การดำเนินการจัดทำโครงสร้างรายวิชา
-ครูผู้สอนแต่ละระดับชั้นแต่ละคนมีหน้าที่ต้องจัดทำโครงสร้างรายวิชา โดยการร่วมมือกันเป็นทีม วางแผนและออกแบบการเรียนการสอน การจัดทำโครงสร้างรายวิชาก็เพื่อให้ทราบว่ารายวิชานั้น ประกอบด้วยหน่วยการเรียนรู้เท่าใด เรื่องอะไรบ้าง โดยแต่ละหน่วยแต่ละเรื่องต้องจัดทำเพื่อให้บรรลุตัวชี้วัด ใช้เวลาในการเรียนเท่าใด สัดส่วนการเก็บคะแนนของรายวิชานั้นเป็นอย่างไร...
โครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ระดับชั้นประถมศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ศ11101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ศ12101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ศ13101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ศ14101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ศ15101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ศ16101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ศ21101 ศิลปะ เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ศ21102 ศิลปะ เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ศ22101 ศิลปะ เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ศ22102 ศิลปะ เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ศ23101 ศิลปะ เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ศ23102 ศิลปะ เวลา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 1 หน่วยกิต
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ศ31101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศ31402 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ศ32101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศ32102 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ศ33101 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 0.5 หน่วยกิต
ศ33102 ศิลปะ เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์/ภาค จำนวน 0.5 หน่วยกิต
หมายเหตุ..ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 ยังใช้เรียนเป็นรายปีโดยไม่กำหนดปีที่เรียนปีละ 40 ชั่วโมงต่อสาระแต่ผลการเรียนตัดสินเป็นรายภาค ภาคเรียนละ 20 ชั่วโมง ผู้เรียนจบ 3 ปี จะได้เวลาเรียน 120 ชั่วโมง ครบตามหลักสูตรกำหนด โดยเรียงรหัสตามสาระคือ
ศ ๓๐๑๐๑ หมายถึงสาระที่ 1 คือทัศนศิลป์ 40 ชั่วโมง
ศ ๓๐๑๐๒ หมายถึงสาระที่ 2 คือดนตรี 40 ชั่วโมง
ศ ๓๐๑๐๓ หมายถึงสาระที่ 3 คือนาฎศิลป์ 40 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ คงเป็นหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ใช่ไหมครับ จะได้เก็บไปใช้ปีการศึกษา2553
พรุ่งนี้ พี่จะเข้าอบรมหลักสูตร 2551 แล้ว
สวัสดีค่ะ คุณครู อ้อยเล็ก
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์...
ชื่นชมคุณครู อ้อยเล็ก ที่สนใจเห็นคุณค่าของการเรียนรู้ศิลปะต่างๆ ทุกแขนง.. พร้อมส่งเสริมให้มีการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน.. ดีใจค่ะ..
..พี่ตุ๊กตาไปวันนี้..พรุ่งนี้ ครูNu11 กับ ณัชพัชร์ จะไปร้านเบิกม่าน..ฝากความคิดถึงถึงพี่อาจารย์วิรัตน์ด้วยนะคะ..ฝากทุกคนเลยที่ไปเจอพี่ดร.วิรัตน์น่ะค่ะ
ชื่นชมการถอดความรู้เพื่อการพัฒนาการเรียนการสอนขอรับเป็นการจัดการความรู้อย่างหนึ่ง โดยนำความรู้ฝังลึกในประสบการณ์เพื่อนอ้อยเล็กออกมาให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วย...
การจัดการความรู้ คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด โดยที่ความรู้มี 2 ประเภท คือ1. ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาติญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ หรือการคิดเชิงวิเคราะห์ บางครั้ง จึงเรียกว่าเป็นความรู้แบบนามธรรม
2. ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีต่าง ๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่าง ๆ และบางครั้งเรียกว่าเป็นความรู้แบบรูปธรรม
คิดถึงคุณอ้อยเล็กค่ะ ช่วงนี้งานเข้าเยอะมากๆเลย เช่นการเตรียมกิจกรรมวันคริสต์มาส เลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ต้องเตรียมกิจกรรมร่วมวางแผนงาน ตอนนี้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ขอความร่วมมือเพื่อนร่วมงานในฝ่ายวิชาการค่ะ คิดถึงเสมอค่ะ อากาศหนาวเย็นรักษาสุขภาพด้วยค่ะ ห่มผ้าหนาๆนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์จ้า...คิดถึงคุณvijเหมือนกัน หายไปไหนช่วยบอกหน่อยจ้า......ฮ่าๆๆๆ
สวัสดีครับ พี่อ้อยเล็ก
สวัสดีครับครู อ้อยเล็ก มาเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางสร้างเยาวชนเข้มแข็ง
แต่หลักสูตรทางวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของชาติ อยู่ในกลุ่มสาระไดครับ
...หลักสูตรทางวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของชาติ อยู่ในกลุ่มสาระใดครับ...
เรียนท่านวอญ่า
ในหลักสูตรกำหนดให้สอดแทรกความเป็นท้องถิ่นในทุกเนื้อหารายวิชา และได้แยกวิชาประวัติศาตร์ (ซึ่งเป็นพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยในเรื่องนี้มาก..ท่านทรงให้เน้นให้เด็กได้เรียนเนื้อหาวิชานี้อย่างเข้มข้น) ออกมาเป็นรายวิชาแต่ให้อยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม โดยให้ใช้ชั่วโมงของสาระเพิ่มเติมเป็นจำนวน 40 ชั่วโมงต่อปี ถ้าเป็นรายภาคก็ 20 ชั่วโมงต่อ 1 ภาคเรียน..และข่าวล่าสุดได้รับฟังมาว่ามีหนังสือสั่งการให้ยกระดับเป็นรายวิชาพื้นฐาน..คือต้องจัดให้มีให้เรียนนั่นเองค่ะ..
ขอบคุณครับครูอ้อยเล็ก เป็นความรู้ทีดีมาก จะได้คุยกันไปในทิศทางเดียวกับคุณครูเวลาประกรรมการ สภาวัฒนธรรมจังหวัดครับ
ด้วยความขอบคุณอีกครั้งครับ
พี่อ้อย...
รับเฌวาไปเรียนศิลปะด้วยคนนะ
เป็นกำลังใจให้เเล้วกัน...เพราะเพื่อนไม่ถนัดนักนะ.......
การจัดทำโครงสร้างรายวิชา
เมื่อได้รายวิชาลงโครงสร้างของหลักสูตรสถานศึกษาเรียบร้อยแล้ว ครูผู้สอนจัดทำโครงสร้างรายวิชาโดยดำเนินการ ดังนี้
1. กำหนดชื่อหน่วยการเรียนรู้ โดยพิจารณาคำ/ข้อความสำคัญ (Key words) หรือเนื้อหา
ในตัวชี้วัดของรายวิชามาจัดกลุ่ม โดยนำตัวชี้วัดที่มีเนื้อหาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือเป็นเรื่องเดียวกัน มารวมกันจัดเป็น 1 หน่วยการเรียนรู้ ซึ่งใน 1 รายวิชาจะมีหลายหน่วยฯ และแต่ละหน่วยฯ จะมีตัวชี้วัดซ้ำหรือไม่ซ้ำกันก็ได้ อยู่ในดุลพินิจของผู้สอน แต่เวลาที่ใช้จัดการเรียนรู้รวมทั้งหมด ต้อง ไม่เกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนดในโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา แล้วตั้งชื่อหน่วยให้น่าสนใจสำหรับผู้เรียน
2. ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดที่นำมาจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้แต่ละหน่วย
การเรียนรู้ โดยเขียนรหัสมาตรฐาน ระดับชั้น และตัวชี้วัดที่นำมาจัดทำหน่วยฯ ทั้งหมด
3. กำหนดสาระสำคัญ สำหรับแต่ละหน่วยการเรียนรู้ เป็นข้อความที่ระบุว่าผู้เรียนรู้อะไร
มีทักษะอะไร (อาจจะมีคุณลักษณะอย่างไรด้วย) และหน่วยนี้มีคุณค่าต่อผู้เรียนอย่างไรในระยะสั้นและระยะยาวโดยร้อยเรียงข้อมูลของทุกตัวชี้วัด และเขียนเป็น Concept ภาพรวมของหน่วยฯ ที่ต้องการให้เป็นองค์ความรู้ เป็นความเข้าใจที่ฝังติดตัวผู้เรียนไปเป็นเวลานาน และสามารถนำมาใช้ได้เมื่อต้องการ ซึ่งมีวิธีเขียน 4 แนวทาง ได้แก่
3.1 เขียนลักษณะหลักเกณฑ์หรือหลักการ เช่น “พืชตอบสนองต่อแสง เสียง และการสัมผัส ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมภายนอก” “การบวก คือ การนำจำนวนตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไปมารวมกัน จำนวนที่ได้จากการรวมจำนวนต่างๆ เข้าด้วยกัน เรียกว่า ผลรวม หรือ ผลบวก และใช้เครื่องหมาย + เป็นสัญลักษณ์แสดงการบวก”
3.2 เขียนลักษณะความคิดรวบยอด เช่น “พืชและสัตว์ต้องการอาหาร น้ำและอากาศ เพื่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโต” หรือเขียนแบบความเข้าใจที่คงทน เช่น “ความเข้าใจจำนวนนับ สัญลักษณ์ที่ใช้ในสมการ การบวกลบคูณหารจำนวนนับ และความเท่ากัน ทำให้สามารถแก้ปัญหาภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้” “การดำรงชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงโดยประยุกต์ใช้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ชีวิตมีความสุข”
3.3 เขียนลักษณะกระบวนการ (กรณีที่ภาพรวมของหน่วยฯ เน้นกระบวนการ) เช่น หน่วยฯ นี้เน้นกระบวนการแก้ปัญหา เขียนสาระสำคัญได้ คือ “การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาอย่างกว้างขวางหลายมิติ กำหนดทางเลือกในการแก้สาเหตุของปัญหาอย่างหลากหลาย เลือกทางเลือก ในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม ดำเนินการแก้ปัญหาตามทางเลือกที่กำหนด ประเมินและปรับปรุง การแก้ปัญหาอย่างรอบคอบเป็นระยะ ๆ ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
3.4 เขียนลักษณะความสัมพันธ์ เช่น “วิธีการดำรงชีวิตของมนุษย์ มีผลกระทบต่อระบบนิเวศในสายน้ำ”
4. กำหนดระยะเวลา (จำนวนชั่วโมง) สำหรับแต่ละหน่วยการเรียนรู้ รวมทุกหน่วยฯ แล้วมีจำนวนชั่วโมงเท่ากับจำนวนชั่วโมงของรายวิชา
5. กำหนดน้ำหนักคะแนนของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ตามความสำคัญของแต่ละหน่วยฯ
เพื่อการกำหนดคะแนนสำหรับการประเมินผลการเรียนรู้ของแต่ละหน่วยฯ ให้เหมาะสมตามความ สำคัญของแต่ละหน่วยฯ