กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่พริก (กองทุนวันละบาท)


      เมื่อครั้งที่ผู้วิจัยกับอาจารย์พิมพ์ได้เดินทางไปร่วมการประชุมใหญ่กลางปีของกลุ่มแม่พริก  ผู้วิจัยกับอาจารย์พิมพ์ได้รับแผ่นพับประชาสัมพันธ์มา 1 ชุด  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร  คิดว่าคงจะเหมือนแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของเครือข่ายฯ  แต่เมื่อเอามานั่งอ่านเห็นว่ามีวิธีการนำเสนอที่ไม่เหมือนกันจึงอยากที่จะเอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ  (ส่วนของเครือข่ายฯจะนำเสนอต่อไปค่ะ)

      กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลแม่พริก

   (กองทุนวันละหนึ่งบาท)

    ***********

       กองทุนสวัสดิการชุมชน  หรือคนมักเรียกกันว่า "กองทุนวันละบาท" คือ  เป็นการเก็บออมเงินไว้วันละบาท  หรือลดรายจ่ายลงวันละ 1 บาท  เก็บออมไว้รวมกัน  เพื่อให้เกิดสวัสดิการการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นในครอบครัว  เช่น  การเจ็บไข้  การเกิด  การชราภาพ  แม้กระทั่งการสูญเสียคนในครอบครัว  รวมทั้งพิการหรือทุพพลภาพ  ความเดือดร้อนจำเป็นในการใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาบุตร  แม้แต่สวัสดิการเงินกู้  (กรณีกองทุนมีการจัดให้มีกองทุนหมุนเวียน)  กรณีเมื่อมีค่าใช้จ่ายในยามจำเป็น

      สรุปแล้ว  เมื่อเรามารวมตัวกันเป็นสมาชิกกองทุนนี้ฯ  เราจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆ  คือ 

      1.การเกิด  (การคลอดบุตร)  สมาชิกที่คลอดบุตร  บุตรที่คลอดมาจะได้รับค่าทำขวัญ 500 บาท  และให้บุตรที่เกิดมาเข้าเป็นสมาชิกกองทุนฯ  และแม่ถ้านอนคลอดในโรงพยาบาลจะได้รับค่าเยี่ยมไข้  คืนละ 100 บาท  ไม่เกิน 5 คืน

      2.การแก่  (ชราภาพ) คือ  เมื่อสมาชิกอายุครบ 70 ปี  และได้ผ่านการออมมาแล้วครบ 10 ปี  สมาชิกคนนั้นไม่ต้องจ่ายเงินออม  แต่มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือสวัสดิการ  และเมื่อสมาชิกคนนั้นมีอายุ 75 ปีขึ้นไป  และได้ออมเงินมาแล้วครบ 15 ปี  จะได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 300 บาท

     3.การเจ็บ  (การเจ็บป่วย) หากสมาชิกสมัครเข้าเป็นสมาชิกครบ 180 วัน  ถ้าเจ็บป่วยต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตามแพทย์สั่ง  จะรับค่าเยี่ยมไข้คืนละ 100 บาท  แต่ไม่เกิน 5 คืน  (1 ปี จะเบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง)

     4.การตาย (การถึงแก่กรรม)  สมาชิกถึงแก่กรรมจะได้รับค่าทำศพ  ดังนี้

         - เป็นสมาชิกครบ 180 วัน  ได้รับค่าช่วยทำศพ 3,000 บาท

         - เป็นสมาชิกครบ 225 วัน  ได้รับค่าช่วยทำศพ 5,000 บาท

         - เป็นสมาชิกครบ 1 ปี  ได้รับค่าช่วยทำศพ 10,000 บาท

         - เป็นสมาชิกครบ 2 ปี  ได้รับค่าช่วยทำศพ 15,000 บาท

         - เป็นสมาชิกครบ 3 ปี  ได้รับค่าช่วยทำศพ 20,000 บาท

      5.การพิการหรือทุพพลภาพ  เมื่อเป็นสมาชิกกองทุนครบ 180 วันขึ้นไป  เมื่อร่างกายเกิดพิการหรือทุพพลภาพ  คณะกรรมการพิจารณาแล้วอาจจะได้รับเงินจ่ายทดแทนการออมจากกองทุนฯ  สมาชิกผู้นั้นจะยังมีสิทธิ์รับสวัสดิการทุกประการ

      6.ทุนการศึกษาสำหรับสมาชิกผู้ยากไร้  คณะกรรมการกองทุนสามารถพิจารณาให้สมาชิกผู้นั้นกู้ยืมเงินเป็นค่าเกี่ยวกับการศึกษาของตนเองหรือของบุตรในอุปการะได้  หรือสิ่งที่กองทุนฯได้มีการดำเนินการอยู่  และคิดดอกเบี้ยในอัตราตำ

      7.สวัสดิการคนทำงาน  ผู้ที่ทำงานเป็นคณะกรรมการดำเนินการอยู่ในกองทุนฯมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์เป็น 2 เท่า  และมีค่าตอบแทนตามระเบียบของกองทุนฯ

      การออมเงิน  รูปแบบของการออมเงินในกองทุนมี 3 แบบ  คือ

      1.การออมรายวัน  เป็นการออมวันละ 1 บาท  หรือลดรายจ่ายลงวันละ 1 บาท  ออมไว้จ่ายวันออมทุกวันที่ 1 ของเดือน

      2.การออมรายเดือน  เป็นการออมเดือนละเท่าๆกัน  เพื่อเก็บไว้เป็นกองทุนหมุนเวียนให้กู้  กองทุนฯนี้สำหรับผู้เป็นสมาชิกประสงค์จะกู้เงินในคราวจำเป็นในดอกเบี้ยขั้นตำ

      3.การออมรายปี  หรือ  เงินสมทบรายปี  เป็นการออมเงินสำหรับเป็นกองทุนกลางเก็บฝากไว้สนับสนุนการออมรายวันและการออมรายเดือน  กรณีเงินออมไม่พอจ่ายสวัสดิการต่างๆ

      การสมัครใจลาออกจากสมาชิก

      1.สมาชิกที่มีความประสงค์จะลาออกจากการเป็นสมาชิกได้โดยไม่ส่งเงินออมเกิน 3 เดือนติดต่อกัน  คณะกรรมการสามารถคัดชื่ออกจากการเป็นสมาชิก  และไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินออมคืน  (เพราะเวลาที่ผ่านมีสิทธิ์รับเงินสวัสดิการแล้ว)

      2.สมาชิกที่ประสงค์จะลาออก  สามารถลาออกได้เมื่อเป็นสมาชิกมาครบ 10 ปี  และมีสิทธิ์ได้เงินออมทุกอย่างคืน

      สมาชิกที่ลาออกหรือถูกคัดชื่ออกจากทะเบียน  ถ้าประสงค์จะเป็นสมาชิกใหม่ต้องลาออกหรือถูกคัดชื่ออกมาแล้วครบ 3 ปี  จึงจะสมัครเป็นสมาชิกใหม่ได้

      การขอรับเงินสวัสดิการต่างๆ  สมาชิกที่มีสิทธิ์ขอรับเงินสวัสดิการจะยื่นขอรับเงินสวัสดิการต่างๆนั้นได้ทุกวันที่ 1 ของเดือน  (เป็นวันออม)

      1.การขอรับเงินค่าทำขวัญบุตร  ให้บิดา  มารดา  ของบุตรเป็นผู้ติดต่อ  บุตรสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินออมเป็นเวลา 1 ปี กับ 6 เดทอน  มารดาที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลติดต่อขอรับเงินได้ในวันที่ 1 ของทุกเดือน  พร้อมใบรับรองแพทย์

      2.ผู้ชราภาพ  อายุครบ 70 ปี  ออมมาแล้ว 10 ปี  ให้แสดงสมุดคู่ฝากต่อกรรมการในวันออมทุกเดือน  และผู้ชราภาพอายุ 75 ปี  ออมมาแล้ว 15 ปี  มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญชราภาพ 300 บาทต่อเดือน  ซึ่งต้องมารับเงินที่กองทุนฯด้วยตนเอง

      3.ผู้ที่เข้านอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลให้นำใบรับรองแพทย์มาติดต่อขอรับเงินค่าเยี่ยมไข้ใด้ทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน  พร้อมใบรับรองแพทย์

      4.ทายาทผู้ขอรับเงินค่าช่วยทำศพให้นำเอกสารต่างๆติดต่อขอรับเงินได้ทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน

    

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 29416เขียนเมื่อ 18 พฤษภาคม 2006 15:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 14:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
รู้สึกตื่นเต้นมากครับสำหรับแนวทางการออมทรัพย์วันละบาท ตั้งใจจะขอเรียนรู้และนำไปปฏิบัติ ผมอยู่ในจังหวัดเลยครับผมทราบเรื่องจากการไปร่วมประชุมกับ พมจ.จังหวัดเลย ได้เห็นวีดีทัศน์รู้สึกว่าสนใจอย่างมากครับ ปัจจุบันผมเป็นผู้จัดการสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านเบธาเนียในจังหวัดเลย อยากจะมีส่วนช่วยคนในชุมชนในจังหวัดเลย ที่ผมรักให้เขามีพอกินพอใช้ จริงๆแล้วผมเป็นคนกทม.แต่มาจังหวัดเลยได้สิบปีแล้ว ขอคุณสำหรับสิ่งดีๆที่ท่านมอบให้สังคมของเรา

ดูรายละเอียดโครงการ

อยู่ อ.พล จ.ขอนแก่น ลาออกแล้วได้เงินแค่ 30%เองครับ ไม่รู้ว่าอีก 70% ไปไหน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท