สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ เกิดจากการปรับโครงสร้างมหาวิทยาลัย หน่วยงานเดิมคือกองบริการการศึกษา กับ สำนักทะเบียนและประมวลผล ซึ่งเดิมทีสำนักทะเบียนฯเป็นงานที่สังกัดภายใต้กองบริการการศึกษา ด้วยเหตุผลหลายประการแต่แน่ชัดคือมข.ได้คะแนนเรื่องการบริหารจัดการองค์กรที่สามารถปรับปรุงโครงสร้างให้เล็กกระทัดรัด (Right Sizing)และลดขั้นตอน(Borederless)การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการบริหารจัดการแบบ Good Governance โดยแบ่งงานออกเป็น 6 กลุ่มภารกิจ มี กลุ่มภารกิจบริหารงานทั่วไป .กลุ่มภารกิจรับเข้าศึกษา กลุ่มภารกิจทะเบียนเรียน กลุ่มภารกิจประมวลผลการศึกษา กลุ่มภารกิจบริการและ กลุ่มภารกิจพัฒนาวิชาการ ซึ่งมีภารกิจหลัก 4 ประการ คือ การสนับสนุนการบริหารและดำเนินงานด้านวิชาการ การจัดการศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย การให้บริการการศึกษาแก่นักศึกษา อาจารย์ บุคคลากรและหน่วยงานของ มข. การเป็นแหล่งสารสนเทศด้านวิชาการและการจัดการศึกษาของมข.และเป็นศูนย์ประงานด้านวิชาการและการจัดการศึกษากับหน่วยงานภายในประเทศ นั่นหมายถึง กระบวนการ การสร้างบัณฑิต เริ่มต้นที่สำนักบริหารและพัฒนาวิชาการตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ -การประกาศรับ -การสมัครสอบ -การคุมสอบ- การรับเข้า -การลงทะเบียนเรียน-การประเมินผลการศึกษา-การรับปริญญาบัตร-การขอใบสำคัญทางกศ.และการสนับสนุนการดำเนินงานด้านหลักสูตรและการสอน (Input-Process-Output-Outcome)ยกเว้น ขั้นตอนการสอน ที่เป็นภารของคณะ/ภาควิชา ซึ่งการที่จะได้บัณฑิตที่พึงประสงค์ย่อมขึ้นอยู่ที่สาย ก. แน่นอน แต่ สายสนบสนุนก็มีส่วนเกี่ยวข้องตามกระบวนดังกล่าว ดังนั้นการสนับสนุนและบริการจึงเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติตามภารกิจหลัก KM. เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้งานบรรลุเป้าหมายเพื่อเปิดกว้างและเติมให้เต็มในสิ่งที่ขาด วาดความฝันที่จะก้าวกระโดดโดยอาศัยการต่อยอดจากองค์ความรู้ทั้งภายในและภายนอก ดังที่สำนักฯได้พยายามดำเนินการ เรื่อง KM. โดยการจัดสัมมนา KM.ครั้งที่ 1 เพื่อดึงเอาความรู้ในองค์กรออกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน(ลปรร) Tacit และ ครั้งที่ 2 เพื่อศึกษาองค์ความรู้จากภายนอกจากวิทยากรขององค์กรภาคเอกชนที่ประสบผลสำเร็จคือ บ.ปูนซิเมนต์ไทย และ จะจัดอบรมเรื่อง KM. Blog ในวันท่ 30 พฤษภาคม 2549 นี้ ซึ่งได้วางแผนจะทำคู่มือการจัดการความรู้ในองค์กรโดยรวบรวมกระบวนการนำความรู้ภายบุคคลในองค์กรมาผสานกับความรู้ภายนอกองค์กรเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาองค์กร โดยใช้ยุทธวิธี 7 Rainbows 4 ways (ใกล้ ๆ กับTOYOTA WAYs) และจะจัดทำ สารสัมพันธ์สานฝัน QA.&KM.ราย 3 เดือน คงได้เห็นหน้าตาภายในมิถุนายนนี้(ต้องสานฝันให้เป็นจริง) เพื่อสีอิฐ เพื่อ มข. ลูกเจ้าพ่อมอดินแดง ...สู้สู้ ...สู้โว้ย ขอเพียงกำลังใจจากเพื่อนพ้องขององค์กรและ ชาว KM. โดยเฉพาะผู้บริหารผู้เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมและคุณภาพ....ของ ขอนแก่น University....ty...ty เท่านี้ก็พอแล้ว...