วันนี้ได้พูดคุยกับพี่อรอนงค์ (OPD Lab--ขอเรียกพี่อรแล้วกัน) หัวหน้าทีมประหยัดพลังงาน ซึ่งผู้เขียนก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วย แต่ผู้เขียนกับพี่อรแทบจะไม่ได้คุยกันเลย กับเรื่องโครงการประหยัดพลังงาน (คุยกันแต่เรื่องอื่น ๆ )โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น พี่เพ็ญแข นำโครงการมาเล่าให้ผู้เขียนฟัง ก็เป็นการพูดคุยและปรึกษา และนำโครงการมาให้พิมพ์ โดยที่พี่เพ็ญแขนำไป print เอง แล้วพี่เขาก็ใส่ชื่อเราเป็นสมาชิกไปด้วย ผู้เขียนกับพี่เพ็ญแขก็ได้เจอกันบ่อยและได้พูดคุยกันเรื่อย ๆ ถึงโครงการ รวมถึงวิธีการ (เนื่องจากพี่เพ็ญแขต้องมาช่วยงานที่หน่วยสัปดาห์เว้นสัปดาห์) แต่วันนี้มีโอกาสคุยกับพี่อร แบบเต็ม ๆ ก็เลยเล่าให้ฟังถึงที่มาของการเป็นสมาชิกของผู้เขียนให้พี่อรฟัง (ซึ่งพี่เพ็ญแขก็ได้เล่าให้พี่อรฟังแล้วว่าพี่เขาใส่ชื่อเราไปด้วย) เพราะตัวเองรู้สึกเขินอย่างไรก็ไม่ทราบ เนื่องจากไม่ค่อยได้ไปช่วยทำอะไรเท่าไรนัก ? พี่อรก็เลยเล่าให้ฟังบ้างว่า....
พี่เพ็ญแขเห็นว่า หากมีหลอดไฟดวงไหนที่ไม่ได้ใช้ หรือหากมีใครเปิดพัดลมทิ้งไว้ และถ้าไม่มีผู้รับบริการอยู่บริเวณนั้น ๆ พี่อรก็จะทำหน้าที่ปิดไฟ ปิดพัดลม รวมทั้งลดการเปิดลง นั่นคือแทนที่จะเปิดพัดลมทุกตัว หรือเปิดไฟทุกหลอด ก็ปิดซะบ้าง พี่อรจะทำเป็นประจำ และทำมานานแล้วด้วย พี่อรบอกว่าคิดซะว่า "ที่ทำงานก็เปรียบเสมือนบ้านของตัวเองเช่นกัน" ทำให้ผู้เขียนประทับใจมาก (อยากให้ทุก ๆ คนคิดแบบนี้บ้างจังเลย) และก็ได้แนะนำไปว่า ในเมื่อเราส่งเป็นโครงการ Patho OTOP2 เราก็ต้องร่วมกันทำงานเป็นทีม เนื่องจากทีมประหยัดพลังงานยังไม่เคยได้มีการประชุมหรือพูดคุยกันเลยระหว่างสมาชิกในทีม จึงยังอาจไม่เข้าใจกัน และจะได้จัดสรรหน้าที่ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ (ผู้เขียนบอกไปว่าแล้วหากวันไหนพี่อรไม่มา แล้วใครจะเป็นคนปิดล่ะ)
อันที่จริงบอกให้พี่อรเขียน Blog และเล่าเรื่องในบันทึกบ้าง พี่อรบอกว่ากำลังร่างอยู่ เพราะตอนนี้ OPD ก็มีคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว และได้พูดคุยกับพี่โอ๋ (อโณ) แล้วเช่นกัน แต่ผู้เขียนทนไม่ไหวก็เลยขอเขียนถึงซะก่อน แล้วคอยอ่าน Blog ของพี่อรในไม่ช้านี้น๊ะค๊ะ
ไม่มีความเห็น