บทนำเรื่องนิทานเรื่อง " หนูน้อยหมวกแดง " เป็นนิทานของประเทศทางยุโรป ได้ถูกแต่งขึ้นโดยสองพี่น้องตระกูลกริมม์ ซึ่งเป็นนักเขียนเทพนิยายชื่อดังและอยู่ในสมัยเดียวกันกับ ผู้แต่งนวนิยายชื่อดังอีกท่านคือ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เสน นิทานของสองพี่น้องตระกูลกริมม์ เรื่องนี้ แต่งขึ้นเพี่อต้องการเน้นให้เด็ก ๆ ทั้งหลายหันมาเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่และบิดามารดาที่รู้มากกว่าเราอย่างเคร่งคัด ไม่ให้คิดเถรไถรไปเที่ยวเล่นหรือไว้ใจและเชื่อคำพูดของคนที่ไม่รู้จักหรือคนแปลกหน้า ในขณะที่ได้ใช้ให้ไปทำธุระหรือทำกิจ อะไรให้บางอย่างอย่างใด ได้ยกความผิดพลาดของตัวเอกของเรื่องคือ " หนูน้อยหมวกแดง " มาให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า เพราะการ ที่คิดเที่ยวเถรไถร และพูดคุยกับคนแปลกหน้า โดยไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนแล้ว ผลร้ายที่ได้รับนั้น ก็เกือบจะทำให้ตัวเองเกือบจะต้องตาย และก็เกือบจะกลายไปเป็นอาหารของหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์เสียอย่างน่าสงสารนั่นเองค่ะ |
|
เวลาที่แม่หนูน้อยสวมหมวกเสื้อคลุมสีแดงออกไปเดินเล่นข้างนอก สุนัขก็จะวิ่งตามมาแล้วบอกกับเธอว่า " ช่างน่ารักและ เหมาะ กับเธออย่างที่สุดเลยหละ...หนูน้อยหมวกแดง " หรือแม้แต่คุณลุงที่เป็นชาวนาข้างบ้านก็ยังบอกเหมือน ๆ กันอีกว่า " ม่า..ช่างสวย เลิศและเหมาะกับเธอเสียจริง ๆ แม่หนูน้อยหมวกแดง ฮ่า ๆๆๆ " จึงเป็นด้วยเหตุดังนี้นี่เอง ที่ใคร ๆ ทุกคนที่รู้ จักกับแม่หนูน้อย ต่าง ก็พร้อมใจกันหันมาเรียกและเปลี่ยนชื่อของเธอกันเสียใหม่ว่า " หนูน้อยหมวกแดง " กันหมด ทุกคนไป จนติดปากกันเลยทีเดียวว่า อย่างนั้นเลยหละ... |
วันนี้หนูน้อยหมวกแดงของเรา จะต้องออกไปทำธุระให้กับคุณแม่คือเธอได้รับหน้าที่ ที่จะต้องนำเอากระเช้าที่ใส่ขนมพาย, และ เหล้าองุ่นไปให้กับคุณยายของตัวเอง ที่อาศัยอยู่ในที่กลางป่าที่อยู่ถัดไป ซึ่งคุณยายผู้นี้ที่เป็นผู้ที่ได้เย็บหมวกเสื้อคลุมสี แดงให้ กับเธอนั่นเอง คุณแม่ได้ตามออกมาส่งและบอกกับ " หนูน้อยหมวกแดง " ว่า " ตอนนี้คุณยายได้เกิดล้มป่วยลงอย่าง กระทัน หัน เธอจงช่วยนำเอาของเหล่านี้ไปเยี่ยมไข้ให้คุณยายนะลูก แล้วก็ห้ามแวะเที่ยวเล่นตรงไหนด้วยนะ รีบไปแลัวก็ รีบกลับ จำไว้ ให้ขึ้นใจนะว่าห้ามเถรไถรเป็นอันขาด แล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือห้ามพูดคุยกับใครที่ไม่รู้จักหรือคนแปลกหน้าด้วย ล่ะ..เข้าใจนะ " ฟังแม่สั่งเสียเสร็จเรียบร้อยแล้ว หนูน้อยหมวกแดงก็ออกเดินทางไปเยี่ยมคุณยายของตนด้วยความร่าเริงอย่าง ที่สุดเพราะ แม่ หนูน้อยดีใจที่จะได้ไปพบกับคุณยายผู้ใจดีของตนนั่นเอง |
เมื่อหนูน้อยหมวกแดง เดินทางมาถึงกลางทางที่ในป่าแล้วนั้น ก็พอดีได้มีหมาป่าที่ออกมาเดินเกะกะอยู่ที่ใกล้ ๆ แถว ๆ บริเวณนั้น ตัวหนึ่งเข้าอย่างบังเอิญ และเมื่อมันมองไปและเห็นว่าได้มีเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ กำลังเดินอยู่กลางป่าคนเดียวเช่นนั้น มันจึงคิดที่จะ กินแม่หนูน้อยทันที มันรีบเดินเข้าไปที่ใกล้ ๆ และได้ยื่นปากออกมาพูดทักทายกับหนูน้อยหมวกแดงว่า " นี่ นี่ หนูน้อยหมวกแดง ที่ในป่าลึก ๆ เช่นนี้ เธอจะไปไหนหรือ? " หนูน้อยหมวกแดงจึงตอบว่า " อ๋อ เราก็จะไปเยี่ยมไข้คุณยาย ของเราน่ะสิ คุณยายจะอยู่ ลึกเข้าไปในกลางป่าอีกหน่อยนี่แหละจ๊ะ " ตอบแล้วหนูน้อยหมวกแดงก็เดินของเธอต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีท่าทางที่จะติดใจหรือ คิดสงสัยอะไรกับเจ้าหมาป่าตัวนั้นเลยสักน้อยนิดว่าที่มันมาทักนี่น่ะ มันนั้นหมายที่จะกินเธออยู่ ตรงนี้แล้ว !! หนูน้อยหมวกแดง เดินของเธอไปอย่างร่าเริงโดยมีเจ้าหมาป่าตัวร้ายเดินตามไปด้วยติด ๆ ไม่ยอมห่างเลยทีเดียว เลยหละ |
เจ้าหมาป่าเดินตามมาติด ๆ และมันก็คอยมองหาจังหวะที่จะกินหนูน้อยหมวกแดงอยู่ทุกวินาทีเลยทีเดียวเสียด้วยสิ ! และ เมื่อมันได้จังหวะ!! มัน...ก็อ้าปากอันใหญ่มหึมาที่มีเขี้ยวที่แหลมคมของมันขึ้น แล้วเตรียมที่จะงับ...แต่อยู่ ๆ ขณะนั้นที่เป็นเวลา เหมือนกับที่เรียกว่าเข้าด้ายเข้าเข็มอะไรทำนองนั้นของมันอยู่ พลัน ! ก็มีลูกคุริ ( ลูกเก๋าลัก ) นับเป็นสิบได้ถูกปากระหน่ำลงมา จากบนต้นไม้ เจ้าหมาป่าต้องหุปปากของมันลงอย่างกระทันหันด้วยความเจ็บ แล้วยกมือขึ้นกุมหัวเอาไว้ มันร้องขึ้นด้วยความ ตกใจเพราะ เจ็บอย่างมากเลยทีเดียว " จ๊าก...เจ็บ ๆ ใครปาหัวข้าฟะ " และเมื่อมันมองขึ้นไปดูที่บนต้นไม้ มันก็ได้พบว่าพวก กระรอกมาก มายหลายตัวที่อยู่แถว ๆ นั้น ซึ่งพวกมันเผอิญมองไปและได้เห็นว่าเจ้าหมาป่ากำลังอ้าปากและจะงับหนูน้อย หมวกแดงกินเสียแล้วนั่นเอง จึงได้ช่วยกันเอาลูกเก๋าลักปาลงมาเพื่อช่วยเหลือหนูน้อยหมวกแดงไปได้อย่างหวุดหวิด |
ส่วนหนูน้อยหมวกแดงของเรานั้น ด้วยเธอเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรรอบ ๆตัวของเธอเป็นนิสัยและเป็นเด็กที่เชื่อคน ง่ายอย่างมากอยู่ด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่ทันนึกหรือที่จะคิดสังหรณ์ใจอะไรเลยสักนิดว่ากำลังจะโดนกินอยู่ทุกขณะอย่างนั้น จึง เดินลึกเข้าไปในป่าเรื่อย ๆตามปกติอย่างเดิม เจ้าหมาป่าเมื่อมันตั้งหลักได้แล้ว ก็วิ่งตามมาอีกติด ๆ " ว๊อย..มีตัวขัดจังหวะมา แทรก แต่คราวต่อมานี้ ไม่มีทางรอดแน่นอนหนูน้อยหมวกแดงเอ๋ย " และเมื่อมันตามมาได้ทันอีกครั้ง ก็อ้าปากของมันขึ้นอีก หมายจะงับให้จมเขี้ยวเลยทีนี้ แต่...ก็พลันทันทีทันใดนั้นเหมือนกัน ที่ได้มีต้นไม้ทั้งต้นเกิดล้มตึงลงมา แล้วล้มพาดทับลงมาที่ หัวของเจ้าหมาป่าเสียง ดัง " โครม " " แว๊ก..แจ๊ก เจ็บ ๆ ใครทำอะไรข้าอีกล่ะ " คนตัดไม้นั่นเอง...ที่เผอิญมองไปและได้เห็นว่า หนูน้อยหมวกแดงกำลังจะโดนงับ เลยคิดช่วยเหลือโดยการล้มต้นไม้ทั้งต้นให้ ก็เลยเป็นว่าหนูน้อยหมวกแดงจึงได้รอดพ้นจาก การโดนกินไปได้อีกครั้งอย่างโชคดี และเหลือเชื่อที่สุดอีกตามเคย |
เมื่อหนูน้อยหมวกแดงเดินลึกเข้ามาเรื่อย ๆ จนถึงตรงแถว ๆที่เป็นบริเวณทุ่งกว้าง ที่มีดอกไม้ป่าขึ้นอยู่อย่างมากมายนั้นแล้ว เจ้าหมาป่า มันก็วิ่งตามมาจนทันอีกครั้ง และคราวนี้มันคิดแผนการณ์ขึ้นมาใหม่และได้พูดบอกกับหนูน้อยหมวกแดงว่า " นี่ถ้า เธอจะไปเยี่ยมคนป่วย แล้วถ้ามีดอกไม้สวย ๆ พวกนี้ติดมือไปด้วยก็ดีนะหนูน้อยหมวกแดง "หนูน้อยหมวกแดงเมื่อได้ฟังดังนั้น ก็ไม่ต้องหยุดคิดอะไรให้เหนื่อยพลังสมองเลยสักนิดเดียว เพราะเธอก็ติดจะเป็นเด็กที่ว่าง่ายอย่างที่ว่า เธอจึงเห็นด้วยกับ เจ้าหมาป่าทันที และตอบมันไปว่า "อ๋อ จริงอย่างที่เธอว่าเลยทีเดียวนะเนี่ย ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวหาเก็บดอกไม้แถว ๆ นี้ติดมือไป ด้วยก็ดี ขอบคุณมากจ๊ะ ที่ใจดีบอกเรา " เมื่อหนูนัอยหมวกแดงพูดบอกขอบคุณเจ้าหมาป่าเสร็จแล้ว ก็เดินไปหยุดลงนั่งเก็บ ดอกไม้ที่มองเห็นเหล่านั้นเสียอย่างเพลิดเพลิน |
" เหอ ๆๆๆ อ้ายเด็กโง่นั่นมันกำลังนั่งเก็บดอกไม้ อย่างเพลินเลยทีเดียว คราวนี้หละ ไม่รอดแน่ " เจ้าหมาป่าตัวร้าย ค่อย ๆ ย่าง เท้าเข้าไปไกล้ ๆ แล้วอ้าปาก แต่เจ้าหมาป่าต้องสะดุ้งเฮือกและตาเหลือกขึ้นด้วยความเจ็บอีกหน เพราะขณะที่ มันกำลังก้าวขา จะเข้าไปไกล้ ๆ นั้น มันได้เกิดก้าวผิดและพลาดไปเหยียบเอาผิ้งหลวงตัวหนึ่งที่กำลังตอมกินน้ำหวานใน ดอกไม้ดอกหนึ่งอยู่ เพลิน ๆเข้าอย่างจัง ! ผึ้งหลวงเมื่อโดนเหยียบอย่างไม่รู้ตัวเข้าอย่างนั้นจึงเกิดโมโหและได้ต่อยเอาเท้าของเจ้าหมาป่าเข้าให้ อย่างแรง " แว๊ก เจ็บ ๆ " มันทั้งเจ็บและตกใจจนร้องเสียจนเสียงหลงเลยทีเดียว มันต้องพลาดการได้กินหนูน้อยหมวกแดงอีก แล้ว แต่หนูน้อยหมวกแดงของเราก็ยังไม่รู้ตัวหรือไม่รู้อิโน่อิเหน่อะไรของเธออยู่อย่างเดิมนั่นแหละ เธอเพียง แต่ได้ยินหมาป่า ร้องอยู่ที่ไกล้ ๆ ก็หันมามองดูนิดหนึ่ง แล้วก็หันกลับไปเก็บดอกไม้ของเธอต่อตามเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นยังไงยังงั้น เลยจริง ๆ |
เจ้าหมาป่าตัวร้ายต้องผิดหวังหลายครั้งหลายหน แต่ความที่มันต้องการที่จะกินหนูน้อยหมวกแดงให้ได้เป็นอย่างมาก มันจึง ถอยออกมาและมายืนคิดแผนการณ์อันชั่วร้ายของมันใหม่อีกครั้ง " เหอๆๆๆ ฮึๆๆ อ้ายเด็กนั่นมันช่างดวงดีเสียจริง ๆ แต่ไม่ เป็นไร มันต้องไม่พ้นไปจากความพยายามของข้าได้หรอก เอาอย่างงี้ดีกว่า เดี๋ยวไปกินยายของ มันเสียก่อนดีกว่ามั้ง...มัน บอกว่ายายของมันกำลังไม่สบาย ต้องไม่มีแรงอะไรที่จะสู้เราได้หรอก แหม..เรานี่ ก็หัวแหลมไม่เบาเลยทีเดียว เหอๆๆๆ.. เมื่อกินยายของมันเสร็จแล้ว ทีนี้ก็ดักรอแล้วกินอ้ายเด็กนี่ทีหลัง..ฮ่ะ ๆๆๆ อย่างนี้ต้องเรียกว่าทีเดียวได้สองต่อ เหอๆๆลาภ ปาก " และเมื่อ มันคิดอุบายใหม่ได้แล้ว มันก็รีบเดินทางไปที่บ้านของคุณยายของหนูน้อยหมวกแดงทันที และเมื่อมันมาถึงที่ หน้าบ้านของคุณยายแล้ว ก็เคาะประตู แล้วทำเสียงเลียนแบบหนูน้อยหมวกแดงทันที " ยาย...คุณยายขา เปิดประตูให้หน่อย หนูน้อยหมวกแดงเองไง เปิดประตูให้หน่อย สิจ๊ะ..." มันดัดเสียงเสียจนหวานจ๋อยจนเหมือน ๆกับเสียงของหนูน้อยหมวกแดง เลยจริง ๆ และคุณยายที่อยู่ในบ้านก็เชื่อสนิทว่าเป็นเสียงของหลานจริง ๆเสียด้วย " โอหยา... โอหยา หลานน้อยหมวกแดงคน ดีของยาย หรือจ๊ะ มาได้ยังไงคนเดียวหรือนี่ " แต่..! พอยายเปิดประตูออกมาเพื่อที่จะรับหลานเข้าเท่านั้น... |
ก็โดนเจ้าหมาป่าที่มันคอยตั้งท่าและอ้าปากค้างเอาไว้เพื่อจะคอยรับอยู่แล้วนั้น...เขมือบเข้าปากไปเลยทีเดียวทั้งตัว .... คำเดียวจริง ๆ หายลับเข้า ไปอยู่ในท้องหมดทั้งตัวเลย เมื่อมันกินยายเสร็จแล้ว ทีนี้มันก็ได้ไปเอาเสื้อผ้าของคุณยายมาเปลี่ยน แล้วเข้าไปนอนคอยหนูน้อยหมวกแดงอยู่ที่บน เตียง " ฮึ ๆๆๆ อ้ายเด็กบ้านั่นมันเชื่อคนง่าย จะต้องนึกว่าข้าคือยายของมันจริง ๆ อย่างแน่นอน แล้วตอนนั้นมันจะต้องไม่ทันระวังตัวและเมื่อมันเดิน เข้ามาใกล้ ๆ ทีนี้ละก็..ฮึๆๆๆ ก็จะต้องโดนข้าขะเหมือบจับกินได้อย่างง่าย ๆ ให้สมใจซะเลยเหอ ๆๆๆ โอ้ยทำไมข้า ถึงหัวดีอย่างนี้ก็ไม่รู้ ฮ่า ๆๆๆ เป็น มีความสุขเสีย จริง ๆ " เจ้าหมาป่ามันว่าแล้ว ก็กระโดดขึ้นเตียงลงไปนอนวาดวิมานในอากาศของมันไปอย่างเรื่อยเปื่อย และสุดแสนที่จะมีความ สุขเลยทีเดียวเชียว... |
และจากนั้น...เมื่อเวลาผ่านมาได้สักหน่อย หนูน้อยหมวกแดงของเรา ก็ได้เดินทางมาถึงที่หน้าบ้านของคุณยาย และได้เคาะประตูเรียก " คุณ ยายขาหนูน้อยหมวกแดงเองจ๊ะ คุณยาย " แต่ไม่ว่าจะเคาะกี่ครั้ง ๆ ก็ไม่เห็นมีเสียงตอบออกมาเลยสักนิด และเมื่อเธอจับลูกบิดประตูดูก็ปรากฏ ว่าประตูไม่ได้ล๊อกเอาไว้เสียด้วย ดังนั้นหนูน้อยหมวกแดงจึงเปิดประตูและเดินเข้าไปข้างใน เธอได้มองไปเห็นว่าคุณยายของเธอกำลังนอนอยู่บน เตียง จึงเดินเข้าไปที่ใกล้ ๆ กับเตียงนั้นทันที คุณยายนอนสวมหมวกใบใหญ่ไว้บนหัวด้วย แต่เมื่อเธอมองไปที่ใต้ผ้าห่มก็แลเห็นใบหูของคุณยายที่ ลอดออกมานอกผ้าห่มนั้นเข้าเท่านั้น ก็ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า " คุณยายขา นอนหลับอยู่หรือคะ...แต่...เอ๊ะ !...ทำไมหูของคุณยายถึงได้ใหญ่จังเลย ล่ะ...ใหญ่มากกว่าเก่าตั้งเยอะแน่ะ เป็นอะไรไปหรือปล่าวจ๊ะ" |
เมื่อได้ยินเสียงถามขึ้นมาเข้าอย่างนั้น คุณยายตัวปลอมก็ตอบออกมาว่า " อ๋อ..หูนี่หรือจ๊ะ ไม่ต้องสงสัยอะไรหรอกจ๊ะ ยายกางใบหนูให้มันใหญ่ ๆ เองจ๊ะ จะได้เอาไว้ฟังเสียง หวาน ๆ ของหลานได้ชัด ๆ ยังไงเล่า ? " เมื่อได้ฟังดังนั้นหนูน้อยหมวกแดงก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แล้วขยับขาเดินเข้า ไป...ใกล้เข้าไปอีกนิดหนึ่ง แต่เมื่อเธอ มองไปเห็นที่ดวงตาเข้าอีกเข้าเท่านั้น ก็ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจขึ้นอีกว่า " เอ๊ะ !......แล้วลูกตาคุณยายก็...ทำไม... ถึงได้ใหญ้..ใหญ่เหมือนกัน เล่าคะ !..." เจ้าหมาป่าตัวร้ายก็ตอบกลับมาอีกว่า " ยายก็ถ่างตาให้มันใหญ่ ๆ เองแหละจ๊ะ จะได้เอาไว้มอง หน้าที่น่ารักของเจ้าได้ถนัด ๆ ยังไงเล่า ? มาเข้ามาใกล้ ๆ ยายอีกนิด อย่ามัวสงสัยอะไรเลย มา...เข้ามาใกล้ ๆ ให้ยายได้เห็นชัด ๆ ถนัด ๆ กว่านี้อีก หน่อยสิจ๊ะหลานรัก เร๋ว.. " เจ้าหมาป่าตอบแล้วก็นิ่งเงียบ มันพยายามหลบหน้าเข้าไปในโปง แต่ !... แล้วหนูน้อยหมวกแดงก็เหลือบไปเห็นที่มือและ ปากของคุณยายตัวปลอมเข้าอีกหนอย่างเต็มเปาเลยทีนี้ เธอจึงถามขึ้นอย่างตกใจว่า " โอ๊ะ ! แล้วมือกับปากของคุณยายก็ใหญ่ขึ้นมามาก กว่าเก่า ตั้งเยอะแน่ะ..อ๊ะ ทำ ไม คะ คุณยาย ??"
|
ไม่มีความเห็น