ทบทวนบทเรียนเขียนบล็อกของตนเอง


การทบทวนตนเองอยู่เสมอนั้นเป็นสิ่งที่พึงกระทำอย่างยิ่ง วันนี้ครบเดือนหนึ่งพอดีนับแต่ได้เขียน blog มา ควรแก่การทบทวน(ทบทวนบทเรียน)เสียหน่อย ว่าตนเองทำได้หรือไม่ได้ เปลี่ยนแปลงตนเองอย่างไรบ้าง คราวหน้าจะต้องบันทึกอย่างไร เรียกว่าถอดบทเรียน  KM ตนเอง เรื่องการบันทึก blog ครับ

ผมเริ่มต้นเขียนบันทึก blog จากการขอร้อง (แกมบังคับ)ของคนอื่น มิได้เริ่มจากความอยากของตัวเองเลยครับ ซึ่งการเริ่มต้นทำอะไรจากการขอร้อง (แกมบังคับ)ของคนอื่นนี้ ทำให้ผมเรียนรู้เรื่องเมตตา เรื่องเสียสละ เห็นแก่คนอื่น ทำตามความคาดหวังของอื่น และการข่มใจตนเองมากขึ้น ผมเริ่มต้นการเขียนจากการตัดใจเขียน อึดใจเขียน จากการลองผิดลองถูก ผมจึงไม่ทราบทั้งเทคนิคการจัดการ blog และการจัดการกับงานบันทึกของตนเอง ว่าจะต้องทำอย่างไร เรียกว่ากว่าจะมาเป็น “ครูนอกโรงเรียน” จนส่งตีพิมพ์ครั้งแรกได้ ก็เรียกว่าเหนื่อย ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง ถูกไม่กี่ครั้งหรอกครับ นอกนั้นผิด

บันทึกแรกๆ ผมบันทึกใน blog เลย เสียเวลามาก เพราะไม่เข้าใจทั้งเทคนิคการจัดการ blog และการจัดการกับงานบันทึก ที่สำคัญเสียตังค์ค่าชั่วโมงเน็ตครับ  เพิ่งมาได้ความรู้ภายหลังว่า ฝึกหัดเขียน blog ให้เริ่มจากพิมพ์บันทึกจากโปรแกรมอื่นก่อน เช่น Word , Excel เป็นต้น จากนั้นจึงนำมาวาง paste ใน blog

ผมได้เรียนรู้ว่า กว่าจะได้ความรู้ใดๆมา ต้องตัวเองนำตนเอง ตัวเองเป็นพระเอกจริงๆให้ได้ แสดงความเป็นผู้เรียน (คุณกิจ) อย่างแท้จริง อาศัยทั้งทักษะและความพยายามหลายอย่าง ที่สำคัญต้องอาศัยคุณธรรมเป็นพื้นฐานครับ

ผมนึกขำตนเองว่า เคยพูดว่าผู้เรียนไม่บันทึก ผู้ทำงานจัดการความรู้ไม่บันทึกความรู้หน้างาน ท้ายสุดไม่มีข้อมูล หลักฐานร่องรอยใดมาใช้เป็นทรัพยากรของการบันทึก ถอดบทเรียน หรือสรุปผล สังเคราะห์ ฯลฯ ไปว่าเขาอย่างนั้น ตนเองเป็นอย่างไร ตนเองก็ไม่บันทึกเหมือนกัน  ฉะนั้นการที่ตนเองเตาะแตะเขียน blog ได้ ก็เรียกว่าพัฒนาตนเองขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ต่อไปจะได้ไม่ว่าใครสุ่มสี่สุ่มห้า ส่งเดชไปเรื่อย เป็นบทเรียนกับตนเองเหมือนกัน

Blog มันมีประโยชน์หลายอย่าง อย่างที่เขาว่ากันจริงๆ ทำให้ผมใช้วิเคราะห์ตนเอง ใช้ทบทวนเรื่องราวในอดีตของตนเองได้ เห็นการกระทำของเราว่าเราหนักเบาในกิจกรรมใด ในช่วงสัปดาห์ใด หรือเดือนใด ปีใด (เดือนใด ปี ใดยังพูดไม่ได้ก่อน เพราะบันทึกได้แค่เดือนเดียวเองครับ ) เป็นคลังความรู้อย่างที่เขาว่าจริงๆ ครับ  blog ทำให้ผมมีพื้นที่ยืนมากขึ้นนอกจากพื้นที่ที่บ้านและที่ทำงาน มีเพื่อน..............ฯลฯ

ยิ่งเขียน ก็ต้องยิ่งทำงานมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีเรื่องเล่า เรื่องหรือประเด็นที่จะเล่ารูสึกว่าผมจะไม่ห่วงเท่าไหร่  เพราะทุ่มเทในงานอยู่แล้ว มีเรื่อง....(เล่า) อยู่แล้ว แต่ห่วงเรื่องเวลาที่จะมานั่งพิมพ์ (พิมพ์ไม่คล่อง) แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา สิ่งที่จะต้องเรียนรู้ต่อไปอีกในระยะใกล้นี้ก็คือเรื่องลูกเล่น เทคนิคการจัดการ blog ต่างๆ ถ้าทำได้ เรื่องราวหรือสาระที่จะสื่อสารออกไป จะได้มีประโยชน์ต่อผู้อ่านมากขึ้น

สรุปว่าบันทึกบล็อก ไม่ยากอย่างที่คิด สำหรับคนที่เริ่มต้นยาก ก็ใช้บทเรียนอึดใจ แข็งใจทำอย่างผมก็ได้ครับ สิ่งที่ยากๆก็ค่อยๆเรียนรู้กันไป ขอบคุณ คุณภีม ภคเมธาวี แห่ง มวล.ที่ ขอร้อง (แกมบังคับ) ผมได้สำเร็จ แต่ผมว่าผมนั้นอีกนานกว่าจะเรียนสำเร็จ เป็นหลักสูตรยาวๆหลักสูตรหนึ่งที่ต้องเรียนกันต่อไป



ความเห็น (5)

ถึงแม้อาจารย์จะรู้สึกฝืดกับการใช้ blog ในช่วงแรกๆ  

แต่งานเขียนของอาจารย์ที่ออกมาไม่ได้ฝืดเลยครับ   ผมอ่านแล้วรู้สึกว่า   การเขียนเล่าประสบการณ์   ความรู้สึก  ความรู้ และอีกหลายๆความ........     เป็นธรรมชาติมากครับ   ง่ายๆ  อ่านแล้วเพลินดีครับ

ธวัช หมัดเต๊ะ

อาจารย์คะ ภาพอาจารย์ก่อนหน้าที่จะรู้จักทาง blog เหมือนเป็นอาจารย์สไตล์ชาวบ้าน (จะว่า บ้านนอก ก็กลัวอาจารย์โกรธ แต่ว่า คำว่า บ้านนอก ของดิฉัน ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบ นะคะ ดิฉันกลับชอบบ้านนอก มากกว่าในเมือง ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอยู่บ้านนอกอีกครั้งหนึ่งค่ะ อบอุ่นกว่ากันเยอะเลย)

... แต่ ณ วันนี้ มีความรู้สึกว่า ตัวอาจารย์ สไตล์ของอาจารย์ ข้อเขียนของอาจารย์ อาจรวมทั้งความคิดของอาจารย์นั้น ไม่ธรรมดาเลยค่ะ สมควรเป็นแบบอย่าง ขออนุญาติเป็นศิษย์ ที่คอยเรียนรู้จากอาจารย์ เพิ่มอีกสักคนนะคะ

อีกครั้งนึงนะคะ .. อยากเห็นภาพอาจารย์จัง
   การเดินทางที่ว่าไกลแสนไกลนั้น  ก็ต้องเริ่มที่ก้าวที่หนึ่งเสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
บันทึกของท่านทำให้นึกถึง...การพยายามรินน้ำลงในแก้ว...ที่ไม่เต็มสักทีคะ...
นี่แหละ...คือผู้มีปัญญา...แห่งการเรียนรู้อย่างแท้จริง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท