การล้างพิษด้วยน้ำมะนาว : AAR วันที่ 5 : เกือบแย่...


ต่อยอดจากบันทึก การล้างพิษด้วยน้ำมะนาว : AAR วันที่ 4


 

เมื่อวานนี้ (วันที่ 5 ของการล้างพิษด้วยน้ำมะนาว) ตอนเช้าทุกอย่างก็ราบรื่นเป็น "ปกติ" แต่ปัญหามันก็มาเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ที่เราดัน "พิเลน" ไปทดลองดื่มน้ำหวานที่มีส่วนผสมหลักเป็น "น้ำกระเจี๊ยบ"

เราต้องการทดลองว่า ถ้าเราดื่มน้ำหวานชนิดอื่นเข้าไปแล้วมันจะเป็นอย่างไร เพราะโดยปกติ เราทานอาหารเพียงมื้อเดียว ในช่วงบ่ายและเย็นนั้นก็มีแต่เพียงน้ำหวานที่ผลเล็กกว่า "มะตูม" และไม่มี "กาก" เจือปนเท่านั้นที่จะดื่มได้

ครั้งนี้เราก็เลยใช้น้ำหวานที่ดื่มกันทั่ว ๆ ไปโดยดื่มเข้าประมาณ 100 CC

ผลปรากฎว่า "เกือบแย่"

เพราะอาการ "หวิว ๆ" เหมือนกับจะเป็นลม คลื่นไส้เหมือนกับจะอาเจียน

ประกอบกับตอนนั้น "เฮียหมู" นำหินอ่อนจากสระบุรีมาส่งให้เพิ่มเติมก็เลย "เจิ่น" ออกไปดูเขาขนหิน ทำให้ช่วงเวลาที่จะต้องดื่มน้ำมะนาวครั้งที่คลาดเคลื่อนออกไปร่วม 4 ชั่วโมง

พอกลับมาจากขนหินลงก็เริ่มรู้สึกว่า "ไม่ค่อยดี" มึน ๆ วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม ก็เลยผสมน้ำมะนาวดื่ม แต่ก็ดื่มไม่ได้เพราะว่าจะ "อาเจียน" ดื่มไปได้แค่ "ครึ่งแก้ว" ประมาณ 100 CC ก็ต้องล้มตัวลงไป "นอน..."

อื่ม... ก่อนหน้านั้นระหว่างที่คั้นน้ำมะนาวก็หาข้อมูลเกี่ยวกับ "น้ำกระเจี๊ยบแดง" ไปด้วย ก็ได้ทราบ "สรรพคุณ" ตัวหนึ่งที่น่าจะมีปัญหาคือ "ลดความดันโลหิตสูง" แต่ก็ได้เพียงตั้งสมมติฐานไว้ว่า ความดันของเราลดวูบลงไปเพราะเจ้า "กระเจี๊ยบแดง" นี่หรือเปล่าน๊า...?

เพราะปัญหา "วูบ ๆ" นี้เกิดจากมีท่านหนึ่งที่เคยล้างพิษด้วยน้ำมะนาวนี้ ตอนแรกก็ไม่มีอะไร ดีมากเลยแหละ ทุกอย่างราบรื่น ร่างกายดีขึ้น แต่มีปัญหาเมื่อ "หมอ" ผู้ดูแลรักษาให้ท่านมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เป็นหมอประจำตัวเลยก็ว่าได้ แนะนำ (สั่ง) ให้ท่านทานยา "ลดเบาหวาน" เพราะตอนดื่มน้ำมะนาวนี้ยาลดเบาหวานก็ต้องหยุดไปด้วย

พอหมอสั่งให้ทานยาลดเบาหวานปุ๊บ ก็เหมือนจะ "วูบ" ปั๊บ "ยาลดเบาหวานมันมีผลต่อการดึงน้ำตาลในเลือดหรือเปล่าน๊อ...?"

คือก่อนนั้นที่ทำมาเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ที่ไม่ได้ทานยาลดความหวานก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย ปกติดี ร่างกายดีขึ้น จนผลตรวจเลือดออกมาหมอยัง "งง" ว่าไปทำอะไรมา ร่างกายถึงดีขนาดนี้...?

แต่ทว่า ตามหลักการแล้ว เคยเป็นเบาหวานก็ต้องทานยาเบาหวาน ก็เลยต้องปฏิบัติตามหลัก ตามการ

สำหรับเรื่องนี้ก็ต้องให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญลองวิเคราะห์กันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น..?

ตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว ตอนเช้านี้ก็จะทดลองดื่มยาชง "ฟิตเน่" อีกหนึ่งซอง เพราะเราลองสังเกตุว่า คนอื่นที่เขาดื่มฟิตเน่เขาถ่ายกันหลายครั้ง เราดื่มยาชง "มะขามแขก" ไม่ค่อยจะถ่ายกับเขาเลย (เมื่อวานถ่ายไปครั้งเดียว และสิ่งที่ถ่ายออกมามี "สีดำ")

เราลองไปเทียบปริมาณยาชงทั้งสองตัวพบว่า

ฟิตเน่ประกอบด้วย ใบมะขามแขก 1500 มก. ฟักมะขามแขก 500 มก. และ ผลสัมแขก 150 มก. ซึ่งเขาบอกไว้หลังซองว่า "ใน 1 ซองกระดาษชนิดชง มี 2.65 กรัม)

ส่วนยาชงมะขามแขกของเรานั้นเขาก็เขียนข้างห่อไว้ว่า หนึ่งซองมีปริมาณ 1 กรัม (สงสัยจะน้อยไปหน่อย) วันนี้ก็เลยจะลองเปลี่ยนยาระบายดู ถ้าได้ผลอย่างไรจะแจกแจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง...

หมายเลขบันทึก: 306017เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2009 07:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอโอกาส ช่วยอีกแรงเจ้าค่ะ

 

เพราะไม่ทราบว่าแท้ที่จริงแล้ว กระเจี๊ยบน่าจะมีฤทธิ์อย่างไร

จึงลองค้นข้อมูลของกระเจี๊ยบแดง

มีรายงานวิจัยมากมาย หนูขออนุญาตหยิบมาเล่าบางส่วนเจ้าค่ะ

 

 

เจ้าสมุนไพรที่ชื่อว่า “กระเจี๊ยบแดง (Hibiscus subdariffa)” นี่ ได้ข้อมูลมาว่า

 

          ในผลของกระเจี๊ยบมีปริมาณกรดจากธรรมชาติอยู่มากเจ้าค่ะ เป็นชนิดที่เขาเรียกกันว่า Sucinic acid และ oxalic acid (ก็กรดผลไม้นั่นแหละเจ้าค่ะ)

แถมผลกระเจี๊ยบมีรายงานว่ามีปริมาณของวิตามินซีสูงเจ้าค่ะ สูงกว่า ส้ม และ มะม่วง ในปริมาณเท่ากันเสียอีก

 

          ส่วนกลีบเลี้ยง (calyx โดยส่วนใหญ่จะต้มหรือชงจากส่วนนี้)มี

          วิตามิน A, B1, B2 (Riboflavin), ไนอะซิน (Niacin), แคลเซียม และ ธาตุเหล็ก (เหล่านี้เป็นพวกวิตามินและแร่ธาตุ อย่างธาตุเหล็กก็จะช่วยบำรุงเลือดในตำรายาไทย จึงดื่มกระเจี๊ยบบำรุงเลือดเจ้าค่ะ)

 

 

          มีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่น (Antioxidation) กลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids)

gossypetine, hibistine, sadderetine

กลุ่มนี้จะออกฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายให้ดีขึ้นเจ้าค่ะ

         

          กลุ่มแอนโทรไซยานิน delphinidine-3-sambubioside, cyaniding-3-sambubioside, delphinidin-3-glucoside

ที่เขียนเป็นเพียงชื่อเรียกเจ้าค่ะ อาจจะดูไม่คุ้นเคย แต่กลุ่มนี้เคยมีรายงานว่า

 

อาสาสมัครทานแล้ว มีเพิ่มการไหลเวียนเลือด มีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังทำงาน

 

ภาษาอังกฤษว่าไว้อย่างนี้เจ้าค่ะ

 (......increased peripheral blood flow and also improved muscle fatigue in healthy volunteers after repeated typing work)

 หากผิดพลาดหนูก็ขออภัย แบบว่า ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเจ้าค่ะ

 

          มีการทำการทดลองในหนูโดยทำสารสกัดกลีบเลี้ยงกระเจี๊ยบใหหนูทาน พบว่า มีฤทธิ์ลดความดันและป้องกันภาวะโรคหัวใจในหนูได้

 

          ในกระเจี๊ยบมีสารที่มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตได้อย่างมีนัยสำคัญ และ ลดระดับของเอนไซม์ ACE ในพลาสมา

 (ทำได้กลไลเดียวกับยาลดความดันกลุ่มหนึ่งที่ใช้ในปัจจุบันเจ้าค่ะ)

 

สรุปว่า

 

กระเจี๊ยบมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด

และอาจจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เจ้าค่ะ

 

 

                                                                       

อันนี้ของแถมเจ้าค่ะ พอดีได้ข้อมูลสารสำคัญจากส่วนสดของ กลีบเลี้ยงและใบของกระเจี๊ยบ

 เห็นมันดี เลยขอโอกาสแทรกซึมเจ้าค่ะ

 

         

สารสำคัญกระเจี๊ยบ

กลีบเลี้ยงสด

ใบสด

ความชื้น

โปรตีน

ไขมัน

ไฟเบอร์

เถ้า

แคลเซียม

ฟอสฟอรัส

เหล็ก

แคโรทีน

ไทอะมีน (B1)

ไรโบฟาวิน (B2)

ไนอะซีน

วิตามิน C

 

9.2 g

1.145 g

2.61 g

12.0 g

6.90 g

12.63 mg

273.2 mg

8.98 mg

0.029 mg

0.117 mg

0.277 mg

3.765 mg

6.7 mg

86.2%

1.7-3.2%

1.1%

10%

1%

0.18%

0.04%

0.0054%

-

-

-

-

-

 

 

 

 

 

แหล่งข้อมูล

 

 

  1. Mahadevan N, Shivali K, Pradeep K. Hibiscus sabdariffa Linn.-An overview. Natural Product Radiance 8(1): 77-83, 2009.
  2. Espin JC, Garcia-Conesa MT, and Tomas-Barberan FA. Nutraceuticals: facts and fiction. Phytochemistry 68: 2986-3008, 2007.
  3. Fasoyiro SB, Ashaye OA, Adeola A, Samuel FO. Chemical and strorability of fruit-flavoured (Hibiscus sabdariffa) Drinks. World journal of Agricultural Sciences 1(2): 165-168, 2005.

กราบขอบพระคุณที่ให้โอกาสเจ้าค่ะ

ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ

แต่ปริมาณที่ทาน คือ 100 cc ไม่แน่ใจว่าจะมาพอที่จะเเสดงฤทธิ์ไหมเจ้าค่ะ

 

และปรึกษากับท่านที่มีประสบการณ์ด้านคลีนิค

        ท่านบอกว่า การออกแดด หลอดเลือดขยายตัว สังเกตว่าจะหน้าแดง อันนี้ก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งหรือไม่เจ้าค่ะ

หาข้อมูลมาละเอียดดีมาก และ "สังเคราะห์" ความรู้ได้อย่างดีเยี่ยม น่านับถือ น่านับถือ

สงสัยว่าข้อมูลนี้ "ใบไม้ร้องเพลง" จะต้องนำขึ้นไปเป็น "บันทึก" ไว้ซะหน่อยมั๊ง...?

เมื่อวาน (วันที่ 6) นี้ตื่นเช้ามาส่วนใหญ่ก็เป็นอะไรที่ "สบาย ๆ"

แต่ก็มาเริ่มแย่ตอนใกล้ๆ เที่ยง เพราะตอนนั้นติดพันธ์อยู่กับ "งาน"

ก็เลยทำให้ช่องว่างของเวลาการดื่มน้ำมะนาวห่างกันมากเกือบ 4 ชั่วโมง

ตอนนั้นก็ "หวิว ๆ" เหมือนกับที่เป็นดั่งเช่นวันที่ 5 (ตามที่กล่าวในบันทึกนี้)

ก็เริ่มรู้สึกตัวเองได้ว่า สงสัยน้ำตาลในเลือดจะลดต่ำลงมากไปกว่าปกติซะแล้ว

และนอกจากนั้นในระหว่างการทำงานประมาณ 10 โมง ตอนนั้นต้องก้ม ๆ เงย ๆ นั่ง ๆ ลุก ๆ อยู่ มีอาการหน้ามืดหลายครั้ง และมีหน้ามืด "หนัก" ครึ่งครั้ง คือ "มืดตึ๊ดตื๋อ" เป็นเวลานาน ตอนนั้นก็ได้แต่พยุงตัวไว้ไม่ให้ล้ม

พอมีแสงสว่างกลับขึ้นมาหายจากความ "มืดตึ๊ดตื๋อ" แล้วก็ว่าจะกลับไปดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง ก็ต้องกลับมาติดงานที่ยังค้างคาอยู่

ตอนนั้นเองก็เริ่มหวิว ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระเที่ยงเที่ยงกว่า ๆ ถึงจะได้กลับมาดื่มน้ำมะนาวอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อวานนี้หลังจากที่เปลี่ยนจากยาชง "มะขามแขก" มาเป็นยาฟิตเน่แล้วนั้นผลปรากฎว่าทรมาน "ทรกรรม" เหลือหลาย

เพราะเจ้าฟิตเน่นี้รุนแรงน่าดู (สำหรับคนที่ไม่ทานอาหารมาประมาณ 5 วัน)

ก็ถ่ายเพิ่มขึ้นจากหนึ่งครั้งเป็นสองครั้ง ครั้งแรกของที่ถ่ายมาเป็นสีดำ แต่ครั้งหลังเป็นเมือก "สีส้ม"

ดังนั้นวันนี้จึงขอกลับมาดื่มยาชง "มะขามแขก" เหมือนเดิม เพราะว่าชีวิต "สบาย" กว่ากันเยอะ...

พอดีแล้วสำหรับคนที่ไม่ได้มีอะไร ไม่ได้มีโรค มีภัยแบบเรา

แต่ถ้าคนที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติ ก็ควรจะใช้ฟิตเน่นะ เพราะจะทำให้เซลส์ต่าง ๆ ที่ถูกร่างกายดึงออกมาใช้นั้นขับออกไปให้ได้มากที่สุด

แต่เรานั้นไม่มีอะไรจะให้ย่อยสบาย ยาระบายก็เข้าไปทำหน้าที่ "บีบไปก็บีบมา" ในลำไส้อยู่อย่างนั้น เฮ้อ... ทำงง ทำงานอะไรก็ได้แต่ "ปวดท้อง..."

สำหรับเมื่อวาน (วันที่ 6) ตอนเย็นเริ่มรู้สึกว่า "พอดีแล้ว" (ที่จริงรู้สึกว่าพอดีตั้งแต่เมื่อหมดวันที่ 5) ความรู้สึกนี้เป็น "ปัจจังตัง" คือรู้ได้ด้วยตนเองนะ ห้ามเข้าข้างตนเองนะ แต่ทว่าด้วย "สัจจะ" และความตั้งใจที่จะทำให้ครบ 7 วันก็ต้องทำไป ทำไป

แต่เมื่อวานก็ลดปริมาณน้ำมะนาวลงเหลือประมาณ 150 CC จากปกติ 200 CC โดยตั้งใจว่าวันสุดท้ายนี้จะลดลงเหลือ 100 CC

วันนี้ เช้านี้ (วันที่ 7 วันสุดท้าย) ก็ยังสบาย ๆ อยู่ เมื่อตะกี๊เดินไป เดินมาก็ยังไปสั่งงานช่างให้ทำงานได้

วันนี้ วันสุดท้ายผลนั้นจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องตามดูกัน...

น้อมรับคำชี้แนะเจ้าค่ะ

หนูเอาบันทึกขึ้นแล้วที่นี่เจ้าค่ะ

รู้จักกระเจี๊ยบแดง

ดีมาก ๆ

ค่อยสมค่าภาษีของประเทศชาติหน่อย...!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท