ผู้อนุมัติ : ………………………………………………. ( CKO )
(
)
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู
เขต 1
คำชี้แจง
1.
ตัวชี้วัดและเป้าหมายตัวชี้วัดให้สพท. ยึดตามที่ สพฐ. กำหนด
และสามารถเพิ่มเติมตัวชี้วัดและเป้าหมายตัวชี้วัดได้
- ระบุกิจกรรมที่ทำให้ตัวชี้วัดบรรลุผลให้ชัดเจน พร้อมทั้งระบุ
ระยะเวลา งบประมาณ และผู้รับผิดชอบ (บุคคลหรือหน่วยงาน)
3.
แนวการดำเนินการจัดการความรู้
เป็นเรื่องที่ สพท. ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ควรมีขั้นตอนดำเนินการอย่างเป็นลำดับดังต่อไปนี้
3.1
สร้างความเข้าใจในการจัดการความรู้
CKO หรือ ผอ.สพท. และสถานศึกษาและทีมจัดการความรู้
ต้องเร่งทำความเข้าใจ อธิบายทิศทาง
ความจำเป็นของการจัดการความรู้ให้แก่บุคลากรทางการทุกคน
เพื่อให้เกิดการปฏิบัติร่วมกันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น
กิจกรรมการเปิดตัว KM หรือ Kick of KM เป็นต้น
3.2
สร้างเครือข่ายความรู้หรือรวบรวมทุนปัญญา
ควรนำเอาองค์ความรู้ที่มีอยู่ในรูปความสนใจ กลุ่มวิชาการต่าง
ๆ มาเก็บรวบรวม และแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ Knowledge Management Center ( KMC
)
3.2.1 การรวบรวมความรู้ เริ่มจากการสำรวจ
ความรู้ที่มีอยู่ในหน่วยงาน
ทั้งในรูปของผลงานหรือวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ Best
Practic ควบคู่กับ
การเสาะหาความรู้จากภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนางานภายในหน่วยงานรวมทั้ง
การสรุปสาระของหนังสือ ( Book Brief )
จะทำให้บุคลากรสามารถมองเห็นวิธีลัดในการพัฒนาคุณภาพหรือประสิทธิภาพของการทำงานได้ง่าย
ผู้ที่ทำหน้าที่คือทีมปฎิบัติหรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานตามหน้าที่ที่รับผิดชอบในหน่วยงานเดียวกันหรือต่างหน่วยงานรวมตัวกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากการทำงานหรือความรู้เพื่อการปฏิบัติเรื่องใดเรื่องหนึ่งในรูปแบบชุมชนนักปฏิบัติ
3.2.2 วิเคราะห์และสรุปสาระสำคัญของหนังสือ ( Book Brief
) เป็นการวิเคราะห์เอกสาร หนังสือ
ที่น่าสนใจและทำความเข้าใจนำไปประยุกต์ในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานได้ง่าย
3.2.3การจัดตั้งศูนย์การจัดการความรู้ Knowledge Management
Center :KMC
เป็นการนำเอาความรู้ให้ผู้รับผิดชอบ ICT
จัดเก็บไว้ใน KMC
ตามกลุ่มความรู้
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ได้แบ่งกลุ่มความรู้ออกเป็น 6 กลุ่ม คือ
1. ความรู้ในการปฏิบัติงาน ( Working Knowledge )
2. กระบวนการ / วิธีการปฎิบัติงานที่เป็นเลิศ ( Besst Practices
)
3. สรุปสาระสำคัญของหนังสือ (Book Brief)
4. ความรู้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงความรู้ (Knowledge Sharing Board
)
5. ความรู้จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญ ( Ask an Expert )
6. ความรู้จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ( e – Knoledge )
ผู้รับผิดชอบความรู้ต้องตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่า
การนำเสนอ