ภายหลังการร่วมเสวนาในประเด็น ๙ ข้อคิด
ในการไปค่ายอาสาพัฒนายุติลง ตกภาคกลางคืน
ก็เป็นกิจกรรมนันทนาการทั่วๆ ไป เป็นการเปิดเวที
ให้นิสิตได้ร่วมคิดร่วมสร้างกิจกรรม โดยนำเรื่องราวประสบการณ์ค่ายของตัวเองมาผูกโยงเป็นเรื่องราวและแสดงให้เพื่อนๆ ได้ดูได้ชมกันอย่างแสนสนุก
ซึ่งสุดท้ายก็เป็นกิจกรรมหลอมรวมใจที่ผมเป็นผู้นำกระบวนการ เสร็จแล้วก็ส่งผู้นำค่ายทุกคนเข้านอนอย่างเป็นกันเอง
ครั้นรุ่งเช้า เรากำหนดให้ผู้นำค่ายทั้งหลายตื่นตั้งแต่เช้ารุ่ง จัดแจงออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ชุมชนในหัวข้อ “เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน”
เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน...
การเดินเท้าเข้าหมู่บ้านถือเป็นกระบวนการหนึ่งที่ผมและทีมงานผูกโยงไว้เป็นการเรียนรู้แบบง่ายๆ โดยหวังว่านิสิตจะได้นำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีครั้งนี้ รวมถึงความรู้ หรือแง่คิดที่เกิดจากการสังเคราะห์ในประเด็น ๙ ข้อคิดในการไปค่ายอาสาพัฒนาไปลองประยุกต์ใช้ดูสักยกสองยก
แน่นอนครับ มันเหมือนเรียนภาคทฤษฎีเสร็จก็นำไปสู่การปฏิบัติจริง หากแต่คราวนี้เป็นการทดลองแบบสบายๆ เน้นให้นิสิตชาวค่ายได้ฝึกทักษะเบื้องต้นไว้ก่อน พอไปค่ายจริงๆ จะได้ไม่เขินอายที่จะใช้กระบวนยุทธอย่างจริงๆ จัง โดยก่อนหน้านี้ คุณสมปองและทีมงานก็ประสานชุมชนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า จะมีนิสิต “เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน”
การต้มข้าวโพดในรุ่งเช้าของชาวบ้าน
ทั้งผมและทีมงานไม่เจาะจงการเรียนรู้ใดๆ อย่างชัดแจ้ง ปล่อยเลยให้นิสิตเลือกที่จะเรียนรู้ตามความสมัครใจ หากแต่ย้ำว่าให้ลองประมวลแนวคิดทั้ง ๙ ข้อไปลองใช้เป็นเครื่องมือลงสู่ชุมชนดูบ้างเท่านั้นเอง อันได้แก่
นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผมซ่อนงำไว้ก็คือ ผมปรารถนาให้นิสิตได้ตื่นเช้าๆ ดูพระอาทิตย์ร่วมกันบ้าง รวมถึงการปรารถนาให้พวกเขาได้เห็นชีวิตแรกรุ่งของชาวบ้านบ้าง ว่าเป็นเช่นใด มันแตกต่างจากชีวิตนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสักแค่ไหน (เที่ยวดึก-นอนดึก-ตื่นสาย) หรือแม้แต่บางที มันอาจจะช่วยให้เขาได้หวนคิดถึงคนที่บ้านของเขาบ้างก็เป็นได้-
ผมไม่ได้เข้าร่วมเกาะติดสถานการณ์ของการ “เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน” ของนิสิต เพราะต้องการให้ทุกคนมีเสรีที่จะเที่ยวท่อง-เรียนรู้ หรือแม้แต่ทดลองการปฏิบัติจริงด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรู้สึกว่ากำลังถูกประเมินในระยะเผาขน หากแต่ไม่วายส่งเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการลัดเลาะไปแบบห่างๆ เพื่อสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลชุมชนมาแลกเปลี่ยนกับนิสิต
ครั้งนี้, นิสิตใช้เวลาอยู่ในหมู่บ้านค่อนข้างนาน พอกลับเข้ามาในที่พักก็เห็นได้ชัดว่า..แต่ละคน
สดชื่นสดใสและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก หลายคนมีเรื่องมากมายมาเล่าให้เพื่อนต่างกลุ่มฟังอย่างออกรสออกชาติ เสร็จแล้วก็นั่งจับเข่าเปิดใจถอดบทเรียนการ “เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน”
เพื่อเตรียมนำเสนอ...
และแล้วก็มาถึงห้วงเวลาอันสำคัญ แต่ละกลุ่มได้ส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลพวงการเรียนรู้จากการเดินเท้าเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่น่าทึ่งไม่น้อย เพราะเรื่องที่บอกเล่าออกมานั้น แทบไม่น่าเชื่อว่าในเวลาอันจำกัด พวกเขาจะเรียนรู้และจัดเก็บข้อมูลได้มากมายถึงเพียงนี้
ทั้งหมดนั้น คือผลพวงของการเดินเท้าเข้าหมู่บ้าน เสมือนการเตรียมพร้อมในการลงสู่หมู่บ้านจริงๆ ในค่ายปลายฝนต้นหนาวที่กำลังจะมาเยือนในเวลาอันใกล้
สำหรับผมแล้ว ผมสุขใจเป็นอย่างมากกับการเห็นผู้นำค่ายสามารถนำเอาแนวคิดที่เราต่างได้ร่วมขบคิดไปประยุกต์เป็นเครื่องมือในการลงพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านการพบปะพุดคุย มากกว่าการทำตัวเป็นผู้ชำนาญการจัดเก็บข้อมูลแบบไร้กระบวนท่า –แข็ง และไร้ชีวิตชีวา
สุดท้ายนั้น ผมได้ชวนให้แต่ละคนสรุปช่วยกันว่าแต่ละกลุ่มได้ใช้ข้อคิดจาก ๙ ข้อใดไปใช้กับกิจกรรม “เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน” บ้าง รวมถึงการตั้งคำถามว่า ถึงตรงนี้แล้ว แต่ละคนพอจะเห็นลู่ทางในการนำกระบวนการเช่นนี้ไปบูรณาการในค่ายของตัวเองบ้างหรือไม่ ...
แน่นอนครับ ผมเชื่อเหลือเกินว่า เมื่อค่ายปลายฝนต้นหนาวสิ้นสุดลง ผมคงได้รับรู้ถึงเรื่องราวมากมายของคนค่ายที่ดูเป็นรูปธรรมมากกว่าที่ผ่านมา และที่แน่ๆ ผมคงได้รับรู้ความเป็น “ชุมชน” จากวิถีแห่งการ “เดินเท้าเข้าหมู่บ้าน” เฉกเช่นครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย -
...
๑๑ ตุลาคม ๕๒
กุดร่อง,มหาสารคาม
สวัสดีครับอาจารย์
เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก ๆ เลยครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
เรียนรู้ความจริง ของจริง ที่ดำรงอยู่จริง จากคนที่รู้จริง(ชาวบ้าน)
มีกิจกรรมอย่างนี้มากๆ เด็กๆจะได้มีสุขภาพจิตแข็งแรง
ห่างจากไฟ แสง สี บ้าง แวะมาสวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะ
ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขนะคะ
สวัสดีค่ะ
แวะเข้ามาทักทายค่ะ
อ่านแล้วคิดถึงสมัยเป็นนักศึกษา
เคยทำค่ายอาสาฯ เป็นงานหลักค่ะ
สวัสดีปีใหม่นะคะ
ขอให้มีความสุขในการทำงานค่ะ
ฝากความระลึกถึง "น้องดิน" เณรน้อยในหนังสือด้วยค่ะ
สวัสดีครับ คุณหนานเกียรติ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมยาม ถามข่าวและให้กำลังใจ นะครับ..
นี่เป็นเสมือนการฝึกปฏิบัติหลังจากเรียนทฤษฎีในแบบการร่วมเสวนาในเวทีเมื่อวานนั่นเอง
อย่างน้อย ก็ชวนให้เด็กๆ ตื่นเช้าๆ สัมผัสความสดใสของเช้าชื่นแห่งหมู่บ้าน ..
ขอบคุณครับ
นมัสการ พระอาจารย์มหาแล ขำสุข(อาสโย)
บทเรียนนี้ ชี้และย้ำให้เห็นการเรียนรู้จริงจากชุมชน "บวร" บ้าน-วัด-โรงเรียน ไปในตัว ครับ
สวัสดีครับ พี่วิไล บุรีรัตน์
กิจกรรมนี้ ฝึกทักษะการเรียนรู้ชุมชน เก็บข้อมูลชุมชนและโยงไปเรื่องจิตอาสาไปในตัว...
ขอบคุณครับ