เปรียบเส้นทางสู่เขาใหญ่..กับ..เส้นทางชีวิต (1)


การผลักภาระรับผิดชอบในการแก้ปัญหาโดยการปล่อยให้เป็นภาระของคนใดคนหนึ่งให้เขาต้องฝ่าฟันตามยถากรรมนั้นเป้นการแก้ปัญหาและการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างยิ่ง

ในบางครั้งเราอาจเคร่งเครียดกับงานหรือกิจกรรมบางอย่างมาก ๆ อาจทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ซ้ำซาก จำเจเกินไป ทำให้ไม่มีความสุข ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศชั่วคราว ด้วยการชักชวนคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงออกไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติ หลีกหนีความจำเจไปชั่วคราว พักผ่อน เดินทางไปในสถานที่ที่ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและพเลิดเพลินระยะหนึ่ง จะทำให้ความตึงเครียดน้อยลง และพร้อมที่จะลุยงานต่อไปใหม่ได้ ในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ดิฉันกับสมาชิกแก๊งค์ตาใสประมาณ 8 คน จึงชักชวนกันไปเที่ยวเขาใหญ่กัน ปกติเวลาที่เราเที่ยวกันนั้นมักไม่ค่อยมีแผนการอะไรเนื่องจากทุกคนอยากพักผ่อน คลายเครียดจากงานประจำ ใครใคร่ทำอะไรก็เชิญตามใจ Trip ของเราจึงไร้สาระมาก.ก.ก. เรามีแผนเพียงว่าจะเปลี่ยนสถานที่สังสรรค์พูดคุยเรื่องตลก ไร้สาระ กินข้าว และไปนอนกางเต็นท์บนเขาใหญ่ สุดท้ายเพื่อไปเติม(หัวเชื้อ)ไฟและเติมพลังการทำงานด้วย

พวกเราออกเดินทางกันแต่เช้า ประมาณ 7.00 นแต่ระหว่างทางเกิดปัญหาคือรถของสินชัย+ไก่ซึ่งเป็นรถที่สำคัญมากเพราะบรรทุกสำภาระต่าง ๆ ทั้งอุปกรณ์เต็นท์ เครื่องนอน เครื่องครัว เกิดนำมันเครื่องรั่ว..(โอ้ว...พระเจ้าจอร์ช..มันแย่มาก)

     ทุกคนเกิดปริวิตกกลัวว่าจะไม่ได้เที่ยว สายตาทุกคนมีทั้งสิ้นหวัง หมดหวัง สลับกับความวิตกกังวล  

    แต่ในช่วงครู่หนึ่ง เพียงอึดใจต่อมา

ความต้องการอยากเที่ยวก็ชนะทุกสิ่ง ดังนั้นจึงเกิดมีแววของความที่จะไม่ท้อถอย ความต้องการชนะอุปสรรค และการให้กำลังใจกันและกัน

ทั้งแปดชีวิตจึงเริ่มมารุมล้อมและออกความเห็นกันต่าง ๆ ให้ลองผิดลองถูกทั้งๆ ที่ไม่มีใครเป็นช่างเครื่องยนต์เลยสักคน การช่วยกันแก้ปัญหาไม่ผลักภาระให้กับใครคนใดคนหนึ่ง ประกอบกับความใจเย็นของสินชัยในการค่อย ๆ แก้ปัญหารับฟังและพยายามทำตามทุกข้อคิดเห็นทั้งได้เรื่องและไม่ได้เรื่อง และสติปัญญาที่เป็นเลิศของพี่ตุ้ม(สามีพี่ปัท)ในการประยุกต์ยางในรถจักรยานมาพันรอบสายไฮโดรลิคทำให้ยังมีซึมบ้างแต่น้ำมันไม่รั่วมากขึ้น ทำให้เราสามารถเดินทางต่อได้

ดิฉันเกิดพุทธปัญญาว่าปัญหาทุกปัญหาไม่ได้มีให้ทุกข์ใจอย่างเดียว แต่มีไว้เพื่อการแก้ไข การผลักภาระรับผิดชอบในการแก้ปัญหาโดยการปล่อยให้เป็นภาระของคนใดคนหนึ่งให้เขาต้องฝ่าฟันตามยถากรรมนั้นเป้นการแก้ปัญหาและการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพอย่างยิ่ง

"การจะแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ต้องอย่าผลักภาระให้ใคร ต้องร่วมสุขร่วมทุกข์ ร่วมมือร่วมใจกัน ร่วมกับการใช้สติปัญญา ความสงบใจเย็นและการทดลองแก้ปัญหาด้วยวิธีต่าง ๆ โดยการแก้อุปสรรคด้วยการไม่ใช้อารมณ์ ไม่สติแตก ไม่ฉุนเฉียวใช้สมาธิ และสติปัญญาพิจารณาต่างหากล่ะที่จะแก้ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ได้"

หมายเลขบันทึก: 30207เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2006 11:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สนุกมั่กๆๆ ขอบอก!!!  

ไปไหนไปกัน ว่าไงว่าตามกัน

โอ้ว..พระเจ้า ยอด มันจอร์ชมาก....

แก๊งค์ (อิจฉา)ตาร้อน
แหม.....อยากไปด้วยจัง ท่าทางจะสนุก

Trip หน้า ดอยวาวี จ.เชียงราย นะรับประกันความสนุกและโหด อย่าบอกใคร ใครสนใจสมัครด่วนรับจำนวนจำกัด ถ้าลังเลใจอดไปเด้อ

ที่ใกล้ๆแต่สูงๆแบบใบหยก2เคยชวนไว้เมื่อไหร่จะไปซะทีจ๊ะ
นึกว่าพูดถึงถนนที่'ทางหลวงไถป่ามรดกโลกซะอีก
แก๊งค์ (อิจฉา)ตาร้อน
ว้า!!!  หนี้เก่าก็ยังใช้ไม่หมด ปั๊มเงินไม่ทันเลย

อ่านแล้วสนุกจัง อยากไปด้วยมากๆ เลย (อิจฉาที่สุด).....แต่ไร้วาสนาจริงๆ นะนี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท