หม่อง ทองดี: ความฝันที่ถูกมหาดไทยตัดปีก


 

 

ยังมึนงงอยู่เมื่อได้อ่านข่าวว่า มท. “ช่วย” ดช. หม่องไม่ได้  เริ่มงงว่า มท. เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า หยิบข้อคิดเห็นทางกฎหมายที่เพิ่งได้มาอ่านอีกครั้ง และอีกครั้ง กูเกิ้ลหาเรื่องการดำเนินการของอาจารย์อายุ นามเทพ ที่ได้ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งตอนนี้ก็มีการขออนุญาตเดินทางออกนอกพื้นที่กับมหาดไทย  ขอหนังสือเดินทางฉุกเฉินจากกระทรวงต่างประเทศ  ที่จำได้ว่าไปทำกันที่เเจ้งวัฒนะ ขอ Visa ที่สถานทูตออสเตรีย (เป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด) ขอ re-entry  Visa กลับเข้าประเทศไทย ทีมงานบางคนก็ได้ไปส่งอาจารย์ที่ดอนเมือง  ถึงวันนี้อาจารย์อายุ ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย เเม้ท่านจะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ แต่ท่านก็ได้เดินทางไปทำหน้าที่ผู้ควบคุมวงประสานเสียงของนักศึกษาไทย แม้ท่านจะเป็นคนไร้สัญชาติ

 

หลังจากเรื่องอาจารย์อายุผ่านไป ก็คิดว่าตอนนี้น่าจะมีเเนวทางที่เเน่นอนในการให้คนไม่มีสัญชาติ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ได้รับการบันทึกในทะเบียนราษฎร สามารถเดินทางออกนอกประเทศเพื่อเป็นตัวเเทนไปทำ      ประโยชน์เเละสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และเดินทางกลับมาโดยสวัสดิภาพ

 

เรื่องของ ดช. หม่อง ทองดี น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน เพราะอาจใช้เเนวทางจากอาจารย์อายุ จริงอยู่ เรื่องการ "ขอ” สัญชาติไทย ให้ ดช. หม่อง ตามกฎหมายอาจเป็นไปได้ยาก เพราะข้อกฎหมายยังไม่สามารถให้สัญชาติไทยได้ทันที  แต่เรื่องสิทธิในการเดินทางของ ดช.หม่อง เพื่อเป็นตัวเเทนประเทศไทย กลับซับซ้อน ยอกย้อนกว่า

 

หลังจากวันเเรกๆ ที่เรื่องของ ดช. หม่องออกสู่รายการโทรทัศน์เเละหนังสือพิมพ์  ประเด็นหลักที่กระทบใจผู้อ่านอย่างเเรงคือ ข้อสันนิษฐานวาการที่เด็กอายุ 12 ปีคนหนึ่งพับเครื่องบินกระดาษได้เป็นเเชมป์ประเทศไทย เป็นภัยความมั่นคง  สื่อต่างๆ ได้ถ่ายทำเเละสัมภาษณ์เรื่องของ ดช. หม่อง ซึ่งเพียงแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง ที่พับเครื่องบินกระดาษได้ไม่ธรรมดา ทั้งยังตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อทำหน้าที่ตัวเเทนประเทศไทยให้ดีที่สุด ทั้งๆ ที่ เขาเป็นคนไร้สัญชาติ เช่นเดียวกับอาจารย์อายุ เเต่ก็มีหน่วยงานหลายเเห่งในประเทศไทย พยายาม "ยัดเยียด” สัญชาติพม่าให้เด็กชายที่เกิดในประเทศไทย จากพ่อเเม่ที่เป็นคนไร้สัญชาติ

 

จากประเด็นเร่งด่วนเพื่อขออนุญาต "เดินทาง"ไปแข่งขันเครื่องร่อนกระดาษที่ประเทศญี่ปุ่น ถูกพลิกไปเป็นประเด็น ขอ "สัญชาติ"   ซึ่งเเน่นอน การจะขอสัญชาติให้ ดช. หม่อง ยังเป็นเรื่องค่อนข้างห่างไกล เมื่อเทียบกับกำหนดการเดินทาง ไปประเทศญี่ปุ่นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  เสียงโต้เเย้งที่ดังมาจาก "เจ้าหน้าที่" กระทรวงมหาดไทย ไม่ได้ตอบประเด็นเรื่องการเดินทาง เเต่กลับออกมาตอกย้ำเรื่องความเป็นอื่นของ ดช. หม่อง  ทั้งยังคงพยายามให้สาธารณชนเข้าใจว่า ดช.หม่องเป็นเเรงงานต่างด้าวที่มีสัญชาติพม่า ดังนั้นการอนุญาตให้ ดช.หม่องเดินทางออกนอกประเทศ  รวมทั้งการให้สัญชาติที่อาจเป็นไปได้ในอนาคตผิดกฎหมาย ประเด็นสัญชาติถูกขับเน้น จนกลายเป็นเรื่องใหญ่กว่าความจำเป็นที่ ดช. หม่องต้องการขออนุญาตเดินทาง

 

จุดคลี่คลายดูเหมือนจะมาถึง เมื่อสื่อมวลชนนำเสนอว่า กระทรวงต่างประเทศพร้อมที่จะออกหนังสือเดินทางให้ หากกระทรวงมหาดไทยรับรอง  คุณครูจึงพา ดช. หม่องมาเพื่อพบเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ทางจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ อำนวยความสะดวกเรื่องอนุญาตให้ ดช. หม่องเดินทางมาเพื่อติดต่อเรื่องที่กรุงเทพฯ  เรื่องราวดูเหมือนจะดีขึ้นเมื่อวันที่ 30-31 สิงหาคม  เมื่อมีสัญญาณว่ากระทรวงมหาดไทย จะพิจารณาเรื่องการเดินทางของ  ดช. หม่องตามกฎหมาย ซึ่งถ้าพิจารณาจากกรณีของอาจารย์อายุ ผู้อนุมัติให้อาจารย์อายุเดินทางออกนอกประเทศเเละได้รับ re-entry   visa ให้เดินทางกลับประเทศไทย คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จากนั้น อาจารย์อายุก็ไปทำหนังสือ เดินทางฉุกเฉิน  เพื่อเดินทางไปประเทศออสเตรีย 

 

เช้าวันที่ 2  กันยายน ภาพข่าวหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เสนอข่าวน้องหม่องเเละอาจารย์นายดวงฤทธิ์ เกติมา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เดินทางขึ้นเครื่องบินมาที่กรุงเทพฯ เพื่อพบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย ข่าวว่ากระทรวงต่างประเทศพร้อมออกหนังสือเดินทาง ทำให้กองเชียร์หลายคนโล่งอกไปบ้าง แต่หลังจากพบกับตัวเเทนกระทรวงมหาดไทย เเละได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ รมต. มหาดไทย กลับทำให้รู้สึกว่า เครื่องบินกระดาษของ ดช.หม่อง ที่บินมาจากเชียงใหม่ ตกหลุมอากาศที่มหาดไทยอย่างเเรง  (http://news.mcot.net/social/inside.php?value=bmlkPTExMzAxNyZudHlwZT10ZXh0) (http://www.komchadluek.net/detail/20090902/26945/ไม่แปลงสัญชาติให้ด.ช.หม่องแข่งพับกระดาษที่ญี่ปุ่น.html)

 

เด็กที่มีศักยภาพคนหนึ่ง ถูกปฏิเสธให้ใช้เเละเเสดงศักยภาพ ทั้งๆ ที่ศักยภาพของเด็กคนนี้ เเละเด็กไร้รัฐไร้สัญชาติอีกหลายคน คือทุนมนุษย์ของสังคมไทย เเต่เขากลับถูกผลักไสไล่ส่งทั้งๆ ที่มีศักยภาพ เเละศักยภาพนี้ก็ได้รับการฟูมฟัก ดูเเลจากครูไทย โรงเรียนไทย หากห้ามไม่ให้เขาใช้ศักยภาพเพื่อประเทศไทยแล้ว จะให้เด็กเหล่านี้ไปใช้ศักยภาพเพื่อประเทศไหน จะให้เขาไปเเข่งขันในนามตัวเเทนประเทศพม่า ทั้งๆ ที่ประเทศไทยดูเเลให้การศึกษาเด็กเหล่านี้มาหรือ?

 

บ่ายวันที่ 2 กันยายน  ข่าวออกมาว่า มท. ไม่สามารถให้ "ช่วย" ดช.หม่องได้ 

(http://www.posttoday.com/breakingnews.php?id=64791)

 

อยากให้ "ท่าน" ที่ตัดสินใจเช่นนี้ตระหนักและทบทวนว่าท่านจะทำอย่างไร ที่จะมิให้ศักยภาพของเด็กในสังคมไทยสูญเปล่า สิทธิการเดินทางเป็นสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ หากท่านอนุญาตให้ ดช. หม่องเดินทางเพื่อทำคุณประโยชน์ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้เช่นเดียวกับกรณีที่เเล้วมา ประเทศไทยมีเเต่ได้กับได้ 

 

อย่าให้เรื่องที่ควรจะจบลงด้วยดี เป็นเรื่องเศร้าเเละรอยเปื้อนที่ซักไม่ออกของมหาดไทย

 

19:30 น.

 

2 กันยายน  2552 

 

 

หมายเหตุ รายละเอียดความคิดเห็นทางกฎหมายระบุว่า

 

"(7.) ผู้มีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตให้สิทธิเดินทางออกนอกประเทศไทยแก่เด็กชายหม่อง

 

เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่า เด็กชายหม่อง ทองดี ไม่มีสัญชาติไทย สิทธิในการเข้าเมืองและอาศัยอยู่ในประเทศไทย ย่อมเป็นไปตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  และเมื่อฟังได้ว่า เด็กชายหม่อง ทองดี เป็นคนไร้สัญชาติในทะเบียนราษฎรไทยที่มีสิทธิอาศัยตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งรักษาการตามกฎหมายนี้ ย่อมมีอำนาจหน้าที่จะอนุญาตให้สิทธิเดินทางเข้าและออกประเทศไทยได้อย่างแน่นอน"  อาจารย์แหววฟันธง (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1251883090&grpid=01&catid=no)

 

หมายเลขบันทึก: 293722เขียนเมื่อ 2 กันยายน 2009 20:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณมากครับ บันทึกนี้เป็นจุดเริ่มต้นของบันทึก "หม่อง ทองดี" เด็กชายผู้ไร้ "ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์" บนผืนแผ่นดินไทย ที่ฟังข่าวแล้วรู้สึกว่าอยากเขียนบันทึกต่อ ;)

ผมชื่อชัยชนะครับผมอย่ากถามเกี่ยวกับเรื่องที่เด็กเกิดในประ เทศไทย สัญชาติพม่า

ถ้ารูก็ขอให้ต่อเบอร์นี้0817063244

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท