หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

เงินนี้เลี้ยงหัวใจแม่


แม่อยู่กับเรา ก็จริง แต่ถ้าแม่ ไม่มีเงินอยู่ในมือนี่ หัวใจท่านเหี่ยว…

วันนี้ก็มีเรื่องมาบอกต่อเพื่อประเทืองปัญญาอีกเช่นเคย เป็นเรื่องที่ได้รับการบอกเล่ามาแล้วทำให้นึกถึงพ่อและแม่ของตัวเองมากๆเลยค่ะ

กราบคุณย่าเสร็จ คุณทองคำก็หันมาคุยกับอาจารย์ “….อาจารย์กำลังทำอะไรครับ ”

อาจารย์ : “ผมกำลังตัดรายจ่ายอยู่…คุณทองคำ….ผมต้องจ่าย..ค่าแม่ครัวคนขับรถ คนสวน ค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่อีกเดือนละ 300 บาท ตอนนี้ รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันต้องตัดรายจ่ายลงบ้าง ”

คุณทองคำ :  " เงินเดือนที่ให้แม่ 300 นี่ตัดได้นี่ครับ"

อาจารย์ (หันหน้ามามองแล้วยิ้ม) : “ทำไมล่ะ?”

คุณทองคำ : “อาหาร 3 มื้อ อาจารย์ก็จัดให้..เรียบร้อย เสื้อผ้า..อาจารย์ก็ซื้อให้ใหม่ ปีละ 3 ชุดเรียบร้อย เจ็บป่วย ไม่สบาย อาจารย์ก็พาหมอมาฉีดยาให้ เรียบร้อย เพราะฉะนั้น เงินเดือน 300 นี่ ตัดได้ครับ “

อาจารย์ : “ตัดไม่ได้เด็ดขาด “

คุณทองคำ : “ตัดไม่ได้เด็ดขาด….??????”

อาจารย์ : "300 บาทนี่ สำคัญที่สุด"

คุณทองคำ : “ สำคัญยังไง? ”

อาจารย์ : "เงิน 300 บาทนี่ เป็นเงินสำหรับ เลี้ยงหัวใจแม่…"


คุณทองคำ (ฟังแล้วสะอึกในใจ) : "โอ…นี่เป็นเงินเลี้ยงหัวใจแม่ เคยได้ยินไหมครับ? ผมนึกว่า ให้อาหาร…เสื้อผ้า.. เจ็บป่วยก็เอาหมอมารักษา น่าจะพอแล้ว ”

อาจารย์ : "อาหารกินแล้วก็ไปส้วม เสื้อผ้าเก่าแล้ว ก็เป็นผ้าขี้ริ้ว หมอรักษา ก็รักษาอาการทางกาย สิ่งต่างๆที่เราจัดให้ทั้งหมดนี้เป็นอาหารกาย แต่ 300 บาทนี่ เป็นอาหารเลี้ยงหัวใจแม่ หัวใจต้องการอาหารที่มาหล่อเลี้ยงให้..เอิบอิ่ม…เบิกบาน…เป็นสุข คุณทองคำ ลองนึกดู คนที่ไม่มีเงินอยู่ในตัวเลยนี่ เป็นยังไง?"

คุณทองคำ : “หัวใจมันแฟบ”

อาจารย์ : "หัวใจมันเหี่ยวเฉา …เหมือนดอกไม้ยามเย็น มันเหี่ยวไปจนถึงสิ้นเดือน ใครที่เป็นข้าราชการจะรู้ พอเลยวันที่ 25 ไปแล้วนี่ มันเหี่ยว ๆ ยังไงชอบกล ไม่มีเงินค่ารถไม่มีเงินค่าอาหาร ไม่มีเงินซื้อข้าวสาร มันเหี่ยวไปจนถึงสิ้นเดือน

แม่อยู่กับเรา ก็จริง แต่ถ้าแม่ ไม่มีเงินอยู่ในมือนี่ หัวใจท่านเหี่ยว…

พอถึงวันเงินเดือนออก ทุกคนหน้าบานเหมือนดอกไม้ยามเช้า จิตใจสดชื่นเบิกบานมีความสุข รับเงินเดือนมาใหม่ๆ หน้าสดใส สั่งกาแฟยังเสียงดังฟังชัด ทุกสิ้นเดือน

พอเงินเดือนออก ผมเข้าไปกราบแม่ ผมนำเงินมาบูชาพระคุณแม่ 300 บาทครับ บอกแม่ว่า วันนี้เงินเดือนออกครับ ผมนำเงินมาบูชาพระคุณแม่ 300 บาทครับ เอาเงิน 300 บาทใส่มือแม่ แม่ก็ให้ศีล ให้พร ยกหมอนขึ้น เอาเงินวาง แล้ววางหมอนทับ มีความสุข เดือนละ 300 บาทสามสี่เดือน ก็เป็นพันใช่ไหมครับ”

คุณทองคำ : แล้วเงินนี่สำคัญยังไง เลี้ยงหัวใจแม่อย่างไร?

อาจารย์ : "ตอนนั้น ผมมีลูก 2 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่ เมียผมกำลังท้องคนที่ 3 วันหนึ่ง ผมพาเมียไปโรงพยาบาล

แม่ถามว่า คลอดหรือยัง? ผมตอบว่ายังครับแม่

วันต่อมาแม่ถามอีก คลอดหรือยัง ผมตอบว่าคลอดแล้วครับแม่

แม่ถามว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย? ผมบอกไปว่าผู้ชายครับ แม่ร้องว่า โอ๊ย…แม่ดีใจจังเลย ได้หลานไว้สืบสกุล

แต่ก่อนทองคำบาทละ 400 ผมรีบไปซื้อทองมาให้

วันรุ่งขึ้นเมียผมเขาอุ้มลูกขึ้นมาหาย่า ย่ากอดหลานชาย…สวมสายสร้อยให้เป่าหัวให้เสร็จ

พอเด็กคนนี้โต พูดได้ มีคนถามว่าสายสร้อยนี้ใครซื้อให้  เขาตอบว่า คุณย่าซื้อให้ ชี้มือไปที่คนตาบอด คนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านคือคุณย่า

เพราะเงิน 300 บาทนี่ เสกให้คนตาบอดขลัง ถ้าคุณย่าไม่มีเงิน จะรับขวัญหลานได้อย่างไร ?

เห็นไหมครับ ? ไม่ใช่ว่า.. พอโตขึ้น.. มีคนถามว่า.. คนนี้เป็นใคร..บอกว่า … ยายแก่ตาบอดนี่..มาอาศัยพ่อแม่ฉันอยู่..

เห็นหรือยังคุณทองคำ เงินเดือนๆ ละ 300 บาทนี่ ทำให้คนแก่ตาบอด กลายเป็นเทพเจ้า


วันดีคืนดีนะ คุณทองคำ แม่ครัวล้างชามเสร็จ คุณย่าก็บอกให้มานวดขาให้ แม่ครัวหน้ามุ่ย ทำงานเหนื่อยจะตายยังต้องมานวดให้อีก นั่งขยำๆหน้าคว่ำ พอนวดเสร็จคุณย่าหยิบเงินให้ 30 บาท แม่ครัวยิ้มหน้าบาน ยกมือไหว้ขอบคุณค่ะ

วันรุ่งขึ้นพอล้างจานเสร็จรีบวิ่งมานั่งใกล้ๆ แล้วถามว่าวันนี้นวด…อีกไหมคะ..คุณย่า

เห็นไหมเงินเดือน300 บาท ที่เราให้แม่เรานี่ มันมีฤทธิ์ มีคนมายกมือไหว้ มีคนมาปรนนิบัติ มีคนมานวดให้ ถ้าไม่มีเงินเดือนๆ ละ 300 บาทนี้ แม่เราจะมีฤทธิ์ได้อย่างไร

วันหนึ่ง พระมาเรี่ยไรจะสร้างโบสถ์ ผมนิมนต์พระเข้ามาแล้วชี้มือ บอกมรรคทายกว่า โน่นไปเรี่ยไรกับคุณย่าโน่น มรรคทายกบรรยายว่าจะสร้างโบสถ์กว้างเท่านั้นยาวเท่านี้ สูงเท่าไร สวยงามยังไง ราคาเท่าไร

คุณย่ายกหมอนขึ้น นับเงินมา 500 บาท พนมมือ อธิษฐาน ขอให้ศาสนาของพระองค์ยืนยงไปอีก 5 พันปี นิพพานปัจโยโหตุ ขอทำบุญสร้างโบสถ์ไว้เป็นมิ่งขวัญในพระศาสนา ขอเป็นบันไดพาแม่ไปสวรรค์

ตกลงเงินเดือน ๆละ 300 บาทที่เราให้ เป็นบันไดพาแม่ไปสวรรค์ นี่ถ้าแม่ไม่มีเงินในมือ แม่จะได้ทำบุญไหม

พอพระให้พรเสร็จก็เดินผ่านไปบ้านถัดไป ยายแก่บ้านโน้น กำลังเก็บผ้าอยู่หลังบ้าน มรรคทายกตะโกนข้ามรั้ว ทำบุญสร้างโบสถ์ไหม คุณยาย สร้างที่วัดนครนายก นี่หลวงพ่อมาด้วย มาบอกบุญเองเลย

คุณยายตอบมาว่า เดี๋ยวอีกสักครู่ วกกลับมาใหม่ได้ไหมล่ะ ยายไม่มีเงินหรอก ยายอาศัยลูกสาวเขาอยู่ เดี๋ยวเผื่อลูกสาวเขากลับมาทัน จะขอเงินเขาทำบุญ

ยายแก่คนนี้ไม่มีเงิน เพราะลูกเอามาเลี้ยงแปะๆแมะๆไว้ข้างรั้วบ้าน เอาไว้คอยเก็บผ้า"


อ่านแล้วรู้สึก อย่างไรบ้างค่ะ ฉันนึกถึงเรื่องของตัวเองค่ะ ที่เป็นคนด้อยวาสนา่ ไร้โอกาสจะได้ทำเช่นนี้ให้กับแม่ของตัว เพราะกว่าที่จะมีความสามารถหาเงินได้เอง แม่ก็จากไปไม่คืนกลับมาให้ได้ตอบแทนพระคุณแล้ว

โชคดีที่มีพ่ออยู่เป็นขวัญ ทำให้มีโอกาสได้ทำเช่นนี้ให้กับท่าน

ดีใจและมีความสุขเมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้ทำให้กับพ่อ 

ขอบคุณผู้ที่นำเรื่องราวมาบอกต่อ และ ขอบคุณเจ้าของข้อคิดสะกิดหัวใจนี้ทั้ง 2 ท่าน พ.อ.(พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน และคุณสมคิด ลวางกูร ขอบคุณค่ะ

หมายเลขบันทึก: 304695เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2009 08:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

 ซึ้งค่ะ

คิดถึงแม่จังค่ะพี่หมอเจ๊...ตอนนี้คงทำได้แค่ดูแลพ่อตามกำลังที่มีค่ะ

ขอบคุณค่ะพี่หมอเจ๊

 

พี่หมอเจ๊คะ

วันนี้มาละเลียดอ่านเรื่องดี ๆ ที่พี่อุตส่าห์นำมาบันทึกไว้ให้ได้อ่านกัน...

ทั้งดีใจ ปิติ และหดหู่ใจไปในคราวเดียวกันที่ได้อ่านจนจบค่ะ...พี่ ๆ คอยดูแลอย่างดี ทุกคนโดยเฉพาะพี่สาวจะต้องมาหาแม่ทุกวันเสาร์พาหลาน ๆ  ทำอาหารทานด้วยกันที่บ้านอาม่า ... สิ้นเดือนจะนำเงินมาใส่มือแม่ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่กำลัง ส่วนพี่ชายบางคนฐานะไม่สู้ดีนัก นานทีจะมาหา ก็จะซื้อหาของกินของใช้ที่แม่ชอบมากให้เสมอค่ะ...

น้องเอง ทำงานเดือนแรก เงินเดือนออก ดีใจที่สุดเพราะเป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องขอเงินแม่...แบ่งเงินครึ่งหนึ่งให้แม่ ซึ่งแม่ก็รับไว้ แล้วก็ให้คืนทั้งหมดค่ะ และก็ให้เงินเดือนของตัวเองทุกเดือนตลอดมา หลังจากนั้นก็จะอาสาเป็นคนออกค่ารถ ค่าเดินทางให้แม่ทุกครั้งที่แม่จะไปทำบุญต่างจังหวัด ถือเป็นการส่งเสริมให้แม่ได้ไปท่องเที่ยวค่ะ...

ภูมิใจที่ได้ทำเช่นนั้น...แม้เงินที่ให้แม่ทุกเดือนจะน้อยนิด เทียบไม่ได้เลยกับพระคุณของท่านค่ะ ... และวันนี้ก็ไม่เสียใจ เพราะได้ทำสิ่งที่ควรทำและทำเต็มกำลังแล้วค่ะ

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ จากพี่นะคะ

(^___^)

  • น้อง ชาดา ~natadee ค่ะ
  • อ่านเรื่องนี้แล้ว...
  • อย่าลืมถอดบทเรียนเพื่อให้เกิดประโยชน์กับลูกเนอะ
  • ใบ้ให้ว่า......เ็ด็กเขาเรียน
  • โดยซึมซับความรู้จากคนข้างตัวเขานะน้อง
  • โดยเฉพาะคนที่เขาใส่ใจส่งให้
  • จะเห็นเกลียด รัก หรืออารมณ์ไหนก็เหอะนะน้อง
  • บทนั้นคือบทเรียนที่เขาแอบเรียนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนะคะ
  • น้องโหลจ๋า คนไม่มีราก
  • เอ๋อ....นะคะ
  • ...........
  • "หดหู่ใจไปในคราวเดียวกันที่ได้อ่านจนจบค่ะ"
  • สงสัยว่าคุณวิจารณ์มาอยู่ข้างๆกายหรือเปล่า
  • ...........
  • อย่างในเรื่อง พบได้เป็นธรรมดาโลกเช่นนั้นเองเนอะ
  • ความหดหู่เป็นคุณวิจารณ์สร้างอารมณ์ให้หรือเปล่า
  • จะดีกว่าถ้าชวนให้คุณวิจารณ์ร่วมแผ่เมตตานะน้องนะ
  • ...........
  • กุศลจะได้ช่วยให้คนที่ทำอะไรไปอย่างในเรื่องเล่า
  • เขาหวนกลับมาคิดดีทำดีได้เมื่อเขาถึงพร้อม
  • ...........
  • ดีใจที่ได้รับรู้เรื่องราวดีๆจากครอบครัวดีๆของน้องอีกครา

กลับมาอ่านคำตอบ เห็นว่าต้วเอง...เอ๋อจริง ๆ ด้วยค่ะ...

นี่ล่ะเพื่อน ๆ เรียก โก๊ะจ๋าค่ะ... ^_^

ง่วงมาก ๆ แต่อยากอ่านอยากตอบค่ะ...

แก้ตัวใหม่....ยังไม่ได้บอกว่า หดหู่เรื่องอะไรค่ะ...ที่หดหู่เพราะไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งดี ๆเช่นในบันทึกนี้อีกแล้ว เพราะแม่จากไปแล้วเมื่อปี 2548 ค่ะ ...

ราตรีสวัสดิ์ดีกว่า...ฝันดีคืนนี้เพราะได้อ่านเรื่องดี ๆ ค่ะ

(^___^)

ได้เกิดมาก็ถือว่าพระคุณของแม่ทดแทนยังไงก็ไม่มีวันหมด อ่านแล้วคิดถึงแม่จังเลยครับ

แวะมาอ่านคะ

ดีใจนะคะที่ได้ให้เงินพ่อไว้เดือนละพักกว่าเกือบสองพันบาท

พ่อจะได้มีเงินใช้บ้าง ไม่ใช่รอขอลูกสาว

ใช่แล้วค่ะ

คิดถึงแม่... แต่รู้และมั่นใจว่าแม่ต้องมีความสุขกับชีวิตใหม่ของท่านค่ะ

พี่สบายดีนะคะ

คิดถึงค่ะ

(^___^)

  • น้อง คนไม่มีราก ค่ะ
  • พี่ก็แวะมาอ่านบันทึกนี้อีกครั้ง
  • ด้วยความคิดถึงแม่ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท