หนังไทยยุคโบราณๆ
หนังไทยยุคโบราณๆ
ผมชอบดูหนังไทยโดยเฉพาะแนวอนุรักษ์ความเป็นวัฒนธรรมไทยด้วยเเล้วยิ่งชอบเลยขอรับ..บันทึกนี้จึงสร้างขึ้นบนฐานความรักชาติเเบบเด็กวัดคนหนึ่งที่ชอบดูหนังไทยๆๆ ดังนั้นขอเชิญชวนนะครับท่านใดชอบเรื่องอะไรเราหาข้อมูลมาเเลกเปลี่ยนกันนะขอรับ
ภาพยนตร์ไทย มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกถ่ายทำในเมืองไทย คือ เรื่อง นางสาวสุวรรณ ผู้สร้าง คือ บริษัทภาพยนตร์ ยูนิเวอร์ซัล ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ผู้แสดงทั้งหมดเป็นคนไทย พ.ศ. 2470 ภาพยนตร์เรื่อง โชคสองชั้น เป็นภาพยนตร์ขนาด 35 มิลลิเมตร ขาว-ดำ ไม่มีเสียง ได้รับการยอมรับให้เป็นภาพยนตร์ประเภทเรื่องแสดงเพื่อการค้าเรื่องแรกที่สร้างโดยคนไทย
ภาพจาก http://www.thaifilmdb.com/th/tt02718
ในช่วงหลัง พ.ศ. 2490 ถือเป็นช่วงยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ไทย สตูดิโอถ่ายทำและภาพยนตร์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นประเทศไทยเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นช่วงซบเซาของภาพยนตร์ไทย เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง กิจการภาพยนตร์ในประเทศไทยค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา ได้เปลี่ยนไปสร้างเป็นภาพยนตร์ขนาด 16 มิลลิเมตรแทน และเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะคับขัน ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องได้แสดงบทบาทของตนในฐานะกระจกสะท้อนปัญหาการเมือง และสังคม ในช่วงเวลาระหว่างปี พ.ศ. 2516-2529 ต่อมาภาพยนตร์ไทยในช่วงปี พ.ศ. 2530-2539 โดยในตอนต้นทศวรรษวัยรุ่นเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ นอกจากภาพยนตร์ประเภทวัยรุ่นแล้ว หนังผี และหนังบู๊ รวมทั้งหนังโป๊ และหนังเกรดบี ก็มีการผลิตมามากขึ้น
ภาพจาก http://www.thaifilmdb.com/th/tt02718
ปัจจุบันประเทศไทยมีภาพยนตร์ที่มุ่งสู่ตลาดโลก เช่น ภาพยนตร์เรื่อง ต้มยำกุ้ง ที่สามารถขึ้นไปอยู่บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิสในประเทศสหรัฐอเมริกา และยังมีภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่เป็นที่ยอมรับในเทศกาลภาพยนตร์ (http://th.wikipedia.org/wiki)
ความเห็น (58)
ไม่น่าเชื่อว่า อ.กู้เกียรติ จะชอบดูหนังไทย
เหมือนจะเป็นคนสมัยใหม่...
นึกว่าจะนิยมของนอก(ขออภัยด้วยค่ะ)
สวัสดีขอรับคุณครู ป.1...กินของไทย ใช้ของไทย...อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมไทยขอรับ
คงจำหนังเรื่องนี้ได้นะขอรับ เป็นหนังดีที่ผมนั่งดูหนังกลางเเปลงไปน้ำตาซึมไปเลยว่างั้น..............
ตื่นเช้านะอาจารย์
มิตร ชัยบัญชา (28 มกราคม พ.ศ. 2477 - 8 ตุลาคม พ.ศ. 2513) หรือชื่อจริง พันจ่าอากาศโท พิเชษฐ์ ชัยบัญชา (นามสกุลเดิม พุ่มเหม) เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงปลาย พ.ศ. 2499 เป็นพระเอกภาพยนตร์ไทยในช่วง พ.ศ. 2500 - 2513 มีผลงานเด่นในช่วง พ.ศ. 2501 - 2517 ซึ่งเป็นยุคเฟื่องฟูของภาพยนตร์ 16 มม. มีผลงานนับได้ขณะนั้น 266 เรื่อง จากทั้งสิ้น 300 กว่าเรื่อง
หนังเรื่องแรกที่ดูแล้ว..ทั้งเครียดทั้งหลากหลายความคิดของเด็กวัย 12 ปี ..คือทองพูน โคกโพธิ์ราษฎรเต็มขั้น........
***********************************************************
ทองพูนเป็นคนอีสานที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ทองพูนขายนาและนำเงินที่ได้ไปซื้อรถแท็กซี่มาขับเพื่อหาเงิน ต่อมาทองพูนถูกจี้ชิงรถไป ทองพูนจึงสืบหารถของตัวเองจนรู้ว่าอยู่ที่อู่พรวัฒนา ทองพูนไปขอรถคืนแต่ถูกทำร้าย จึงตัดสินใจไปเอารถคืนอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทองพูนฆ่าคนตายไปหลายคน แต่หารถตัวเองไม่เจอ จึงยอมมอบตัวกับตำรวจ เรื่องราวของทองพูน เป็นส่วนหนึ่งของคนจนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยที่เขาพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมจากสังคม ให้เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง
บริษัทผู้สร้าง ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
ผู้กำกับ มจ.ชาตรี เฉลิมยุคล ( Prince Chatri- Chalerm- Yukol )
ปีที่ฉาย พ.ศ.2521 (1977)
*************************************************************
คุณ...จตุพล...รับบท เสี่ยว อิสาน ได้ถึงบทบาทมาก
..............ทองพูน โคกโพธิ์............
ออกฉาย ประมาณ ต้นปี 2521
เรื่องแรกที่ดูแล้ว...โหๆคนเรารักกันยากจังในสังคมไทย....มีทุกเรื่องราวเลยที่เป็นอุปสรรค..ศักดินา ชนชั้น และสภาพทางเศรษฐกิจ..สอนให้เกียจชาวนาจนๆแล้วเดี๋ยวนี้เป็นไงนายังจะไม่มีให้ทำเลยอิๆเศร้า...คือ...แผลเก่า
ในบทบาทหนังย้อนยุค...ชีวิตในชนบทบ้านนอก ยังไม่เคยมีเรื่องใด
ที่สามารถ สร้างความประทับใจ ให้ผู้ชม ได้เท่า เรื่องนี้เลย
แสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี ,นันทนา เงากระจ่าง
ที่มาของภาพ..http://www.thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=4343&page=2&keyword=
นี่แหละครับ ศิลปะร่วมสมัยของจริง
นำมาฝาก 2 เรื่องครับ
เรื่องสวรรค์เบี่ยงนี่ ผมไปดูวิกล้อมสังกะสีกับแม่
บ้านทรายทองก็ยุคถัดมา
ชอบเหมือนกันเลยอ้อยเล็ก....สมัยก่อนดูหนังกลางเเปลงเป็นประจำ
คุณบีเวอร์ผมหาหนังไทยในดวงใจมาฝากขอรับ
ตอนประถมต้น คุณครูพาไปดูเรื่องน้ำพุค่ะ แต่จำไม่ค่อยได้ มาเข้าใจก็ตอนอ่านหนังสือนอกเวลา ก็เลยให้แม่พาไปซื้อหามาดู สงสารชะตากรรมของน้ำพุค่ะ
มาดูฟิมล์หนังเก่าด้วยคนค่ะ
ชอบ เพชรา ค่ะ
สวยเสมอ
“ น้ำพุ…”
“ จุดเริ่มต้น แห่งโศกนาฏกรรม ”
กำกับโดย... ยุทธนา มุกดาสนิท
แสดงโดย ... อำพล ลำพูน,ภัทราวดี ศรีไรรัตน์
ขอบคุณความรู้เกี่ยวกับหนังไทยยุคโบราณครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์กู้เกียรติ
- ลูกศิษย์ก็ได้ดูหนังกลางแปลงที่เขามาฉายที่วัดเหมือนกันค่ะ เวลาที่เห็นรถหนังขายยามาขออนุญาตฉายหนังกับเจ้าอาวาสวัด พวกเด็กๆ อย่างลูกศิษย์ จะดีใจกันมากๆ ไม่ชอบตอนเขาหยุดขายยาค่ะ... นานมาก โดยเฉพาะขายยาถ่ายพยาธิ (ฮา) บางทีรอจนหลับก็มี....
- พอยู่มัธยม ได้ดูเรื่องน้ำพุ ข้างหลังภาพ (ยุคพี่หนุ่ย อำพน) วัลลี เศร้าจนต่อมน้ำตาแตกเลย...ยังคิดถึงหนังเก่าอยู่เสมอ มันมีคุณค่าทางจิตใจด้วย... รวมทั้งหลักสูตร 21 มีให้อ่านเป็นหนังสือนอกเวลา เรื่อง น้ำพุ ข้างหลังภาพ นิกกับพิม ฯลฯ พอสร้างเป็นหนัง จึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยเชียว
- ไม่ทราบว่า อาจารย์ ได้เปิด mail หรือเปล่า ลูกศิษย์ ส่งการบ้านส่วนหนึ่งให่อาจารย์ตรวจค่ะ ไปบอกอาจารย์ไว้ที่บันทึก มวยไทย เมื่อค่ำวันพุธที่ 9 ธค. ค่ะ ไม่ทราบ mail ของอาจารย์ จึงส่ง mail ที่บล็อก มันแนบไฟล์ไม่ได้ค่ะ....อยากส่งเป็นไฟล์ word ให้อาจารย์ จะได้สะดวกในการตรวจค่ะ
- ขอความกรุณา แจ้ง mail ของอาจารย์ให้ศิษย์ทราบได้ไหมค่ะ
- ด้วยความระลึกถึงค่ะ
สวัสดีขอรับท่านอาจารย์ ผมคนโบราณนะขอรับเลยนำเรื่องโบราณมาคุยด้วย
คุณครูใจดี...ผมตรวจดูที่คุณครูส่งการบ้านมาเเล้วขอรับ เปิดเมล์ดูนะ..ขอชมว่าเก่งมาก..เเต่มีข้อเสนอแนะบางประการช่วยดูนะ...สวัสดีวันเกิดขอรับ
http://www.thaicine.com/wboard/default.php
แผลเก่าเป็นหนังไทยสุดยอดอมตะอีกเรื่องที่ผมประทับใจมาก ในฐานะลูกชาวนาเเหมดูเเล้วอยากเป็นขขวัญมากเลยขอรับ
แผลเก่า เป็นผลงานประพันธ์เรื่องแรกของไม้ เมืองเดิม ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2479 นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2483 และ พ.ศ. 2489 ต่อมาเชิด ทรงศรีนำกลับมาสร้างภาพยนตร์อีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2520 นอกจากนี้ยังถูกสร้างเป็นละครในชื่อ "ขวัญเรียม" ฉายทางช่อง 4 บางขุนพรหม และสร้างใหม่อีกหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ พ.ศ. 2544
คนโร หัวโบ มาชมหนังโบราณ ค่ะ
ชอบเรื่อง ครูดอย และ วัลลี
สะเทือนใจทุกที กับ ธรณีกรรแสง ค่ะ
สุขสันต์วันศุกร์ สนกวันเสาร์ เร้าใจวันอาทิตย์ค่ะ
อีก 1 เรื่องขอรับหนังไทยในดวงใจ ผมเเอบชื่นชมผู้สร้างเเละทีมงานพร้อมทั้งติดตามอยู่เสมอขอรับ
เรื่องราวเหตุการณ์ของแผ่นดิน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในพระชนม์ชีพของพระสุริโยไท ตั้งแต่พระชนมายุ 15 พรรษา นับตั้งแต่เรื่องของความรักความผูกพัน การอภิเษกสมรส การย้ายถิ่นฐานเข้าสู่ราชธานีชีวิตในราชสำนัก การดำรงรักษาสถานภาพ และเกียรติยศของพระราชวงศ์
ความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากการสืบทอดราชสมบัติ ผลัดแผ่นดิน สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชน ซึ่งมีทั้งความเข้มแข็ง ความอ่อนแอ ความซื่อสัตย์จงรักภักดี ความทะเยอะทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง ความเห็นแก่ตัว การแก่งแย่งแข่งดี และการเสียสละเพื่อความอยู่รอด(จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)
คุณปูขอรับมาครั้งเเรก ผมประทับใจเลยขอรับ..มีความสุขในการทำงานเช่นกันนะ....สำหรับคุณปูขอรับ
หนังที่ขายความเป็นเอกลักษณ์ไทยขอรับ
สวัสดีค่ะ เคยดูเรื่องน้ำพุค่ะ และก็วันลี ชอบมาก 
แถมอีกเรื่อง..
ขอบคุณขอรับครูบันเทิง เดาไว้เเล้วต้องชอบน้ำพุ.....
โหมโรง หรือ The Overture นำแสดงโดย อนุชิต สพันธุ์พงษ์ (จาก 15 ค่ำ เดือน 11) รับบท ศร ในสมัยรัชกาลที่ 5, อดุลย์ ดุลยรัตน์ รับบท ท่านครู หรือ ศร ในยุคสมัยรัชกาลที่ 8, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบท พันโทวีระ นายทหารหนุ่มผู้ยึดมั่นในคำสั่งของรัฐบาล ในการปรับปรุงวัฒนธรรม ให้เทียบเท่าอารยะธรรมตะวันตก, อาระตี ตันมหาพราน รับบท แม่โชติ สตรีในวังผู้สูงศักดิ์ ผู้เป็นกำลังใจให้ศร, สุเมธ องอาจ รับบท ประสิทธิ์ ทายาทเพียงคนเดียว ของบรมครูทางด้านดนตรีไทยผู้ยิ่งใหญ่, ภูวฤทธิ์ พุ่มพวง (จาก โอเคเบตง) รับบท เทิด ลูกชายทิวเพื่อนสนิทของศร, อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า จากวง 'บอยไทย' รับบทเป็น ขุนอิน นักระนาดเอกมือฉกาจ คู่ปรับเก่าของศร ผู้ซึ่งทำให้ศรได้เรียนรู้ถึงความผ่ายแพ้เป็นครั้งแรก
สวัสดีค่ะ
มาชมหนังแผ่น
ชอบเรื่องโหมโรงค่ะ ตอนไปดู ตอนนั้นยังไม่ได้รับประชาสัมพันธ์จากสื่อ ในโรงโหรงเหรงเชียว ไม่แทบโรงโป่งเหมือนงการฉายในช่วงท้ายๆ
เห็นด้วยกับพี่อ้อยเล็กค่ะ... ป่านนี้คุณแม่ของอาจารย์คงภูมิใจ
"ลูกเราหน้าเหมือนพระเอกราวกับแกะ"... อาจารย์เท่ห์มากเลยค่ะ..
สวัสดีค่ะ คุณ 
k-kukiat
- ดารานำ สมัยก่อนหน้าตาสวยๆทั้งนั้น
- คุณ k-kukiat หล่อเหมือนอำพล จริงๆ
- กานต์ตามมาคุยกะคุณk-kukiat เรื่องPMQA นี้ต่อ กลัวคุณk-kukiatไม่ไปที่บันทึกหลายวัน กำลังจะขอความช่วยเหลือ เลยคัดลอกมาที่นี่ด้วย ขอโทษนะคะ
ขอบคุณมากนะค่ะ! คุณ k-kukiat ที่ทำให้กานต์เห็นความสัมพันธ์ของ PMQA แต่หมวดขึ้นอีกเยอะ และทำให้กานต์รู้ว่าจริงๆแล้วการจัดทำคำรับรองฯก็เปรียบเสมือนการทำ PMQA อยู่แล้วเพี่ยงเราอาจจะต้องเอาสิ่งเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในหมวดต่างๆ ให้เป็นที่เป็นทาง เพราะจริงๆแล้วในปีงบประมาณที่ผ่านมาก็ได้ประเมินคำรับรองในตัวชี้วัดที่ 18 กระบวนงานที่ีมีคุณค่าอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กานต์ได้รับมอบหมายการบ้านให้มาวิเคราะห์ OFI ในส่วนของ QA ยังไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปขอคำแนะนำในการเริ่มต้นสำหรับการวิเคราะห์ OFI ของกระบวนงานหน่อยนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
ถึงน้องกานต์.....ผมเข้าใจว่าเราอาจจะมีความเข้าใจอะไรบางอย่างที่ยังไม่เคลียกันนัก อาจเป้นได้ว่าหน่วยงานมหาวิทยาลัยกับส่วนราชการระดับกรมอย่างผมไม่เหมือนกันในบางประเด็นนะ...แต่ก็เอาเถอะนะ...การประเมินตนเองในรอบต้นปีโดยใช้เครื่องมือประเมินตามกรอบPMQA ปี2552เป็นต้นมาใช้เครื่องมือที่เรียกว่าประเมินค่าFL ซึ่งในเเต่ละหมวดมีข้อคำถามจำนวนข้อไม่เท่ากันไปดูในรายละเอียดนะขอรับ....การตอบประเมินค่าFL ตอบได้ 2 ลักษณะคือYES กับ NO YES หมายถึงองค์กรเรามีเราทำเราปฎิบัติเเล้ว มีหลักฐานประกอบเชิงประจักษ์ชัดเจน กรณีข้อไหนองค์กรไม่มี หรือไม่ชัดเจน ควรตอบไปเลยว่า NO หากเราตอบNO ข้อนี้จะเป็นโอกาสในการปรับปรุงองค์การของเราที่เรียกว่า OFI ดังนั้นเมื่อเห็นจุดที่ต้องดำเนินการก็จะหากิจกรรม/โครงการมารองรับเป็นแผนปรับปรุงองค์การครั้งต่อไป เช่น หมวด 6 พยว่าหน่วยงานไม่มีคู่มือการปฎิบัติงานหรือมีเเต่ขาดมาตรฐานงาน กรณีนี้ต้องดำเนินการจัดทำคู่มือให้เป็นไปในทิศทางที่ ก.พ.ร.กำหนด...เอาละพิมพ์ไม่ค่อยเป็นเเค่นี้ก่อนนะ....
ขอบคุณขอรับที่เเวะมาเป็นกำลังใจกัน....
นี่เลยอาจารย์ ผมไปค้นภาพคู่แฝดมา ฮ่า ฮ่า
สวัสดีค่ะ
*** เป็นบันทึกที่เข้ามาแล้ว เพลิดเพลินและผ่อนคลายเหมือนที่เคยได้ชมภาพเขียนการ์ตุน
*** เป็นบันทึกที่มีศิลป์จริงๆ
*** ขอบคุณค่ะ
สวัสดีขอรับ...เรื่องนี้น่าสนใจนะ อรพรรณ พานทองกับวงแมคอินทอช...จำชื่อหนังบ่ได้ขอรับ(เรื่องเธอกับฉันอะไรทำนองนี้เเหละ)
แหม เพื่อนอ้อยเล็ก..ไปหาภาพมาคู่กันเลย...เเต่ดูดีๆเพื่อนหล่อกว่ามั้ง(ฮา)
โห..คุณครูแป๋ม จริงเหรอขอรับ..ผมยิ่งบ้ายออยู่....
ว่าเพื่อนอ้อยเล็กเด็ดเเล้วนะสำเริงนายนี่เด็ดกว่าอีก ไปเอาภาพมาจากไหน...เเต่ดูดีๆผมหล่อกว่าเล็กน้อย(ล้อเล่นนะ)
อาจารย์กิติยาขอรับ....ขอบคุณนะคิดถึงอยู่พอดีเลย....
รวมอัลบั้ม..แฝด Ampon.VS.Kukiat มีที่นี่ที่เดียวฮาๆ
สวัสดีครับ k-kukiat
- เข้ามาบันทึกนี้ รู้สึกตัวว่าเรานี้แก่จริงๆ
- มิตร-เพชรา คู่ขวัญที่ได้ชมเป็นประจำ
- คนบ้านนอกไม่มีโอกาสได้ดูโรงใหญ่ๆ
- ต้องหนังกลางแปลงขายยา มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก
สวัสดีครับ คุณ K - kukait
นับถือจริงๆ ที่เอาหนังสือเก่ามาเล่าใหม่ครับ เรื่องการแต่งภาพวาดภาพเห็นแล้วชื่นชมครับ
อยากเป็นลูกศิษย์ครับ
ขอบคุณขอรับท่าน....หาหนังเด็กๆมาฝากหลานขอรับ
ท่านขอรับขอบคุณขอรับ
ประเภทของภาพยนตร์ไทย 1. ต่อสู้ หนังต่อสู้หรือหนังแอคชั่น เป็นหนังแนวที่โดดเด่นที่สุดแนวหนึ่งในบรรดาภาพยนตร์ไทย เมื่อมิตร ชัยบัญชาและสมบัติ เมทะนี ซึ่งได้แสดงเป็นพระเอกในหนังแนวนี้อยู่หลายร้อยเรื่อง ในปัจจุบัน มีนักแสดงหนังแอคชั่นอย่าง จา พนม โด่งดังถึงขนาดถูกยกเทียบชั้นกับดาราซูเปอร์สตาร์จอมบู๊ระดับโลกอย่าง “บรู๊ซ ลี” และ “เฉินหลง” จากบทบาทความความสำเร็จใน “องค์บาก” มาสู่ “ต้มยำกุ้ง” การแสดงของจา พนม ไม่ใช้สลิง และไม่ใช้ตัวแสดงแทนภาพยนตร์ของจา พนมได้รับเสียงตอบรับจากตลาดต่างประเทศ ในทำนองเดียวกับ เกิดมาลุย ภาพยนตร์แอคชั่นที่ได้ พันนา ฤทธิไกร กำกับการแสดง โดยการต่อสู้มีลักษณะมาจากกังฟู ซึ่งเป็นที่รู้จักในกระแสโลก และได้เพิ่มเอกลักษณ์ของความเป็นไทย อย่างมวยไทย ยังมีหนังต่อสู้ที่สอดแทรกความตลกขบขันอย่างภาพยนตร์เรื่อง มือปืนโลก/พระ/จัน ในปี พ.ศ. 2544 กำกับโดย ยุทธเลิศ สิปปภาค
ว้าวววววว ท่านอาจารย์พี่ กู้เกียรติ
ละม้ายคล้ายพี่หนุ่ย อำพล ขนาดเลยค่ะ อิอิ
ขอบคุณการย้อนยุคหนังไทย คร๊าบบบบบบ
ขอบคุณมาก....ว่างๆจะพาไปทำบุญนะเพื่อน
สวัสดีจ๊ะ น้องสาว....พี่อาจารย์ไม่เหมือนหรือละม้ายหนุ่ยอำพลหรอก...แต่ดูจะหล่อกว่าฮิ ฮิ ฮิ ฮิ
อำพลน่ะชิดซ้ายไปเลย อิอิ
ผมเชื่ออย่างนั้นขอรับ(ฮี่ ฮี่ ฮี่)
สวัสดีค่ะ! k-kukiat ขอบคุณนะคะที่เขียนตอบกลับมาทำให้กานต์เริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าการเข้ามาเป็นคณะทำงาน PMQA ของกานต์ในครั้งนี้ (มาแทนพี่ที่เค้าลาออกไปแล้ว) กานต์ไม่ได้อยู่ในช่วงที่คณะทำงานเค้าประเมิน FL กัน กานต์มาข้ามขั้นไปวิเคราะห์ OFI เลย จึงทำให้ตัวเองริ่มต้นไม่ถูก ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวกานต์จะกลับไปหาทฤษฎีขั้นตอนการทำใหม่เพื่อจะได้เห็นทางสว่างบ้่าง ขอบคุณนะคะ
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้พอดีไปถ่ายหนัง ฮอลิวูดมาค่ะ...อิอิ..
ตนเหล็ก..
ขอบคุณขอรับมีประเด็นใดเเลกเปลี่ยนกันได้ขอรับ
โอโห เชื่อเลย...สุดยอดมากขอรับครูบันเทิง
ไม่เห็นมีภาพเลยเพื่อนอ้อย
..รูปมาแล้วจ้าเพื่อนอาจารย์...ใครเข้มกว่ากันดูกันหน่อยไทยหรือเทศฮี่ๆ
..เห็นหรือยัง..
ขอบคุณอีกครั้งจ๊ะ