เทคนิคการใช้ผังกราฟิก


เทคนิคการใช้ผังกราฟิก (graphic organizer)

เทคนิคการใช้ผังกราฟิก เป็นเทคนิคที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากการจัดโครงสร้างความคิดล่วงหน้าตามทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความหมาย (meaningful learning theory) ของเดวิด อูซูเบล (David P. Ausubel) นักจิตวิทยาอเมริกัน ที่เสนอการจัดโครงสร้างความคิด หรือโครงสร้างภาพรวมล่วงหน้า (presenting first) เพื่อใช้สำหรับอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาจากตำรา หลังจากนั้นมีแผนภาพแบบต่างๆเกิดขึ้นมากกว่า 20 ชนิด รวมทั้งโครงสร้างภาพรวมที่นำมาใช้ทำความเข้าใจบทความที่มีความยาวมากๆ โดยนำเสนอข้อมูลในรูปไดอะแกรม และรูปภาพต่างๆ

ทฤษฎีของอูซูเบลเป็นทฤษฎีที่หาหลักการอธิบายการเรียนรู้ที่เน้นการเชื่อมโยงความรู้ที่ปรากฏในหนังสือที่โรงเรียนใช้กับความรู้เดิมที่อยู่ในสมองของผู้เรียนในโครงสร้างสติปัญญา(cognitive structure) หรือการสอนโดยวิธีการให้ข้อมูลข่าวสาร เขาเรียกทฤษฏีนี้ว่า “ทฤษฏีการเรียนรู้อย่างมีความหมาย( meaningful verbal learning)” โดยนิยามว่า “เป็นการเรียนที่ผู้เรียนได้รับมาจากการที่ผู้สอน อธิบายสิ่งที่จะต้องเรียนรู้ให้ทราบและผู้เรียนรับฟังด้วยความเข้าใจ โดยผู้เรียนเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งที่เรียนรู้กับโครงสร้างภาพรวมที่ได้เก็บไว้ในความทรงจำ และจะสามารถนำมาใช้ในอนาคต

อูซูเบลมองว่าในสมองของมนุษย์มีการจัดความรู้ต่างๆ ที่ได้เรียนรู้อย่างมีระบบ  “โครงสร้างทางปัญญา” ซึ่งมีการจัดลำดับความสัมพันธ์เชื่อมโยงจากความคิดรวบยอด (concept) ที่กว้างและครอบคลุมลงมาจนถึงความคิดรวบยอดย่อยๆ ที่มีความเฉพาะเจาะจง ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงควรจะต้องเป็นการเรียนรู้อย่างมีความหมายที่ผู้เรียนสามารถนำการเรียนรู้ใหม่เข้าไปเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือความคิดรวบยอดที่มีอยู่แล้ว โดยความรู้ใหม่ที่ได้เรียนรู้อย่างมีความหมายจะถูกเก็บไว้ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง อันเป็นผลจากการดูดซึมกับความรู้เดิมที่มีอยู่และจะช่วยขยายความรู้เดิมหรือมโนทัศน์เดิมที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ถ้าในการเรียนรู้สิ่งใหม่นั้นผู้เรียนมีพื้นฐานที่เชื่อมโยงเข้ากับความรู้เดิมได้ ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้สิ่งใหม่นั้นมีความหมาย ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ได้จากการรับข้อมูลข่าวสารหรือเกิดจากการค้นพบด้วยตนเอง และวิธีเรียนนั้นอาจจะเป็นการเรียนรู้อย่างเข้าใจและมีความหมาย หรือการเรียนรู้แบบท่องจำโดยไม่ใช้ความคิด ซึ่ง อูซูเบล แบ่งการเรียนรู้เป็น ๔ ประเภทคือ การเรียนรู้ด้วยการรับอย่างมีความหมาย (meaning reception learning), การเรียนรู้ด้วยการท่องจำโดยไม่ใช้ความคิด (rote reception learning), การเรียนรู้ด้วยการค้นพบอย่างมีความหมาย (meaningful discovery learning) และการเรียนรู้ด้วยการค้นพบแบบท่องจำโดยไม่ใช้ความคิด (rote discovery learning)

อูซูเบลยังได้เสนอแนะเกี่ยวกับเทคนิค “การจัดการล่วงหน้า (advance organizer)” หรือก็คือการ “แนะนำรายวิชาก่อนเรียน” นั่นเอง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมายจากการสอนหรือบรรยายของครู โดยการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความรู้ที่มีมาก่อนกับข้อมูลใหม่ หรือความคิดรวบยอดใหม่ ที่จะต้องเรียน จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมายที่ไม่ต้องท่องจำ หลักการทั่วไปที่นำมาใช้ คือ

1.      การจัด เรียบเรียง ข้อมูลข่าวสารที่ต้องการให้เรียนรู้ ออกเป็นหมวด

2.     นำเสนอกรอบ หลักการกว้างๆ ก่อนที่จะให้เรียนรู้ในเรื่องใหม่

3.     แบ่งบทเรียนเป็นหัวข้อที่สำคัญ และบอกให้ทราบเกี่ยวกับหัวข้อสำคัญที่เป็นความคิดรวบยอดใหม่ที่จะต้องเรียน

อูซูเบลมองว่า การจัดการล่วงหน้านี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นวิธีการสร้างการเชื่อมช่องว่างระหว่างความรู้ที่ผู้เรียนได้รู้แล้ว (ความรู้เดิม) กับความรู้ใหม่ที่ได้รับ ผู้สอนควรจะใช้เทคนิค การจัดการล่วงหน้า ช่วยผู้เรียนในการเรียนรู้ทั้งประเภทการรับอย่างมีความหมายและการค้นพบอย่างมีความหมาย เนื่องด้วยทฤษฏีของเขาเน้นความสำคัญของการเรียนรู้อย่างมีความเข้าใจและมีความหมาย การเรียนรู้เกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนได้เรียนรวมหรือเชื่อมโยง (subsume) สิ่งที่เรียนรู้ใหม่หรือข้อมูลใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นความคิดรวบยอด(concept) หรือความรู้ที่ได้รับใหม่ในโครงสร้างสติปัญญากับความรู้เดิมที่อยู่ในสมองของผู้เรียนอยู่แล้ว ทฤษฎีของอูซูเบลบางครั้งจึงเรียกว่า “ทฤษฏีเชื่อมโยงความรู้ (subsumption theory)”

         ทฤษฏีของอูซูเบลถูกพัฒนาจนกลายเป็นสื่อทางการเรียนการสอนที่เรียกว่า “โครงสร้างภาพรวม (presenting first or structure overview)” ต่อมาได้รับความนิยมเรียกเป็น “ผังกราฟิก (graphic organizer)” หรือ GO ซึ่งได้รับความนิยมในการใช้เป็นเครื่องมือจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ โจเซฟ โนวัค (Joseph Donald Novak) ได้พัฒนารูปแบบจนกลายเป็น “ผังความคิดรวบยอด (concept mapping)” ซึ่งทำให้การเรียนการสอนด้วยผังกราฟิกได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งในแวดวงการศึกษาในปัจจุบันผังกราฟิกจึงคือ เครื่องมือช่วยแสดงความคิดให้ออกมาเป็นรูปธรรมในลักษณะของภาพ โดยสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของเนื้อหาหรือข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งผังกราฟิกมีหลายรูปแบบ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้หรือสร้างขึ้นเองได้ตามความสะดวกและเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาจากการสร้างผังกราฟิกขึ้นมาช่วยในการคิดในเรื่องต่างๆ เช่นโทนี บูซาน (Tony Buzan), โจเซฟ โนวัค (Joseph D. Novak) เป็นต้น

                ผังกราฟิก  เป็นเครื่องมือหรือแผนภาพที่ได้จากการนำข้อมูลดิบ หรือจากแหล่งต่างๆ มาทำการจัดกระทำข้อมูลและนำเสนอข้อมูล  โดยอาศัยทักษะการคิดต่างๆ ในการจัดกระทำข้อมูล  ได้แก่  การคิดวิเคราะห์  การสังเกต  เปรียบเทียบ  จัดเรียงลำดับ  จัดประเภท  และการใช้ตัวเลข  เพื่อให้เกิดความจำ และความเข้าใจในเนื้อหา

                ผังกราฟิกที่นิยมใช้โดยทั่วไปมีอยู่จำนวนมาก  ในที่นี้ได้เสนอผังกราฟิกโดยแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลดังนี้

1)   ผังกราฟิกที่มีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลที่เป็นมโนทัศน์ มีดังนี้

                        1.1)   ผังความคิด  เป็นผังกราฟิกที่แสดงความสัมพันธ์ของสาระ หรือความคิดต่างๆ ให้เห็นเป็นโครงสร้างในภาพรวม  โดยใช้ตำแหน่ง ระยะห่างจากจุดศูนย์กลาง สี เครื่องหมาย รูปทรงเรขาคณิต  และภาพแสดงความหมายและเชื่อมโยงของความคิดหรือสาระนั้นๆ

                           1.2)  ผังมโนทัศน์  เป็นผังกราฟิกที่แสดงมโนทัศน์หรือความคิดรวบยอดใหญ่ไว้ตรงกลางและแสดงความสัมพันธ์ระหว่างมโนทัศน์และมโนทัศน์ย่อยๆ เป็นลำดับขั้น ด้วยเส้นเชื่อมโยง

 

                2)   ผังกราฟิกที่มีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลที่เป็นการเปรียบเทียบ  มีดังนี้

                        2.1)  เวนน์ไดอะแกรม  เป็นผังกราฟิกที่เป็นผังวงกลม 2 วง หรือมากกว่า  ที่มีส่วนหนึ่งซ้อนกันอยู่  เป็นผังกราฟิกที่เหมาะสำหรับการนำเสนอสิ่ง 2 สิ่ง  ซึ่งมีความเหมือนและความแตกต่าง

                        2.2)  ทีชาร์ต  เป็นผังกราฟิกที่แสดงความแตกต่างของสิ่งที่ศึกษา

                         2.3)  แผนภูมิกง  เป็นแผนผังกราฟิกที่แสดงการเปรียบเทียบข้อมูล  โดยเป็นการแสดงสัดส่วนของข้อมูล

                        2.4)  แผนภูมิแท่ง  เป็นผังกราฟิกทีแสดงให้เห็นและเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆ ได้ชัดเจน  เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2 ตัว  โดยตัวแปรนั้นมีค่าไม่ต่อเนื่อง

                        2.5)  ตารางเปรียบเทียบ  เป็นผังกราฟิกที่เสนอข้อมูลในรูปแบบตารางช่วยให้เข้าใจได้ง่าย  เพราะจัดข้อมูลไว้เป็นหมวดหมู่  ซึ่งข้อมูลที่เสนอนั้นอาจเป็นการเปรียบเทียบความเหมือนกันหรือต่างกันของข้อมูล

                3)   ผังกราฟิกที่มีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผล  มีดังนี้

                        3.1)  ผังก้างปลา  เป็นผังกราฟิกที่นำเสนอข้อมูลให้เป็นถึงสามเหตุและผลของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

                         3.2)  ผังใยแมงมุม  เป็นผังกราฟิกที่ใช้แสดงมโนทัศน์แบบหนึ่ง  โดยแสดงความคิดรวบยอดใหญ่ไว้ตรงกลาง  และเส้นที่แยกออกจากความคิดรวบยอดใหญ่จะแสดงรายละเอียดของความคิดนั้น

                 4)   ผังกราฟิกที่มีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลที่เป็นการเรียงลำดับเหตุการณ์ หรือ ขั้นตอนมีดังนี้

                        4.1)  ผังเรียงลำดับ  ใช้แสดงลำดับขั้นตอนของสิ่งต่างๆ หรือกระบวนการต่างๆ

                         4.2)  ผังวัฎจักร  เป็นผังกราฟิกที่แสดงลำดับขั้นตอนที่ต่อเนื่องกันเป็นวงกลม หรือเป็นวัฎจักรที่ไม่แสดงจุดสิ้นสุดหรือจุดเริ่มต้นที่แน่นอน

                         4.3)  ผังเสนอปัญหาและการแก้ปัญหา  เป็นการแสดงให้เห็นถึงการแยกแยะปัญหาและพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาและผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลากหลาย

                 5)   ผังกราฟิกที่มีวัตถุประสงค์ของการนำเสนอข้อมูลที่เป็นการจัดหมวดหมู่และการแบ่งประเภท  มีดังนี้

                        5.1)  ผังการจำแนกประเภทของข้อมูล  เป็นผังกราฟิกที่ใช้แสดงการจัดข้อมูลต่างๆ  ที่ต้องการศึกษาออกเป็นหมวดหมู่  โดยจัดสิ่งที่มีสมบัติบางประการร่วมกันให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน  ในการจำแนกประเภทของสิ่งที่ศึกษานั้นต้องมีเกณฑ์ที่ใช้ในการจำแนกเสมอ

 

 

                                                                                               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 306304เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2009 10:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

อาจารย์คิดว่าแผนผังเหล่านี้จะมีกระบวนการจัดความคิดของเด็กอย่างไรบ้างครับ

คือเด็กบางคนอาจจะใช้แผนผังตัวนี้ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะ

อาจารย์พอที่จะมีภาพแผนผังตัวอย่างใหมครับ

ขอบคุณคับ

......M...............M..............S..S..S..S........U...............U.......................

......M.M.........M.M...........S......................U...............U.......................

......M....M...M....M...........S...S....S..S........U...............U......................

......M......M........M............................S.....U...............U......................

......M.................M..........................S.......U...............U.....................

......M.................M............S...S..S...S........U..U..U..U..U.......................

จากการศึกษาความรู้ด้านบนนะคะ ผังกราฟบางอย่างพอจะเข้าใจนะคะแต่บางอย่างถ้ามีภาพประกอบที่ทำให้เห็นได้ชัดเจนก็จะทำให้เข้าใจมากขึ้นและสามารถเลือกไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดีด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

ถ้าใช้เทคนิคนี้กับนักเรียนน่าจะส่งเสริมกระบวนการคิดได้มากค่ะ

หลังจากการศึกษาเทคนิควิธีสอนวิทยาศาสตร์ เรื่อง เทคนิคการใช้ฝังกราฟิก ทำให้เกิดความรู้เพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆ

อยากให้เสนอวิธีสอนแบบใหม่ที่สามารถนำมาใช้กับเด็กไทยสมัยใหม่ ให้เกิดการเรียนรู้โดยเฉพาะวิชาพื้นฐาน

ส่วนวิชาเพิ่มเติมนั้นเด็กสามารถเรียนรู้เพิ่มเองได้ ครูสามารถปรับฝังกราฟิกให้นำไปใช้กับนักเรียนที่มีความรู้

พื้นฐานต่างกัน ขอบคุณครับ

เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมากค่ะแต่อยากได้ใบงานที่เป็นตัวอย่างเกี่ยวกับการใช้เทคนิคการใช้ผังกราฟิกเพื่อความชัดเจนและเป็นตัวอย่างในการสร้างใบงานวิทยาศาสตร์ต่อไปค่ะ

เป็นเทคนิควิธีสอนที่ดีมากคะ    ช่วยให้ครูได้ตรวจสอบความเข้าใจในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถแสดงออกถึงวิธีคิดของนักเรียนแสดงความคิดให้ออกมาเป็นรูปธรรมในลักษณะของภาพ โดยสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของเนื้อหาหรือข้อมูลที่ได้รับ

ผังกราฟิกสามารถใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ได้จริงค่ะ เมื่อครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ อธิบายและสรุปผลการเรียนรู้ ครูสามารถประเมินผลการเรียนรู้ได้ด้วยค่ะ

ผังกราฟิก สามารถใช้อธิบายภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดเชื่อมโยงความรู้ได้จริงทำใหนักเรียนสามารถสรุปองค์ความรู้ได้ล่วงหน้าเป็นเทคนิคการสอนที่ดีมาก

ใช้มานานแล้ว... ดีมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆฯลฯ

เป็นเทคนิควิธีสอนที่ดีและเหมาะสมมากมากคะ

เป็นเทคนิควิธีสอนที่ดีและเหมาะสมมากมากคะ

เคยตรวจผังความคิดของเด็กแล้วต้องปรับปรุงมาก ๆ

มีวิธีใดที่ีช่วยกระตุ้นให้เด็กอธิบายสิ่งที่ีเรียนรู้ออกมาในรูปแบบผังความคิดที่ีเหมาะสม

เด็กชอบตกแต่งและเขียนออกมาในรูปแบบเหมือน ๆ กัน เอาสวยงามอย่างเดียว

ใช้ผังความคิดและผังมโนทัศน์สรุปผลการเรียนรู้บ่อยๆ แต่เด็กทำผังไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ใส่ลูกศรโยง หรือหัวลูกศรบ่งบอกชัดเจนบอก และคล้ายกับความเห็นที่ 12 คะ

ศึกษาแล้วเป็นประโยชน์มากคะ ขอบคุณนะคะ

เป็นเทคนิควิธีสอนที่ดีมาก ช่วยให้ครูได้ตรวจสอบความเข้าใจในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถแสดงออกถึงวิธีคิดของนักเรียนแสดงความคิดให้ออกมาเป็นรูปธรรมในลักษณะของภาพ โดยสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันของเนื้อหาหรือข้อมูลที่ได้รับ สามารถใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ได้จริง เมื่อครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ อธิบายและสรุปผลการเรียนรู้ ครูสามารถประเมินผลการเรียนรู้ได้ด้วยค่ะ

ถ้าเด็กได้มีส่วนร่วมมากขึ้นคิดว่าน่าจะมีการพัฒนามากกว่านี้

ผังความคิด ทำให้นักเรียนได้สรุปความคิด ก็ถือว่าเป็รวิธีดีอีกวิธี

อยากได้ข้อมูลแผนผังที-ชาร์ต ใคมีรบกวนส่งให้หน่อยคร๊

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท