พลังแห่งความรัก...ในการบำบัด


เรียนรู้ที่จะจัดการตนเองต่อไปได้ และยืนอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเข้มแข็งต่อไปในชีวิต

       จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนได้ดูหนังเรื่อง Beautiful day เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคจิตเภท หรือ schizohrenia ท่านนักวิทยาศาสตร์ท่านนี้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาคณิตศาสตร์ หรือฟิสิกส์นี่แหละก็จำไม่ได้แน่ชัด(ลืมเลือน-หากท่านใดจำได้ช่วยเตือนความทรงจำหน่อยนะคะ)เรื่องราวหรือ สิ่งที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยท่านนี้สะท้อนในเห็นอะไรบางอย่างของความเป็นไปใน "มนุษย์"...ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องพลังแห่งความรัก...เพราะในตอนท้ายเรื่องเขาอาการดีขึ้นและหายจากโรคที่เจ็บป่วยนี้ด้วยพลังรักจากคนดูแล (care giver) คือ ภรรยาของเขาเอง ที่ดูแลใส่ใจด้วยความรักด้วยความเข้าใจในความเป็นไปและการดำเนินของภาวะการเจ็บป่วยทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับเขา

       จากภาพยนต์เรื่องนี้..ทำให้ต้องมานั่งนึกทุกทีที่..เวลานึกถึงงานที่ทำในผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตและจิตเวช เพราะอะไรทำไมผู้ป่วยโรคเรื้อรังเหล่านี้เขาถึงได้พากันป่วยนานเหลือเกินเป็นสิบๆ ปีก็มีและมีค่อนข้างเยอะ...จริงแล้วก็ค่อนข้างจะใช้พลังใจอย่างเยอะมากต่อการดูแลและให้การช่วยเหลือคอยให้เขาฝ่าฟัน..ความทุกข์ที่มีอยู่ในใจเขาออกไปให้หมด..และทำให้ได้ ครอบครัวใดที่มีผู้ป่วยครอบครัวนั้นญาติผู้ดูแลก็จะมีปัญหาสุขภาพจิตตามมาด้วย เช่น เครียด นอนไม่หลับ วิตกกังวล..สารพันปัญหารุมเร้าเข้ามาหาทางออกไม่ได้ บางครั้งเราผู้บำบัดต้องคอยบำบัดทั้งผู้ป่วยและญาติด้วยไปพร้อมๆ กัน หากในครอบครัวใดมีสภาพปัญหาในลักษณะนี้ก็ค่อนข้างที่จะหนักหนาสาหัสพอสมควรในการฟื้นฟูสภาพการเจ็บป่วย แต่ด้วยหน้าที่ที่เรามุ่งมั่นที่อยากจะเห็นเขาเหล่านั้นดีขึ้น ผู้ช่วยเหลือหรือผู้ให้คำปรึกษาก็ต้องพยายามหาแนวทางและกระบวนการในการดูแลช่วยเหลือ...

       ทุกวันนี้สิ่งที่เราๆ..ผู้ให้คำปรึกษา ปฏิบัติต่อผู้ป่วยของเราทุกคน..จะทำด้วย"ความรัก"..ความจริงใจ มองไปที่ความเป็นมนุษย์ของเขา เพราะจริงๆ แล้วเขาก็พูดคุยสื่อสารกับเรารู้เรื่อง เมื่อเขาเรียนรู้ที่จะไว้วางใจเรา เราก็ต้องควรที่จะคงสภาพแห่งความไว้วางใจนั้นไว้ไม่ให้สูญหาย เพราะนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่เขาเปิดประตูให้เราเข้าไปเพื่อรับรู้ ร่วมมือช่วยเหลือกันและกัน..ให้คลี่คลายปัญหาที่ทุกข์และเป็นอยู่ในจิตใจ ต่อไปให้เขาสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการตนเองต่อไปได้ และยืนอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเข้มแข็งต่อไปในชีวิต

 


 

หมายเลขบันทึก: 29054เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2006 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
เขาเป็นนักคณิตศาสตร์นะคะ แบบว่าน่าสงสาร เหมือนตัวเดี๊ยนเลยคะ ถือว่าเป็นโรคจิตมั๊ยคะ ที่คอยย้ำคิด ย้ำทำ ระลึกแต่เรื่องเดิมๆๆ ไม่ยอมแยกกระบวนการคิดออกจากกันเอาเสียเลย ทำใจได้สักพัก เวลาอ่อนแอมาอีกแระ ....ช่วยเดี๊ยนด้วยเคอะ ^_^!!

คุณ"thaibannok"

ขอบคุณนะคะ...ใช่แล้ว!เขาเป็นนักคณิตศาสตร์...

หากเมื่อใดเราใช้แห่งห้วง"รัก"..ดูแลใจที่ป่วย..ร้าว..

ใจ..นั้น..ก็จะฟื้น..สู่สภาพแห่งรัก..ได้อีกครั้ง...

ปล่อยวาง..ปล่อยใจ นำความหลังเป็นสิ่งตราใจ..

ไว้เพียงเท่านั้น...แล้วก้าวเดินไป...ในวันข้างหน้า

 

     "รัก" เป็นยารักษา เป็นวัคซีนป้องกัน เป็นแผนปฏิบัติเพื่อการฟื้นฟู และส่งเสริม...ชีวิต สำคัญ...มาก
     ชีวิตอยู่ได้เพราะมีความหวัง และความรัก

คุณ"ชายขอบ"

รักแล้วต้องแสดงออกซึ่งความรักนั้น

ให้.."เขา"...ได้รับรู้และสัมผัสได้..ในเชิงบวกด้วยนะคะ

ท่าจะดีกว่า...ไหมคะ

เห็นด้วยกับคุณ Dr .Ka-Poom เรื่องพลังของความรักค่ะ

ในความรักมีความเอื้ออาทรที่ทำให้คนๆหนึ่งรับรู้ถึงความห่วงใยความช่วยเหลือ และทำให้เกิดการตระหนักถึงการดูแลตัวเองค่ะ

คุณ"jc"

ดีใจมากเลยคะที่ เข้ามาแล้วมาเจอ คห. คุณ jc คิดว่า...

เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ในบันทึกนี้ของ Dr.Ka-poom

ขอบคุณมากๆ นะคะ ท่านมา"ด้วยความรัก"จริงๆเลยคะ

ความรัก.....อยู่ในจินตภาพ

คณิตศาสตร์............มีทั้งจำนวนจริงและจำนวนจินตภาพ

แต่สามารถพิสูจน์และอธิบายปรากฎการณ์ของ...ธรรมชาติได้

คุณ"ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม"

ทิ้งรอย"ไร้นาม"...เหรอคะ

อ่าตามกันเจอจนได้

สมกับเป็น Dr .ka-Poom เจรงๆ

กระโดดลงโบกี้ไปหลายวันล่ะ  อ๊ะ รถไฟแล่นเร็ว กว่าจะเห็นชุดสีชมพูกลิ่นกุหลาบ ต้องอาศัยมองหาพุงคุณชายขอบกับกลิ่นหมูหวานให้เจอก่อน (ฮา)

แว่บมาโบกมือหยอยๆ ริมทางให้แล้วเด้อผู้สาวคนเก่ง

 

 

ยิ้มๆ...

โบกมือหยอยๆ..จะไปชายแดนเหรอคะ

หากกลับมา..แวะเวียนเยี่ยมกันบ้างนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท