วันนี้ผมไปทำหน้าที่วิทยากรกระบวนการกลุ่มของการประชุมระดมสมองวิทยากรกลางภาคใต้ “Healthy Thailand” ที่โรงแรมเจบี หาดใหญ่ ขณะที่ทำหน้าที่ทั้งช่วงเช้าและบ่าย ไม่เป็นไรครับ ใช้ภาษาถิ่น กับกลุ่มในจังหวัดเดียวกัน “ซัดภาษาใต้แบบเมืองลุง” กันเต็มที่ ไม่มีทองแดงหล่น เพราะได้พูดตามที่ถนัด
พอช่วงเย็น ก็ต้องออกไปนำเสนอสรุปผลการระดมสมอง บนเวที ที่นี้ต้องพูดภาษากลาง จริง ๆ นะหากพูดแล้วรู้ว่าคนฟังฟังเป็นสากล ก็ไม่เท่าไหร่ พูดได้ อาจจะมีบางคำพูดไม่ชัด แต่ก็ไม่เคอะเขินอะไร แต่เวลาพูดให้คนฟังเขาฟัง โดยที่เรารู้อยู่เต็มอกว่าส่วนใหญ่นะเป็นคนใต้ ตรงนี้แหละครับที่มักจะหลุด “ทองแดง” ออกมา วันนี้ก็เช่นกัน บรรยากาศนี้เลยเช่น
“กลุ่มจังหวัดพัทลุง ที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ เราได้แหลง (พูดคุย) กันจนตลกผลึกได้ว่า...”
“ทุกวันนี้เวลาจะพูดคุยกัน ก็ต้องจ่ายเบี้ย (เงิน) ไม่เหมือนเมื่อก่อน...”
“ข้อหนึง (ข้อหนึ่ง) เราจะเตรียมดินและหน่อปลูก...”
“เราต้องทำให้ชับ ๆ (เอาจริงเอาจัง หรือมั่นคง) เพื่อความยั่งยืน...”
จากตัวอย่างที่ยกมา ผมพูดเผลอไปบ่อย ๆ แต่ในอยู (ปัจจุบัน) ไม่เขินแล้ว ใครจะยิ้มเมื่อฟังผมก็พูดสู้ ๆ ไปเรื่อย จะทองแดงบ้างก็ช่าง...นะ
แหลงยังไฮ ๆ ก้อยังมีกลิ่นอายของคนต้าย ยังไฮ ๆ ก็ยังรักความเป็นต้าย...เพราะภาษาต้ายมันโยในสายเลือดเสียแล้วนิ ทำพรื้อด้ายมันแหลงกลางไม่ซับ ซัดต้ายไปเลยเพ่
ถอดความจาก คห.คุณขจิต (ของแท้เมืองลุง)
เปื้อน ๆ มานี่หีด ตีท่าวหรั้ยแล้ว
เราว่าจะเข่รถไฟหลบบ้าน
นัดกันตีสาม (ต้องขยายความต่อว่าปาใด
หวันเย็น หรือแค่รุ่ง)
เข่รถ (ทุกชนิด) ขาไม่ถ่าง เพราะรถไอ้ไหร
กะเข่ทั้งเพ (ชินแล้ว)
เพิ่งทราบว่า คุณชายขอบ มีภาษาทองแดงเป็นสมบัติส่วนตัวด้วยเหมือนกัน อุไรวรรณก็แอบบันทึกไว้หลายบันทึกเหมือนกัน แต่ตีพิมพ์ไปได้บันทึกเดียว เพราะยังหาทางเข้าชุมชนไม่ได้ ไม่ต้องกลัวค่ะ เราไม่เป็นคู่แข่งกันแน่ เพราะ เปอร์เซ็นต์ทองแดงเราต่างกัน เอ๊ยไม่ใช่ เราบันทึกกันคนละสไตล์ ช่วยติดตามนะคะ