โครงการวิจัยในชั้นเรียนภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552
ปัญหาการเรียนรู้
เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ขาดทักษะในการอ่านและการเขียน เช่น อ่านออกเสียงไม่ชัดเจน เขียนไม่ได้
ลักษณะ / สาเหตุของปัญหา
ในขณะที่ครูให้เด็กอ่านหนังสือหรือเขียนตามเด็กบางคนจะไม่สามารถอ่านออกเสียงที่ชัดเจน และ เขียนตามไม่ได้
วิธีการแก้ปัญหา / นวัตกรรม
- ครูให้เด็กระบายสีภาพงานศิลปะสร้างสรรค์
- ครูให้เด็กอ่านคำจากภาพงานศิลปะสร้างสรรค์
- ครูให้เด็กเขียนตามรอยประจากสื่อการอ่าน
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่านของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
เด็กอนุบาลปีที่ 1 ช่วงอายุระหว่าง 3 – 4 ปี ควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาการ ทั้ง 4 ด้านไปพร้อมๆกัน คือ ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนระดับสูงต่อไป การอ่านและการเขียนสามารถจัดประสบการณ์ บูรณาการให้เด็กได้ ในกิจกรรม สร้างสรรค์ กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเสรี และ กิจกรรมเกมการศึกษา
ผู้วิจัยเห็นว่า การจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ทำให้เด็กได้รับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จากการทำกิจกรรมที่เด็กริเริ่มและครูริเริ่ม สามารถส่งเสริม ด้านการอ่านได้จากผลงานทางศิลปะ ซึ่งเป็นรูปธรรมมากกว่า การเขียนตัวหนังสือ นอกจากนั้น การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ยังช่วยฝึกทักษะการใช้ กล้ามเนื้อเล็ก การประสานสัมพันธิ์ ระหว่างมือกับตาจะสามารถ ช่วยให้ผู้เรียนมีกล้ามเนื้อมือที่แข็งแรง ส่งผลดีต่อ การเขียนภาพ เขียนสัญลักษณ์ ตัวหนังสือ ตัวเลขได้ดี
วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
2. เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่าน
สมมุติฐาน
เมื่อจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่านแล้วความสามารถในทักษะด้านการอ่านและการเขียนก่อนและหลังมีความแตกต่างกัน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. นักเรียนมีทักษะการอ่านและการเขียนเพิ่มมากขี้น
2. นักเรียนอ่านและเขียนได้ชัดเจนและถูกต้อง
ขอบเขตของการวิจัย
ประชากร / นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชาย – หญิง ชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนสุมานัน ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 27 คน
กลุ่มตัวอย่าง
นักเรียนชาย – หญิง ชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนสุมานัน ได้มาโดยการคัดเลือก นักเรียนที่อ่านภาพจากงานศิลปะ แล้วออกเสืยงได้ไม่ถูกต้องและเขียนไม่ได้ เพื่อนำมาเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 10 คน
ระยะเวลาในการทดลอง
ดำเนินการวิจัยในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ตั้งแต่ เดือน ธันวาคม 2552ถึง เดือน มกราคม 2553 ทดลอง 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 40 นาที รวม 24 ครั้ง
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
1. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์วาดภาพระบายสี
2. แบบทดสอบการอ่าน – การเขียน ก่อน และ หลัง
3. แบบประเมินพฤติกรรม พัฒนาการ การอ่าน การเขียน ก่อนและหลัง
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ การใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่าน
ตัวแปรตาม การอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
วิธีดำเนินการวิจัย
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
โรงเรียนสุมานัน จำนวน 10 คน
ได้มาโดยการเลือกนักเรียนที่อ่าน ภาพ จากงาน ศิลปะ
แล้วออกเสียงได้ไม่ถูกต้องและเขียนไม่ได้โดยผู้วิจัยจะใช้เครื่องมือในการทดลอง
คือ ศิลปะส้รางสรรค์และสื่อการอ่าน แบบทดสอบการอ่าน
การเขียน แบบประเมินพฤติกรรมพัฒนาการการอ่าน
การเขียน ก่อน – หลัง โดยนำไปทดลองใช้เป็นระยะเวลา 8
สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 40 นาที
รวม 24 ครั้ง แล้ว นำมาวิเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย ( X )
ค่าร้อยละ
และ นำมา เปรียบเทียบผล สัมฤทธิ์ก่อน และ หลัง
การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์และสื่อการอ่าน
* ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้ทำการทดลอง ผู้วิจัยจะจัดกิจกรรม ให้กับเด็กคือ กิจกรรมวาดภาพระบายสีตามจินตนาการ การเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับภาพโดยจะให้เด็กพูดเป็นประโยค
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์
และสื่อการอ่านของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
ชื่อผู้วิจัย นาง เรียม อุดมเมธี
ครูโรงเรียนสุมานัน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต 1
---------------------------------------------------------------------
จากการศึกษาข้อมูลพบว่านักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการอ่านและการเขียน เช่น การออกเสียงไม่ชัดเจน และตามรอยประไม่ค่อยตรงรอย ซึ่งการอ่านออกเสียงและเขียนดังกล่าวเป็นพื้นฐานสำคัญที่นักเรียนจะต้องเรียนรู้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเสริมหรือจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ฝึกฝนการอ่านและการเขียนอยู่เป็นประจำ
ดังนั้นการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่านจึงเป็นวิธีหนึ่งที่มีความสำคัญและดึงดูดความสนใจของเด็กให้กลับมาอยากที่จะอ่านและเขียนและยังเป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กรู้สึกสนุกสนาน รักการอ่านการเขียน เกิดทัศนคติที่ดีต่อการอ่านการเขียนในวิชาต่าง ๆ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียน ของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โดยใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่าน
2. เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่าน
สมมุติฐานของการวิจัย
นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 จำนวน 10 คน ที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ และสื่อการอ่าน มีความสามารถในทักษะด้านการอ่านและการเขียนก่อนและหลังแตกต่างกัน
ขอบเขตของการวิจัย
ประชากร / นักเรียนกลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนชาย – หญิงชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนสุมานัน ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 25 คน
กลุ่มตัวอย่าง
นักเรียนชาย – หญิง ชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนสุมานัน ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ได้มาโดยการ คัดเลือกนักเรียนที่อ่านภาพจากงานศิลปะแล้วออกเสียงได้ไม่ถูกต้องและเขียนไม่ได้ เพื่อนำมาเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 10 คน
ระยะเวลาในการวิจัย
การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการทดลอง 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 40 นาทีรวม 24 ครั้ง
เนื้อหาที่ใช้ในการทดลอง
เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยเป็นการวิจัยเป็นการอ่านคำจากภาพงานศิลปะ เช่น ภาพสัตว์ ภาพผลไม้ ภาพของใช้ การระบายสีภาพ การเขียนตามรอยประ คำจากภาพแล้วอ่านออกเสียง เช่น ภาพสุนัขก็จะเขียนตามรอยประคำว่าสุนัขและอ่านออกเสียง คำว่าสุนัขพร้อมระบายสีภาพสุนัขแล้วนำมาสร้างเป็นแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียง การระบายสีภาพ กรเขียนตามรอยประ
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น การใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่าน
ตังแปรตาม การอ่านและการเขียนของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1
วิธีดำเนินการวิจัย
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนสุมานัน สังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาสมุทรปราการเขต 1 จำนวน 10 คน โดยผู้วิจัยเป็นผู้สอนด้วยตนเอง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ
1. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์วาดภาพระบายสี
2. แบบทดสอบการอ่าน – การเขียน ก่อนและหลัง
3. แบบประเมินพฤติกรรมพัฒนาการ การอ่าน การเขียน ก่อนและหลังโดยนำไปทดลองใช้เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 40 นาที รวม 24 ครั้ง แล้วนำมาวิเคราะห์ หาค่าเฉลี่ย และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน และเขียน ก่อนและหลังการทดลองของกลุ่มทดลองโดยใช้ t – test
สรุปผลการวิจัย
ผลการวิจัยพบว่าการใช้กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์และสื่อการอ่านส่งผลให้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 จำนวน 10 คนมีประสิทธิ์ภาพในด้านการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องชัดเจน การเขียนก็สามารถบังคับกล้ามเนื้อมือในการเขียนให้ตรงตามเส้นที่กำหนดให้ได้มากขึ้น เพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย 4.2 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 6.7 ถือว่าการเรียนการสอนจัดอยู่ในระดับคุณภาพที่เพิ่มขึ้น
งานวิจัยในชั้นเรียน ช่วยให้ครูได้รู้พื้นฐานเด้ก
ครูทุกคนต้องวิจัยเด็ก ไม่ว่าจะเต็มรูปแบบรึไม่ก็ตาม
สวัสดีค่ะ คุณครู ป. 1
ขอบคุณนะค่ะที่เข้ามาเยี่ยมชมและใหคำแนะนำเกี่ยวกับงานวิจัย
สวัสดีค่ะ ครูเรียม
แวะเข้ามาอ่านงานวิจัยดีๆ และเป็นกำลังใจให้นะคะ
เฮงๆๆรวยๆๆ และสวยตลอดปีและตลอดไปนะจ๊ะ
สวัสดีค่ะ
ข่าวว่างานวิจัยชิ้นนี้ได้รับรางวัลนี้จ๊ะ แล้วเมื่อไหร่จะพาเพื่อนไปเลี้ยงซักที...
เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ๊ะ
พี่เรียมจำเมย์ได้ไหมที่เรียนรุ่นเดียวกันที่แปดริ้ว กำลังต้องการงานวิจัยพอดีเปิดมาเจอชื่อนี้แต่ไม่แน่ใจพอดูรูปo.k .ใช่เลย สบายดีมั้ยจ๊ะ...ว่างๆคุยกันบ้าง แล้วพี่เอเป็นงัยฝากความคิดถึงไปด้วย ตอนนี้เมย์สอนอยู่ที่เซนต์หลุยส์ฉะเชิงเทรา อยากได้งานวิจัยมีให้น้องบ้างมั้ยค่ะ
เมย์พี่จำได้และเมย์สบายดีหรือเปล่าส่วนพี่สบายดี งานวิจัยนะพอมีบ้างเมย์จะเอาไปทำอะไรล่ะพี่พอมีตัวอย่างแต่ไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่า