คำประสาน
ความหมายของคำประสาน
ปรีชา (2522 ) กล่าวว่า คำประสาน ( Complex word ) คือ คำที่ประกอบด้วยหน่วยคำ 2 หน่วยคำขึ้นไป และหน่วยใดหน่วยหนึ่ง หรือทุกหน่วยจะต้องเป็นหน่วยคำไม่อิสระ ( Bound morpheme )
อุดม ( 2542 ) อธิบายว่า คำประสาน ได้แก่การนำหน่วยคำพันธะ( หน่วยคำไม่อิสระ ) รวมกับหน่วยคำพันธะ หรือหน่วยคำพันธะกับคำมูลมารวมกันเกิดคำใหม่ซึ่งสามารถเกิดโดดๆ เป็นอิสระไม่ต้องเกาะหน่วยคำอื่นได้
ประสิทธิ์ ( 2516 ) เรียกคำที่มีความหมายดังที่ ปรีชา และอุดม อธิบายไว้ ว่า “คำปรุง” โดยให้ความหมายว่า เป็นคำที่เกิดจากหน่วยคำไม่อิสระ( Bound morpheme ) ประสมกับหน่วยคำอิสระ หรือประสมกับหน่วยคำไม่อิสระด้วยกัน
ชนิดของคำประสาน
ปรีชา (2522 ) แบ่งคำประสานออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. คำประสานแท้ คือ การนำหน่วยคำไม่อิสระ 2 หน่วยคำมาประกอบกัน เช่น ชดช้อย ร่าเริง
2. คำประสานเทียม คือ การนำเอาหน่วยคำอิสระกับหน่วยคำไม่อิสระมาประกอบกัน เช่น
/ นัก- / นักรบ นักร้อง
/ ขี้ -/ ขี้ขลาด ขี้เมา ขี้ยา
อุดม ( 2542 ) แบ่งคำประสานออกเป็น 3 ชนิด คือ คำประสานแท้ คำประสานเทียม และ คำประสานเสริม
คำประสานเสริม
ได้แก่ คำประสานแท้ที่มีหน่วยคำพันธะเพิ่มเป็นอุปสรรคปัจจัยเข้าไป เช่น
กระชดกระช้อย มาจาก
กระ (ซึ่งเป็นหน่วยคำพันธะ) +
ชดช้อย ( ซึ่งเป็นคำประสานแท้)
พร้อมด้วยการซ้ำ กระ- หน้า ชด และ ช้อย
กระเง้ากระงอด มาจาก มาจาก
กระ (ซึ่งเป็นหน่วยคำพันธะ) +
เง้างอด ( ซึ่งเป็นคำประสานแท้ )
พร้อมด้วยการซ้ำ กระ- หน้า เง้า และ งอด
^^
จบแล้วค่ะ เรื่องการสร้างคำในภาษาไทย
อ้างอิงค่ะ
เอกสารอ้างอิง
กำชัย ทองหล่อ. 2545 . หลักภาษาไทย . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ อมรการพิมพ์ .
ธวัช ปุณโณทก . 2545 . วิวัฒนาการภาษาไทย . พิมพ์ครั้งที่ 2 . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช.
บรรจบ พันธุเมธา . 2544 . ลักษณะภาษาไทย .พิมพ์ครั้งที่ 13 . กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยรามคำแหง .
ประสิทธิ์ กาพย์กลอน . 2516 . การศึกษาภาษาไทยตามแนวภาษาศาสตร์ .กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช . อ้างถึง Hass , Mary R. 1951 .OUTLINE OF THAI GRAMMAR,Department
of Oriental Languages. Berkeley
ปรีชา ทิชินพงศ์ .2522 . ลักษณะภาษาไทย (ไทย 104 ) . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ประเสริฐการพิมพ์ .
ลินดา วิชาดากุล . 2538 . การสร้างคำในภาษาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ . วิทยานิพนธ์ปริญญาโทมหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. 2531 . หลักภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ 8 . กรุงเทพมหานคร :โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช .
อนงค์ เอียงอุบล. 2525 . การศึกษาเชิงวิเคราะห์คำประสมในภาษาไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อนันต์ อ่วมศาสตร์ . ม.ป.ป. ลักษณะภาษาไทย. ม.ป.ท.
อุดม วโรตม์สิกขดิตถ์ .2542 . ไวยากรณ์ไทยในภาษาศาสตร์ . พิมพ์ครั้งที่ 2 . กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
อุปกิตศิลปสาร , พระยา . 2539 . หลักภาษาไทย . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช .
ผมสงสัยเกี่ยวกับคำต่างๆว่าจะแยกได้อย่างไรเมื่ออยู่ในประโยค เพราะดูเหมือนว่าทุกคำอาจแยกได้หรือแยกไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น "ซึ่งต่อมาก็รวมกันเสียได้" มันจะมีคำสั้นๆเพื่อเชื่อมระหว่างคำที่ไม่รูว่าควรจะแยกเดี่ยวๆหรือรวมกับคำข้างหน้าหรือข้างหลังหรือทั้งหมดดี เช่น เพื่อที่จะ จะได้ ก็หาไม่ ไม่กิน มิได้หรอก เป็นที่ ตรงที่ว่า ดอกหรือ เป็นต้นมา. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นี่เป็น๑คำใช่ไหมครับ รบกวนอาจารย์ช่วยตอบทีนะครับ (คำว่า"ที"ก็เป็นปัญหาว่า ตอบ-ที หรือ ตอบที) คำถามอาจดูไม่ได้"เรียบเรียงกัน" "สักเท่าไร"นะครับ ขออภัยและ"ขอขอบคุณ"ล่วงหน้าครับ (คำในเครื่องหมายอัญประกาศก็มีปัญเช่นกัน)