"ทักษิณ" หว่านงบรากหญ้า 4 หมื่นล. เครื่องร้อนสั่งล้มประมูล "อีออกชั่น"


อีออกชั่น
       "ทักษิณ" เครื่องร้อน สั่งยกเลิกการประมูลแบบอีออกชั่น เร่งหว่านงบฯ รากหญ้า ผู้ว่าฯ ซีอีโอ เอสเอ็มแอล อีก 4 หมื่นล้าน เอาใจคนกรุงเปิดประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย ปูทางรับเลือกตั้งรอบใหม่ เตรียมช่วยเหลือมนุษย์เงินเดือน
       นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ           ใน 14 ประเด็นหลักที่ต้องเร่งดำเนินการ เช่น ภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งพบว่า มีลักษณะปัญหาคล้ายกับตอนที่ท่าน เข้ามารับตำแหน่งครั้งแรก ในปี 2544 ที่ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ ไม่มีเงินเพียงพอต่อ   การใช้จ่าย แต่ในปี 2549 มีปัญหาความเชื่อมั่นลดลง ประชาชนมีเงินออมแต่ขาดความเชื่อมั่น จึงชะลอการใช้จ่าย เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาจึงต้องมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก กระจายไปสู่เมือง แล้วจึงขยายไปยังเศรษฐกิจต่างประเทศ โฆษกฯ อ้างคำพูดนายกรัฐมนตรี
       ด้านนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงว่า ปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้านั้นเกิดจากระบบการประมูลแบบอีออกชั่น   ดังนั้น จากนี้ไปจะมีการผ่อนปรนให้กลับไปใช้วิธีการประมูลแบบปกติ ในโครงการที่มีวงเงินตั้งแต่ 2-5 ล้านบาท โดยอาจจะขยายเวลาผ่อนปรนการประมูลแบบเดิมแทนระบบอีออกชั่นออกไปจนถึงปีงบประมาณ 2550
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ กล่าวว่า การเร่งรัดบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายในการลงทุนช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2549 โดยเฉพาะโครงการของกระทรวงคมนาคม สาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาธิการ ที่ยังมีงบประมาณลงทุนเหลือการเบิกจ่ายเป็นจำนวนมาก ให้เร่งบริหารจัดการเสนอโครงการต่อกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายใน 15 มิถุนายน 2549   "จะต้องเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯ กลางที่วางไว้สำหรับการใช้จ่ายในโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัด หรืองบฯ ผู้ว่าฯ ซีอีโอ ที่เหลือยังไม่ได้เบิกจ่าย  อีกประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านที่ยังมียอดเหลือเบิกจ่ายอีกจำนวน   1 หมื่นกว่าล้านบาทให้เป็นไปตามเป้าหมายภายในช่วงเดือนตุลาคม 2549 ซึ่งเป็นช่วงสิ้นปีงบประมาณ"  เลขาฯสภาพัฒน์กล่าว
       นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม กล่าวว่า ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมในการนำโครงการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 เส้นทางที่มีความพร้อมนำมาพิจารณาเดินหน้าโครงการต่อไปได้
       เนื่องจากยังมีนักลงทุนสนใจเข้ามาร่วมลงทุน และเพื่อแก้ปัญหาจราจร รวมทั้งลดต้นทุนค่าขนส่งในช่วง     ราคาน้ำมันแพง จึงให้ดึงโครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง เส้นทางเชื่อมต่อจากแอร์พอร์ตลิงก์-   ดอนเมือง-เชียงราก    รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เส้นทางรอบเมืองจนถึงบางแค    และรถไฟฟ้าสายสีม่วง เส้นทาง    บางซื่อ-บางใหญ่ ออกจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐหรือเมกะโปรเจ็กต์ ซึ่งเป็นโครงการการสร้างพันธมิตรเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือโมเดิร์นไนเซชั่นไทยแลนด์ สำหรับรายละเอียดการประมูลต่าง ๆ ยังเป็นแบบเดิม คือ เปิดกว้างการลงทุนเพื่อให้นักลงทุนเสนอเงื่อนไขการร่วมลงทุน โดยวันที่ 25 พ.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานประชุมเพื่อเร่งรัดติดตามเรื่องดังกล่าวที่สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งให้เร่งรัดระบบขนส่งมวลชนในส่วนที่ทำไปได้ก่อน ได้แก่รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีแดง สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน เพราะถือว่ามีความชัดเจนเรื่องเส้นทางแล้ว     อย่างไรก็ตาม ครม. ให้ย้ำว่ารถไฟฟ้าที่จะดำเนินการไปก่อนจะต้องสามารถปรับให้เข้ากับระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบที่จะก่อสร้างตามมาได้ด้วย   ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2549 รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณสำหรับระบบขนส่งมวลชน      ไว้ทั้งสิ้น 11,844.96 ล้าน แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นงบประมาณที่ได้รับจัดสรรแล้ว สำหรับโครงการที่อยู่ในโมเดิร์นไนเซชั่นไทยแลนด์ 6,546.86 ล้านและมีงบประมาณที่ยังไม่ได้รับจัดสรรอีก 5,298.10 ล้าน
       รายงานข่าวแจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดในที่ประชุม ครม.ว่า จะต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ ภายใน 3 เดือน หากดึงตัวเลขเศรษฐกิจให้ขึ้นมาไม่ได้ ทุกอย่างจะดิ่งลง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะต้องช่วยชนชั้นกลางและมนุษย์เงินเดือนโดยอาจพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่ม  
นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ต.ท. ทักษิณได้สั่งให้รัฐมนตรีทุกคนเตรียมพร้อมในการประชุมเร่งรัดเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และหาช่องให้ใช้งบประมาณปี 2549 โดยไม่ให้ขัดต่อกฏหมายเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะงักงัน

ประชาชาติธุรกิจ  25  พ.ค.  49
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 30945เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2006 09:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท