วิธีทำ KM ในองค์กรภาครัฐ : 2. แนวทางเลือกหัวข้อ


• หลักการในการเลือกหัวข้อทำ KM ในหน่วยงานภาครัฐ  ได้แก่  (1) เป็นหัวข้อที่ทำแล้วจะเริ่มเห็นผลภายใน 3 เดือน   เห็นผลชัดเจนภายใน 1 ปี   (2) เป็นหัวข้อที่ให้ความรู้สึกเป็นอิสระ (และไม่เป็นอิสระ) แก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ   (3) เป็นหัวข้อที่จะช่วยการวางพื้นฐานการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร จากควบคุมสั่งการ มาเป็นแบบ “เสริมพลัง”  (Empowerment)
• ถ้าให้ผมเป็นผู้กำหนดหัวข้อ หรือ desired state ของการทำ KM ในปีแรก ผมจะเลือกคำว่า “ทำ Knowledge Mapping”  โดยมีเป้าหมายเพื่อ  (1) รู้ว่าองค์กร / หน่วยงาน ต้องการความรู้หลักอะไรบ้าง เพื่อการบรรลุวิสัยทัศน์   (2) รู้ว่าองค์กรมีความรู้ (ปฏิบัติ) ที่ต้องการอยู่ที่ไหน   ใครเป็นคนเก่งด้านใด ที่ องค์กร / หน่วยงาน ต้องการ   และมีการรวบรวมไว้ทั้งในรูปของความรู้แจ้งชัด และความรู้ฝังลึก    (3) รู้ Knowledge Gap ขององค์กร / หน่วยงาน   (4) ให้คนในองค์กร / หน่วยงาน มีใจที่เปิด ที่จะ “ให้และรับ” ความรู้ปฏิบัติ

วิธีทำ KM ในองค์กรภาครัฐ  : 1

วิจารณ์ พานิช
๑๘ พค. ๔๙


 

หมายเลขบันทึก: 30110เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2006 10:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 09:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ ผมได้ข้อคิดเยอะเลย..

ขอความกรุณาอาจารย์พิจารณา บันทึกนี้ด้วยครับ
"ฝากไว้ให้ช่วยกันกระตุ้นสื่อเพื่อสังคมหน่อยนะครับ โปรดอ่านที่ ขอความเห็นจากทุกๆท่าน เรื่องการตีแผ่วงจรธุรกิจน้ำเมา แล้วไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อที่บอร์ดของทีวีบูรพา ตามหัวข้อที่แนะนำนะครับ ขอขอบคุณครับ.."

กระผมเห็นด้วยกับหลักการเลือกหัวข้อทำ  KM ในหน่วยงานภาครัฐ ที่ว่า 1) หัวข้อทำแล้วเห็นผลใน 3 เดือน เห็นผลชัดใน 1 ปี 2) หัวข้อรู้สึกมีความเป็นอิสระ(ไม่อิสระ)แก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ   3) หัวข้อที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร คือ เสริมพลัง  แต่คิดว่ากระบวนการจัดการความรู้ในองค์กรน่าจะมีการปรับปรุงไม่ยึดติด และนำไปสู่การทดลองใช้สอดคล้องกับบริบท     ซึ่งไม่เห็นด้วยกับกพร.และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติที่บังคับให้ใช้ของที่ประยุกต์จาก Xerox Corporation  คือ การจัดการเปลี่ยนแปลง  การสื่อสาร  การบวนการและเครื่องมือ  การเรียนรู้  การวัดผล และการยกย่องชมเชยและให้รางวัล 

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท