ชาวฮินดูเรียกสีเสียดว่า กคร
เมื่อพระพุทธองค์สำเร็จพระโพธิญาณได้ 8 พรรษา ได้เสด็จไปประทับที่ ภูสกภวัน (บางเล่มเรียก เภสกลาวัน) คือป่าไม้สีเสียด ใกล้สุงสุมารคีรีในภัคคฏฐี (บางเล่มว่าในแคว้นภัคคะ)
พบนกุลบิดา และนกุลมารดา ทั้งสองเป็นคฤหบดีชาวเมืองสุงสุมารคีรี สองสามีภรรยาเมื่อแรกพบพระพุทธองค์ ก็เกิดความสนิทสนม ราวกับว่าพระพุทธองค์เป็นบุตรตน
เมื่อครั้งนกุลบิดาเจ็บป่วย พระพุทธองค์ประทานพระดำรัสว่า ถึงแม้ร่างกายของเราจะป่วย แต่ใจของเราไม่ป่วย
................................................................................
อ้างอิงเรื่องและรูป
พนิตา อังจันทรเพ็ญ พระพุทธประวัติ สมุดภาพจิตรกรรมไทยเฉลิมพระเกียรติ 81 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ธรรมสภา 1 / 4-5 ถ.บรมราชชนนีร เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตตฺโต) พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลศัพท์ โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ พระนคร
ศาสตรจารย์ พเยาว์ เหมือนวงษ์ญาติ ไม้พุทธประวัติ สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด้จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชวังดุสิต กรุงเทพ
สีเสียดที่คนแก่ กินกับหมาก ใช่ไหมคะ คุณย่า ของครูอ้อย เคยกินค่ะ คุณย่า จะใช้มีดฟันมัน สีเสียด เป็นเลือกไม้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้คิดถึง คุณย่า บุดดี ที่น่ารักของครูอ้อย
สวัสดีครับพี่ณัฐรดา
“ถึงแม้ร่างกายของเราจะป่วย แต่ใจของเราไม่ป่วย”
ดีมากๆ ครับ
ขอบคุณครับ