- นำเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 และอนุบาล 2 รวมกันทั้งหมด 32 คน
- แบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม 6 กลุ่ม ๆ ละ 5 – 6 คน
โดยครูมีสัญลักษณ์เป็นรูปภาพ 6 รูป
ดังนี้ 1. รูปดอกไม้ 2. รูปพระอาทิตย์ 3. รูปหมูอ้วน 4. รูปต้นไม้ 5.
รูปรถยนต์ 6. รูปผีเสื้อ
- ฝึกการยอมรับ กติกา
และส่งเสริมประชาธิปไตยโดยให้เด็กเลือกตัวแทนออกมา
จับสลากเลือกสัญลักษณ์ประจำกลุ่ม โดยยืนเรียงกันทั้ง 6 คน
- ให้เด็กที่เป็นตัวแทน 6 คนที่เป็นคลี่สลากพร้อมกัน
แล้วกลับไปบอกเพื่อนที่กลุ่ม
ให้เวลาจำสมาชิกในกลุ่ม และสัญลักษณ์ 1 นาที
(ขั้นนำเข้าสู่กิจกรรม)
สอบถามประสบการณ์เดิมของเด็กแต่ละกลุ่มเกี่ยวกับ
สัญลักษณ์ที่ตนได้ ให้แสดงความคิดเห็นร่วมกัน
พยายามส่งเสริมให้สมาชิกมีส่วนร่วมภายในกลุ่ม เช่น
- ดอกไม้ คืออะไร / สมาชิกในกลุ่มดอกไม้รู้จักชื่อดอกไม้อะไรบ้าง /
สี,กลิ่น
- พระอาทิตย์ คืออะไร มีไว้ทำอะไร
ถ้าไม่มีพระอาทิตย์จะเกิดอะไรขึ้น
- หมูอ้วน คืออะไร เอาไว้ทำอะไร / กินอะไร / ร้องอย่างไร /
ทำท่าทางของหมู
- ต้นไม้ คืออะไร มีไว้ทำอะไร / ถ้าไม่มีต้นจะเกิดอะไรขึ้น /
การดูแลรักษา
- รถยนต์ คืออะไร เอาไว้ทำไม / มีรถอะไรบ้าง / การดูแลรักษา /
- ผีเสื้อ คืออะไร มีประโยชน์หรือไม่ / ทำไมเด็กๆ ไม่กลัวผีเสื้อ
(ขั้นสอน)
วันที่ 1 (24 สิงหาคม 2552) ครั้งที่ 1 เวลา 10.00 น – 11.00 น.
แนะนำกิจกรรม
หล่อปูนปลาสเตอร์ วัสดุอุปกรณ์สอบถามความการทำรู้เดิมของเด็กๆ
นำปูนปลาสเตอร์ที่หล่อเสร็จแล้วนำมาให้ดู
ให้เด็กลองอธิบายว่าปูนปลาสเตอร์ทำได้อย่างไร (บันทึกคำพูด)
- ครูยังไม่สรุปว่าคำตอบของใครถูก
- ครูขออาสาสมัครมาช่วยครูทำ 3 คน จากนั้นให้เด็กๆ
แต่ละกลุ่มสังเกตลำดับขั้นตอนการหล่อปูนปลาสเตอร์
ให้เด็กที่เป็นอาสาสมัครถือปูนปลาสเตอร์ไว้จนแห้ง ค่อยๆ
แกะปูนปลาสเตอร์ที่หล่อไว้ ให้เด็กๆ
แต่ละกลุ่มทบทวนวิธีการทำอีกครั้ง
ครั้งที่ 2 14.20 น. - 15.30 น.
- เด็กและครูร่วมกันทำอีกครั้ง
โดยครูดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะผงปูนปลาสเตอร์มีอันตราย
ต้องทำด้วยความระมัดระวังและอาศัยเวลา เป็นการฝึกการอดทนและรอคอย
ให้เด็กสังเกตการทำแต่ละครั้ง ปัญหาที่พบมีอะไรบ้าง
- สรุปผลการทำปูนปลาสเตอร์ ประเมินผลการร่วมกิจกรรม
หมายเหตุ ระยะเวลาในการทำอาจมีการยืดหยุ่น เพราะต้องอาศัยระยะเวลา
และการทำแต่ละครั้งจะมีอุปสรรคของสภาพอากาศฝนตก ชื้น
และการกะส่วนผสมให้แน่นอน ไม่เหลว หรือข้นเกินไป
อาจทำให้ปูนปลาสเตอร์ไม่แข็งตัว
หรือแข็งตัวไวก่อนที่จะเทลงแบบพิมพ์
(ขั้นสอน)
- วันที่ 2 (25 สิงหาคม 2552) ครั้งที่ 1 เวลา 10.00 น . – 11.20 น.
กิจกรรมเรขาคณิตมหัศจรรย์ ฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์, จินตนาการ
โดยครูนำฟิวเจอร์บอร์ดมาตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยมจัตุรัส วงกลม
สี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือรูปอื่นแปลกๆ
นำแม่เหล็กตัดเป็นชิ้นติดหลังฟิวเจอร์บอร์ด
นำชิ้นส่วนทั้งหมดใส่ตะกร้ารวมกัน
- นำกระดานแม่เหล็กมาตั้งไว้
ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาประกอบรูปจากแผ่นฟิวเจอร์บอร์ดที่ตัดเป็นรูปทรงไว้แล้ว
ให้เด็กอธิบายว่าเป็นภาพอะไร
ครูสอบถามให้กำลังใจและชมเชยเมื่อเด็กปฏิบัติกิจกรรมได้
- ครูแจกกระดาษวาดเขียนแผ่นใหญ่ให้กลุ่มละ 1 แผ่น กาว
และตะกร้าที่ใส่กระดาษสีที่ตัดเป็นรูปทรงต่างๆ มาให้ทุกกลุ่ม
ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันสร้างสรรค์รูปภาพตามจินตนาการ ให้สอดคล้องกัน
เสร็จแล้วให้ทุกกลุ่มนำเสนอผลงาน
- ครั้งที่ 2 เวลา 14.20 น. – 13.00 น. ครูให้เด็กเข้ากลุ่มของตนเอง
แจกกระดาษ A4 ให้เด็กคนละแผ่นทำกิจกรรมเหมือนกับช่วงเช้า
แต่เปลี่ยนจากกิจกรรมกลุ่มเป็นกิจกรรมรายบุคคล
เมื่อเสร็จแล้วนำเสนอผลงานของตนเอง ครูบันทึกคำพูดของเด็ก
(ขั้นสอน)
วันที่ 3 (26 สิงหาคม 2552) กิจกรรมโรยทรายสี
ส่งเสริมความแข็งแรงของกล้าม
เนื้อนิ้วมือ และการสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่ เวลา 10.00 น – 11.20
น กิจกรรมนี้เด็กชอบมาก
เพราะเป็นการเอาทรายสีที่มีสีสันสวยงามมาทำให้ภาพที่เปล่าๆ
ดูสวยงามขึ้น นอกเหนือจากการใช้สีเทียน สีไม้ หรือสีน้ำ
เด็กมีโอกาสได้ทดลองสิ่งใหม่ เด็กเกิดการสังเกต ได้ซักถาม
ในขณะทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง งานด้วยความระมัดระวัง
ป้องกันไม่ให้ทรายสีหกเลอะเทอะ
- ครูเตรียมภาพให้เด็ก 4 – 5 ภาพ วางเรียงไว้
ให้เด็กได้มีโอกาสเลือกภาพเองครูคอยดูแลและช่วยเด็กเหลืออย่างใกล้ชิด
ให้โอกาสเด็กได้ทำด้วยตนเอง
ส่วนการเททรายครูจะพยายามช่วยเพื่อป้องกันทรายหกเลอะเทอะ
- เด็กคนใดที่ยังไม่ได้ทำกิจกรรมนี้
ครูจะให้ไปทำช่วงตื่นนอนก่อนกลับบ้าน
(ขั้นสอน)
วันที่ 4 (27 สิงหาคม 2552) กิจกรรมมหัศจรรย์แห่งสีสัน
เน้นให้เด็กรู้จักสี, การผสมสีทำให้เกิดสีใหม่ การสังเกต
และการเชื่อมโยงสีที่พบเห็นลงสู่ใบกิจกรรม
- ครั้งที่ 1 เวลา 09.40 น. – 11.20 น.
ครูอธิบายและสาธิตการผสมจากแม่สีให้เด็กดู สังเกตและจดจำ
สีใหม่ที่เกิดขึ้น
- ให้เด็กเข้ากลุ่มให้ทำใบกิจกรรม การผสมสีจากแม่สี
ให้เด็กระบายสีเทียนลงในช่องที่กำหนด
ตัวอย่าง แดง +
น้ำเงิน = ม่วง
- ครูนำจานสีมีสีผสมอาหารผสมละลายน้ำแล้วอยู่มาให้ที่กลุ่ม
จากนั้นแจกผ้าด้ายดิบที่ซักตากไว้พอหมาดๆ ขนาด 5 นิ้ว x 5 นิ้ว
ให้เด็กทุกคน ครูสาธิตการพับผ้าแล้วนำผ้าจุ่มลงไปในจานสี
โดยจุ่มทีละสีตามใจชอบสังเกตการสีบนผ้า พับผ้าจุ่มสีไปเรื่อยๆ
ให้เด็กสังเกตเมื่อครูคลี่ผ้าออกแล้ว เด็กๆ สังเกตเห็นอะไร
จากนั้นให้เด็กลงมือทำด้วยตนเองครูดูแลอย่างใกล้ชิด
นำผ้าไปตากที่ราว
- ครั้งที่ 2 เวลา 14.20 น. – 15.30 น.
ครูแจกใบกิจกรรมให้เด็กโดยมีเงื่อนไขดังนี้
1. ใบกิจกรรมที่ 1 เด็กหยิบผ้าของตนเองมา
สังเกตสีบนผ้าว่ามีสีอะไรบ้าง
จากนั้นให้นำพู่กันจุ่มสีที่ครูเตรียมไว้ให้ ระบายสีน้ำลงในใบกิจกรรม
ให้เด็กนำผ้าของตนเองไปแขวนไว้ที่ราว
ดังเดิม
2. ใบกิจกรรมที่ 2 ให้เด็กไปที่ราวเลือกผ้าของเพื่อนคนใดก็ได้มา 1 ผืน
จากนั้นสังเกตสีต่างๆ ในผ้าของเพื่อนว่ามีสีอะไร
แล้วนำพู่กันระบายสีนั้นลงใบกิจกรรม นำผ้าไปไว้ที่ราวดังเดิม
3. ใบกิจกรรมที่ 3 ครูเดินไปที่ราวเลือกผ้าให้เด็กคนละ 1 ผืน
ไม่ให้ซ้ำกับของตนเอง และของเพื่อนที่หยิบมา
สังเกตผ้าที่ครูหยิบให้ว่ามีสีอะไรบ้าง
นำพู่กันจุ่มสีระบายลงในใบกิจกรรม
(ขั้นสรุป)
วันที่ 5 (วันที่ 28 สิงหาคม 2552 ) เวลา 09.30 น. – 11.00 น.
- เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติ พบปัญหา
หรืออุปสรรคใดบ้าง วิธีแก้ไข
สอบถามความพึงพอใจต่อกิจกรรมที่ครูเตรียมไว้
- เด็กและครูช่วยกันออกแบบการนำเสนอผลงานที่จะนำไปจัดแสดง
รวมถึงการคัดเลือกตัวแทนไปนำเสนองานให้ผู้อื่นรับทราบ
6. สรุปผลการจัดกิจกรรม
- เด็กๆ มีความตั้งใจในการทำงาน
- ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมกลุ่มอย่างดี
เด็กที่ไม่สนใจร่วมกิจกรรมครูจะเข้าไปดูแลและกระตุ้นให้มีส่วนร่วมในการกิจกรรมกับเพื่อน
- เด็กได้ลงมือทำกิจกรรมที่แปลกใหม่ รู้จักการวางแผนช่วยกันทำงาน
พี่ดูแลน้อง แบ่งงานกันทำ
- เด็กมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นมากขึ้น กล้าพูด กล้าตอบ กล้าถาม
สนใจอยากรู้
อยากเห็น
7. ปัญหา / อุปสรรค
- เด็กทุกคนมีความคาดหวังว่าตนเองจะได้ชิ้นงานทุกกิจกรรม
8. ข้อเสนอแนะ
- เด็กทุกคนมีความคาดหวังว่าตนเองจะได้ทำทุกกิจกรรม
และเป็นเจ้าของชิ้นงานเหล่านั้นซึ่งบางงานต้องอาศัยระยะเวลา
และการรอคอย เช่น ตุ๊กตาปูปลาสเตอร์ เด็กอาจจะไม่ได้งานครบทุกคน
ซึ่งล้วนมากจากปัจจัย และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
ครูต้องอธิบายให้เด็กเข้าใจและยอมรับในเงื่อนไขของชิ้นงานนั้น
ซึ่งงานแต่ละงานขึ้นอยู่กับความสามารถ ความตั้งใจ ความอดทน ของแต่ละคน
ซึ่งครูต้องเป็นผู้ให้กำลังใจ
เพื่อให้มีการพัฒนาตนเองในการทำงานครั้งต่อไป
และชมเชยงานทุกชิ้นที่เด็กทำได้
(ลงชื่อ)……………………………. ผู้รายงาน
(นางสาวโสรัจจา โยงทะเล)