ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคม 2552
--------------------------------------------------------------------------
ชื่อโครงงาน : การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัสดุธรรมชาติในการบำบัดน้ำทิ้งจากครัวเรือน
ผู้จัดทำ : เด็กชายยุทธภูมิ สุจารี
เด็กชายนพเก้า ทุมรัตน์
เด็กชายณรงค์เดช ทาพารักษ์
ปีการศึกษา : 2552
ครูที่ปรึกษา : นางสาวอุไรวรรณ หินทอง
นางสาวศศิภา วันนา
บทคัดย่อ
โครงงาน เรื่อง การศึกษาและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัสดุธรรมชาติในการบำบัดน้ำทิ้งจากครัวเรือน โดยใช้วัสดุจากพืช 5 ชนิด ได้แก่ ใบสับปะรด ก้านบัวหลวง ใยต้นมะพร้าว ต้นไยราบ และใบสนทะเล และวัสดุจากสัตว์ 2 ชนิด ได้แก่ ขนไก่ และเส้นผม ทั้งแบบสดและแห้ง มาทดสอบความสามารถในการบำบัดน้ำทิ้ง ซึ่งแบ่งการทดลองเป็น 3 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการดูดซับคราบน้ำมันของวัสดุธรรมชาติแบบสดและแบบแห้ง พบว่า วัสดุธรรมชาติแบบสดที่มีความสามารถในการดูดซับคราบน้ำมันได้ดีที่สุด คือ ขนไก่ โดยสามารถดูดซับคราบน้ำมันได้ 48.67 มิลลิลิตร จากทั้งหมด 50 มิลลิลิตร (97.33%) รองลงมาคือ ใบสนทะเล 39.67 มิลลิลิตร ( 79.33 %) และใยต้นมะพร้าว 38.67 มิลลิลิตร (77.33%) ตามลำดับ สำหรับวัสดุแห้ง ได้แก่ ขนไก่และใบสนทะเล โดยสามารถดูดซับได้ 49.00 มิลลิลิตร ( 98.00%) รองลงมาคือ ใยต้นมะพร้าว 41.33 มิลลิลิตร ( 82.67%) และก้านบัวหลวง 40.67 ( 81.33%) ตามลำดับ
การทดลองที่ 2 ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการดูดซับสารละลายฟอสเฟตของวัสดุธรรมชาติแบบสดและแบบแห้ง พบว่า วัสดุธรรมชาติแบบสดที่มีความสามารถในการดูดซับสารฟอสเฟตได้ดีที่สุด คือใบสนทะเล โดยสามารถดูดซับได้ 0.59 ppm จากเดิม 0.60 ppm (98.61%) รองลงมาคือ ใบสับปะรด 0.58 ppm (97.22%) และเส้นผม 0.53 มิลลิลิตร (87.50%) ตามลำดับ ส่วนวัสดุที่ไม่ดูดซับฟอสเฟต คือ ขนไก่ สำหรับวัสดุแบบแห้ง ได้แก่ ใบสับปะรด และก้านบัวหลวง โดยสามารถดูดซับได้ 0.59 ppm (98.61%) รองลงมาคือ ใบสนทะเล 0.58 มิลลิลิตร (95.83%) และต้นไมยราบ 0.47 ppm (77.78%) ตามลำดับ ส่วนวัสดุที่ไม่ดูดซับฟอสเฟต คือ ขนไก่
การทดลองที่ 3 ศึกษาและเปรียบเทียบความสามารถในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทางเคมีของน้ำทิ้งโดยใช้วัสดุธรรมชาติแบบสดและแบบแห้ง พบว่า วัสดุธรรมชาติแบบสดที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงค่าออกซิเจนละลายน้ำ (DO) ค่า pH และอุณหภูมิ ให้มีคุณภาพดีขึ้น ได้แก่ ใบสนทะเล และเส้นผม ซึ่งทำให้น้ำมีค่าออกซิเจนละลายในน้ำเพิ่มขึ้นจาก 2.00 ppm เป็น 8.00 ppm สำหรับวัสดุแห้ง ได้แก่ ใบสับปะรด ก้านบัวหลวง ใยต้นมะพร้าว ใบสนทะเล และเส้นผม ซึ่งทำให้น้ำมีค่าออกซิเจนละลายในน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนวัสดุที่ทำให้ค่าออกซิเจนละลาย (DO) ลดลงคือ ต้นไมยราบและขนไก่ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าวัสดุจากธรรมชาติที่มีเส้นใยสามารถบำบัดน้ำทิ้งให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน ก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำซึ่งจะทำให้ช่วยรักษาคุณภาพของแหล่งน้ำและสิ่งมีชีวิตในน้ำด้วย
เก่งมากเลยค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วย
ทำบล็อคได้ดีครับ มีภาพประกอบด้วย จะให้ดีควรลดขนาดภาพเสียก่อนค่อย อัพโหลดนะจ๊ะ
- ร่วมแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งสามหนุ่ม และคณะครูที่ให้การสนับสนุนและการช่วยเหลือทุกท่านค่ะ
- ครูนกฝากถามหน่อยนะค่ะ..ทำไมเด็กถึงได้เลือกใช้วัสดุต่อไปนี้ละค่ะ "ใบสับปะรด ก้านบัวหลวง ใยต้นมะพร้าว ต้นไยราบ และใบสนทะเล และวัสดุจากสัตว์ 2 ชนิด ได้แก่ ขนไก่ และเส้นผม ทั้งแบบสดและแห้ง"
สวัสดีค่ะ นักเรียนคนเก่ง
ขอให้ชนะระดับประเทศนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจนะคะ เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ของ gotoknow แนะนำด้วยนะคะ
ขอตอบครูนกแทนเด็กๆแล้วกันนะคะ จากที่เด็กเค้าเรียนรู้มาทราบว่าเส้นใยพืชและสัตว์มีคุณสมบัติในการกรองและดูดซับ ก็เลยให้เค้าลองคิดและเลือกใช้วัสดุที่อยู่ใกล้ตัวและสามารถหาได้ง่ายมาทดลอง ซึ่งวัสดุต่างๆที่เลือกมานั้นล้วนพบมากในท้องถิ่น โดยเฉพาะใบสน เพราะที่โรงเรียนมีต้นสนจำนวนมากเลยค่ะ ถ้าครูนกสนใจลองให้เด็กทำดูโดยใช้พืชอื่นๆในท้องถิ่นแล้วเปรียบเทียบดูนะคะ อาจจะได้ความรู้ใหม่เกิดขึ้นก็ได้ค่ะ
ขอแสดงความยินดีกับน้องๆๆด้วยนะคราบ
คิดถึงอาจารย์มากมายเลยครับ
เคยเจอครูอุไรวรรณ ที่อุบล เมื่อปี 42 น่ารักมาก แอบชอบ แต่ไม่กล้าจีบเพราะคิดว่า สวย น่ารัก ขนาดนี้คงมีแฟนแล้ว ตอนนี้ยังเป็นนางสาว นามสกุลเดิม อยู่ เหรอ เสียดายจัง