เศรษฐกิจพอเพียงจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจพอเพียง สรฤทธ จันสุข (2552 : 48-49) ได้สรุปความหมายว่า เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวพอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้เงื่อนไขพื้นฐานความรู้คู่คุณธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสให้ความหมายเศรษฐกิจพอพียงไว้ว่ามีความหมายกว้างขวาง คือคำว่าพอก็เพียงพอ เพียงนี้ก็พอ ทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก อาจมีมากมีของหรูหราก็ได้ แต่ต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็พอเพียงความคิดก็เหมือนกัน ความพอเพียงในความคิดเป็นการแสดงความคิดของตัวเอง ความเห็นของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนพูดอื่นบ้าง และมาพิจารณาว่าที่เขาพูดกับที่เราพูดอันไหนพอเพียง อันไหนเข้าเรื่อง ถ้าไม่เข้าเรื่องก็แก้ไข ถ้าพูดกันโดยที่ไม่รู้เรื่องกันก็กลายเป็นการทะเลาะกัน เป็นการดำรงชีวิตอยู่อย่างพอดีแล้วขยับขยายให้มีมากขึ้นไปอีกก็ได้โดยถูกต้องชอบธรรมเป็นลำดับ ตามความจำเป็นและความสำคัญของมนุษย์ ความเสื่อมโทรมพร้อมทั้งการหมดไปของสภาพแวดล้อมมากกว่าการผลิตสิ่งของมีความเป็นตัวของตัวเองในลักษณะกลุ่มที่สามารถจัดการกับหน่วยการผลิตที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถคิดสร้างและริเริ่มได้เองจากชุมชนเป็นฐาน มีการควบคุมการขยายตัวของกิเลสให้พอเหมาะพอดีเป็นสำคัญ เมื่อการผลิตมีปริมาณที่มากกว่าความต้องการ จึงนำความมีอยู่ที่เหลือใช้ไปแจกจ่ายให้ผู้ที่ขาดแคลนหรือด้อยกว่าเป็นการเอื้ออารีต่อชุมชนหรือสะสมสำหรับอนาคตที่มีภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่เดือดร้อน โดยสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของตัวเองให้มีความพอกินพอใช้ไม่มุ่งหวังสร้างความเจริญยกเศรษฐกิจให้รวดเร็วประการเดียว ผู้มีความเพียงพอในการพึ่งตนเองสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าและฐานะทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นไปได้ตามลำดับ ลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นความ พอเพียงสำหรับทุกคน ทุกครอบครัว แบบไม่ทอดทิ้งกัน ด้วยจิตใจพอเพียง ทำให้รักและเอื้ออาทรคนอื่นได้ เพราะคนที่มีจิตใจไม่รู้จักพอย่อมรักคนอื่นไม่เป็นและทำลายมาก มีสิ่งแวดล้อมพอเพียง พร้อมกับอนุรักษ์และเพิ่มพูน ให้นำมาใช้ยังชีพและทำมาหากินได้ทั้งอาหาร สิ่งแวดล้อม และทุน มีลักษณะเป็นชุมชนเข้มแข็งด้วยการรวมตัวกันให้สามารถแก้ปัญหาสังคม ปัญหาความยากจน ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้ ตามสภาพของปัญหา เรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ และปรับตัวให้เข้ากันได้อย่างต่อเนื่องจากวัฒนธรรมพอเพียง วิถีชีวิต กลุ่มชนที่สัมพันธ์อยู่กับสิ่งแวดล้อมที่หลากหลากด้วยพื้นฐานของสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม มีอาชีพและดำรงชีวิตให้มีความมั่นคงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงสภาวะปัญหาที่ทำให้เกิดสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี เมื่อความพอเพียงในลักษณะดังกล่าวสมบูรณ์เชื่อมโยงในด้านกาย ใจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ให้เกิดความสมดุลและพอเพียง
ดร.สรฤทธ จันสุข
อ้างอิง: สรฤทธ จันสุข. การศึกษาตัวชี้วัดการพัฒนาชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง. วิทยานิพนธ์ ปร.ด. สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2552.
นำสู่
ความสมดุล มั่นคง และยั่งยืน
ชีวิติ เศรษฐกิจ และสังคม
ถ้าคนทั้งโลกเป็นเช่นนี้ โลกคงไม่เป็นเช่นปัจจุบัน
ถ้าคนที่อยู่ในโลกนี้ ไม่ไปหลง อยู่นำ วัตถุ ที่ทันสมัย ไม่หลง ใน ชื่อเสียง ที่อยากจะมีหน้ามีตา อยากจะให้คนทั้งหลายยกย่องสรรเฉิณ เป็นต้น. ก็จัดว่าเป็น การใช้ชีวิต ที่มีเศรษฐกิจพอเพียงไค้เเล้ว
อะไรม่รู้