วิธีการกำจัดวัชพืชในแปลงนาโดยไม่ใช้สารเคมีตอน 2


ทดลองหาน้ำหมักชีวภาพที่สามารถควบคุมวัชพืช จำนวน 5 ตัวอย่าง

 

 

จากปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชในนาข้าวนี้เอง   จึงเป็นจุดเริ่นต้น ที่ผุ้เขียน  ซึ่งทำหน้าที่บทบาทเป็นคุณอำนวย  อยากที่จะหาวิธีที่กำจัดวัชพืชโดยการไม่ใช้สารเคมี   จึงเริ่มต้นที่โรงเรียนชาวนา กลุ่มอำเภอเมือง   จ.สุพรรณบุรี     โดยเริ่มที่การนำน้ำหมักชีวภาพสูตรต่าง ๆ ที่นักเรียนชาวนาใช่อยู่นำมาทดลองศึกษา  แทนสารเคมีคุมฆ่าหญ้า    

หาคุณกิจที่สนใจอยากทดลองและเรียนรู้ด้วยกัน
          จากประสบการณ์  การใช้น้ำหมัก ฮอร์โมนสูตรต่าง  ๆ  พบว่าในบางครั้งที่เกษตรฉีดพ่นน้ำหมักนั้น    ถ้าหากใช้อย่าเข้มข้นจะทำให้ใบข้าวไหม้      ฉะนั้นน้ำหมักหรือฮอร์โมนน่าจะนำมาทดลองใช้ฉีดควบคุมหญ้าในนาข้าวได้    เริ่มด้วยการหานักเรียนชาวนาที่สนใจอยากจะทดลองหายาคุมหญ้า   โดยได้คุยกับน้านคร  แก้วพิลา  ซึ่งเป็นนักเรียนชาวนาในกลุ่ม   และน้านครก็สนใจอยากจะร่วมทดลอง     และนำเรื่องดังกล่าวไปบอกกับแม่บ้าน บอกว่าทดลองเปรียบเทียบกับสารเคมีดู  ใช้พื้นที่ไม่มาก  แม่บ้านน้านครเปิดไฟเขียวคะ  อนุญาติ     และยินดีที่จะแบ่งแปลงนามาทดลอง  ในการทดลองยึดเอาวิธีการทำนาปกติเป็นหลัก  เพียงแค่ขอแบ่งแปลงนามาบางส่วนเพื่อใช้ทำการทดลอง  

น้ำหมักที่เลือกมาทดลอง
      โดยปกตินักเรียนชาวนาจะใช้น้ำหมักและฮอร์โมนหลากหลายชนิด  เราจึงเลือก น้ำหมักที่ใช้ในการทดลองเลือกมา  5  ชนิด    เพื่อทดลองพิสูทธิ์ว่า มีน้ำหมักชนิดใดที่มีความเป็นไปได้ในการควบคุมหญ้า    ได้แก่
1.    น้ำหมักพืชสีเขียว
2.    น้ำหมักผลไม้
3.    น้ำหมักสมุนไพร
4.    น้ำหมักหัวผักกาด
5.     กากน้ำตาล
ส่วนประกอบของน้ำหมัก
1 .น้ำหมักพืชสีเขียว  ประกอบด้วย  พืชสีเขียวที่มียอดเจริญเติบโตเร็ว   ได้แก่ ยอด 
ผักบุ้ง +ยอดกระถิน   3 ส่วน+กากน้ำตาล   1 ส่วน สับหรือหั่น       ให้ละเอียด    
ใส่ถังปิดผาประมาณ 7-10  วัน ขึ้นไป
2. น้ำหมักผลไม้  ประกอบด้วย ผลไม้  กล้วยสุก +มะละกอสุก + ฟักทอง   อย่างละ 
    1  ส่วน + กากน้ำตาล  1  ส่วน  ใส่ถังหมัก  ปิดฝา ประมาณ 7-10  วัน ขึ้นไป
3. น้ำหมักพืชสมุนไพร  ประกอบด้วย  พืชสมุนไพรที่เกษตรกรใช้หมักฉีดนาข้าว  
4. น้ำหมักหัวผักกาด  ประกอบด้วย    หัวผักกาด + ผงกลูโคส  + น้ำมะพร้าว    อย่างละ 1 ส่วนหมัก ไว้  1 คืน
 5. กากน้ำตาล   ใช้กากน้ำตาล  1 ส่วนผสมน้ำ 1 ส่วน    ไม่ได้หมัก

แปลงทดลองเปรียบเทียบ
                   การทดลองฉีดพ่นทั้งหมดใช้แปลงทดลอง  ชนิดละ  4  แปลง  รวมทั้งหมด  20 แปลง โดยแปลงมีขนาด  4*8  เมตร  พื้นที่แปลงละ  32   ตารางเมตร    รวมพื้นที่ทดลองทั้งหมด  640 ตรารางเมตร   ในขั้นตอนการฉีดพ่นใช้ผ้าพลาสติกกั้นระหว่างแปลง  เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายไปแปลงข้าง ๆ


วิธีการและขั้นตอนการกำจัดวัชพืช
            คุณนคร  แก้วพิลา    มีขั้นตอนและรายละเอียดดังนี้
          1.  ได้หว่านข้าวพันธุ์ เบอร์  17  หว่านเมื่อวันที่    29   ธันวาคม     2548
          2.  ฉีดพ่นยาเคมีคุมฆ่าหญ้าเมื่อวันที่   5  มกราคม   2549  (ข้าวอายุได้  7 วัน)  
          3.  ฉีดพ่นสารฮอร์โมนทดลองครั้งที่  1  วันที่  6  มกราคม   2549   (ข้าวอายุได้  
               8  วัน)  ที่ความเข็มข้น 40 ซีซี / น้ำ  1 ลิตร
          4.  ฉีดพ่นสารฮอร์โมนทดลองครั้งที่  2  วันที่  10  มกราคม  2549  (  ข้าวอายุได้  
             11  วัน)    ที่ความเข็มข้น    50 ซีซีต่อน้ำ  1 ลิตร 
          5. ปล่อยน้ำเข้าแปลงนาวันที่  10  มกราคม  2549   (ข้าวอายุได้  12  วัน)
          6. ฉีดพ่นสารอินทรีย์ครั้งที่  3    วันที่  20  มกราคม  2549  ข้าวอายุที่  22 วัน 
             ความเข็มข้นที่    50 ซีซีต่อน้ำ  1  ลิตร     ในครั้งนี้ฉีดพ่นเฉพาะบริเวณที่มีหญ้า
             ขึ้นเท่านั้น

        7. ในวันที่  20 มกราคม  2549  คุณนครได้ฉีดพ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชในแปลงนา
            อีกครั้ง เนื่องจากยังมีวัชพืชอยู่บางส่วน


   ภาพวัชพืชในแปลงนาข้าว

   ภาพแสดงขั้นตอนการฉีดพ่นน้ำหมักต่าง ๆ

ผังแปลงทดลองและผลการทดลอง

      การเลือกชนิดน้ำหมักกับแปลงทลอง ใช้วิการสุ่มแบบจับฉลาก ลำดับแปลงกับชนิดน้ำหมักที่จะฉีดพ่น

แปลงที่
ฮอร์โมนที่ใช้
คะแนน
ปริมาณหญ้าในแปลง
1
น้ำหมักพืชสีเขียว  3
2
มีเล็กน้อย
2
กากน้ำตาล  2
3
ไม่มีหญ้า
3
น้ำหมักผลไม้  3
1
ไม่มีหญ้า
4
น้ำหมักพืชสมุนไพร  3
4
มีหญ้าเล็กน้อย
5
กากาน้ำตาล  1
3
มีหญ้าเล็กน้อย
6
น้ำหมักพืชสีเขียว  4
2
ไม่มี
7
น้ำหมักผลไม้  1
1
ไม่มี
8
น้ำหมักผลไม้   4
1
ไม่มี
9
น้ำหมักพืชสีเขียว  1
2
มีเล็กน้อย
10
กากน้ำตาล  3
3
มี ¼ แปลง
11
น้ำหมักหัวผักกาด  1
5
มี ¼ แปลง
12
น้ำหมักพืชสมุนไพร  4
4
มีเล็กน้อย
13
น้ำหมักพืชสมุนไพร  2
4
มี ¼ แปลง
14
กากน้ำตาล   4
3
มีเล็กน้อย
15
น้ำหมักพืชสีเขียว  2
2
ไม่มี
16
น้ำหมักพืชสมุนไพร      4
4
มีเล็กน้อย
17
น้ำหมักหัวผักกาด    3
5
มี ¼ แปลง
18
น้ำหมักผลไม้     2
1
ไม่มี
19
น้ำหมักหัวผักกาด   4
5
มี เล็กน้อย
20
น้ำหมักหัวผักกาด   2
5
มี ¼ แปลง

หมายเหตุ
ระดับคะแนนที่ให้   มี 5 ระดับ  โดยนักเรียนชาวนาพิจารณาจากปริมาณหญ้าที่มีในแต่ละแปลง  

ให้คะแนนจากน้อยไปหามาก  ระดับ 1  ไม่มีหญ้า   ระดับ 5 มีหญ้ามากที่สุด
 


 

นักเรียนชาวนาวิเคราะห์แปลงทดลองแต่ละแปลง
  
  

บทวิจารณ์การทดลอง
            ผลจากการใช้น้ำหมักทั้ง  5  ชนิด ทดลองนั้น  พบว่า    ในแปลงที่ฉีดพ่นด้วยฮอร์โมนผลไม้นั้น  สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของหญ้าได้ดีที่สุด     ในวันที่ฉีดพ่นนั้นในแปลงนามีหญ้าขึ้นบางแล้วและหญ้าสูงประมาณ  1-2  เซนติเมตร    และเมื่อฉีดฮอร์โมนไปพบว่าทำให้หญ้าไม่สูงขึ้น    และไม่มีหญ้างอกขึ้นมาเพิ่ม   เมื่อปล่อยน้ำเข้านาเมื่อข้าวอายุได้     12  วัน     หลังจากปล่อยน้ำเข้าขังแปลงข้าว   ประมาณ  7 วัน  บริเวณที่น้ำขังและท่วมหญ้า   หญ้าจะตายหมด      
ส่วนแปลงทดลองอื่น  ๆ นั้น บริเวณที่น้ำท่วมหญ้า  หญ้าจะตายเช่นกัน    ส่วนบริเวณที่น้ำไม่ท่วมหญ้าจะไม่ตาย    พบว่าหญ้าในแปลงทดลองอื่นจะยืดสูงกว่าแปลงที่ฉีดด้วยน้ำหมักผลไม้  ทำให้น้ำไม้ท่วม  และแปลงนาบางแหล่งเป็นที่ดอน น้ำท่วมไม่ถึง  หญ้าจึงไม่ตาย       


 ข้อสังเกตุและข้อเสนอแนะ
-   แปลงนา จะต้องสม่ำเสมอ    และ สามารถกักน้ำได้      เมื่อน้ำท่วมหญ้าจะทำให้หญ้าตายและเน่าเปื่อยไป
น้ำหมักจากผลไม้  น่าจะมีผลทำให้หญ้าไม่เติบโต   เพราะพบว่าหญ้าชนิดเดียวกันที่อยู่บนคันนากับหญ้าที่อยู่ในแปลงนา  มีจำนวนใบหญ้าเท่ากัน  แต่หญ้าที่อยู่ในคันนาจะสูงกว่า  ความยาวระหว่างข้อของใบจะยาวกว่า   ส่วนหญ้าในแปลงนาจะเตี้ยและแคะแกลน   
  -  การทดลองครั้งต่อไป   ควรทำการฉีดพ่นน้ำหมักก่อนหญ้าขึ้น    เพื่อทำการควบคุมการงอกของเม็ดหญ้า 

 "การทดลองครั้งนี้ เราได้น้ำมักจากผลไม้ทีไม่มีหญ้าในแปลงทดลอง   การทดลองครั้งต่อไป  จะต้องพิสุจน์ ผลให้แน่ชัด  เปรียบเทียบกับการคุมหญ้าในแปลงนาโดยวิธีเคมี"   ติดตามต่อตอนที่ 3  นะคะ  ว่าน้ำหมักผลไม้จะมีประสิทธิภาพควบคุมวัชพืชได้หรือไม่

เหรียญ  ใกล้กลาง

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 30573เขียนเมื่อ 24 พฤษภาคม 2006 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
อยากทราบว่า  หลังจากฉีดน้ำหมักในแปลงนาแล้วทำให้หญ้าไม่ขึ้น  แล้วข้าวที่หว่านไว้มีผลกระทบจากน้ำหมักหรือไม่  เพราะเคยเพาะกล้าแล้วเอาน้ำหมักไปรดอีกวันกล้าก็ไหม้ตาย     ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ
จากผลการทดลองที่ผ่านมา พบว่าไม่ส่งผลกระทบต่อต้นข้าวในแปลงนา เนื่องจากวิธีการที่ใช้ฉีดพ่นใช้เทคนิคเดียวกับการใช้ยาฆ่าหญ้า โดยใช้เครื่องฉีดพ่นแบบสะพายหลัง โดยวิธีการฉีดคือให้มันกระจายอย่างรวดเร็ว เคยทดลองเอาไปฉีดพ่นแบบจ่อบริเวณที่มีหญ้าขึ้นหนามาก พบว่า ทั้งหญ้าและข้าวจะมีสีเหลือง  ต้นหญ้าและต้นข้าวจะเติบโตได้ช้ามาก ในตอนสามจะมีรายละเอียดมากขึ้นค่ะ
ขอขอบคุณที่แบ่งปันความรู้
ยงเกียรติ...ชาวนามือใหม่

สวัสดีครับ

คือตอนนี้ผมหว่านข้าวได้ประมาณ 20 วันแล้ว

มีหญ้าขนที่กระต่ายชอบกินขึ้นเป็นกอๆ

แล้วก็หญ้าอะไรไม่รู้ขึ้นเป็นกกปลายแหลมๆ

ผมอยากจะทราบว่าจะแก้ไขอย่างไร

ใช้น้ำหมักจะได้ผลหรือไม่

แล้ววิธีการฉีดจะฉีดอย่างไร

โดนข้าวแล้วจะมาผลกระทบหรือไม่

รบกวนด้วยนะครับ

สามารถนำมาใช้ในการกำจัดวัชพืชในไร่มันสำปะหลังได้หรือไม่คะ

อัตราส่วนต่อน้ำ 20ลิตรใช้เท่าไหร่

อัตราส่วนต่อน้ำ 20ลิตรใช้เท่าไหร่คะ

หยอดข้าวแห้งได้1วันพ่นน้ำหมักคุมหญ้าได้หรือไม่ ถ้าข้าวงอกแล้วกลัวข้าวตาย

ถ้ามีน้ำไม่ต้องใช้สารเคมี หรือฉีดพ่นอะไรให้ยุ่งยากครับ เพียงขังน้ำให้ท่วมหญ้า ข้าวก็จะยืดเร็วกว่าหญ้าส่วนหญ้าก็จะตาย ครับจากประสบการณ์ น้ำท่วมข้าวได้7วันไม่เป็นไรครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท