ชีวิตที่พอเพียง : 21. ขนมไทย


• วันนี้ (๗ พค. ๔๙) ภรรยาเชื่อมกล้วยให้กิน (ดูรูป) จึงมีเรื่องชีวิตที่พอเพียงมาเล่าสู่กัน

                                

                                   กล้วยเชื่อมฝีมือศาสตราจารย์
• กล้วยน้ำว้าซื้อจากคุณยายอายุเกือบ ๘๐ ที่วัดบางพังเมื่อวานนี้    เป็นกล้วยสวน กินอร่อย     คุณยายเป็นอัมพฤกษ์ ต้องให้หลานเอาขึ้นรถเข็นมาขายของที่ศาลาหน้าท่าน้ำที่คนชอบมาดูปลา เลี้ยงปลา
• น้ำตาลที่ใช้เชื่อมกล้วยเป็นน้ำตาลมะพร้าวซื้อมาจากสมุทรสงคราม    ทำให้กล้วยเชื่อมสีสวยและรสหวานหอม    อร่อยกว่าใช้น้ำตาลทรายมาก    ที่จริงถ้าใช้น้ำตาลโตนดจะยิ่งหอม  
• ผมกินกล้วยเชื่อมโดยใช้วิชาจิบชาที่ได้มาจากโรงเรียนแพทย์ฉือจี้ เมืองหัวเหลียน ไต้หวัน     เป็นการกินโดยใช้ “ความรู้”  หรือกินโดยใช้สติและปัญญา
• ก่อนกิน ผมนึกถึงบุญคุณของภรรยาที่ทำขนมนี้ให้กิน    คิดถึงบุญคุณของคุณยายผู้ขายกล้วย   บุญคุณของผู้ปลูกกล้วย    ผู้ทำน้ำตาลมะพร้าว  ฯลฯ    ท่านเหล่านี้มีส่วนทำให้ผมได้กินกล้วยเชื่อมที่แสนวิเศษในวันนี้    ผมนึกถึงการทำน้ำตาลมะพร้าวว่าต้องขึ้นไป “ปาดตาล” เก็บกระบอกน้ำตาล    เคี่ยวน้ำตาล  ฯลฯ มีขั้นตอนมากมาย    มี “ผู้มีพระคุณ” มากมาย ที่ทำให้ผมได้กินกล้วยเชื่อมจานนี้    ผมเข้าใจว่า นี่คือการปฏิบัติธรรมหลายข้อ    เป็นการฝึกฝนจิตใจของเราให้อ่อนโยน   ละเอียดอ่อน    การระลึกถึงบุญคุณของผู้อื่นทำให้เราเคารพและเห็นคุณค่าของผู้อื่น    เป็นการขัดเกลาอติมานะของเราในทางอ้อม
• มีเคล็ดลับในการกินให้อร่อยอยู่อย่างหนึ่ง คือต้องกินตอนร้อนๆ หรือยังอุ่นอยู่    อย่าปล่อยให้เย็น กล้วยจะแข็ง ไม่อร่อย
• ผมชอบกินขนมไทยมากกว่าขนมฝรั่งสมัยใหม่    นี่คงเกิดจากความเคยชินสมัยเด็ก    เมื่อวานก็ได้กินขนมถ้วยแบบโบราณที่ร้านริมน้ำในวัดกู้    รู้สึกอร่อยมาก โดยที่ต้องเตือนตัวเองว่าอย่ากินมากเพราะมีกะทิมะพร้าวราดหน้าอยู่    ขนมจาก ขนมตาล ขนมกล้วย ลอดช่องไทย ลอดช่องสิงคโปร์ นี่ของโปรดของผมทั้งนั้น
• เค้ก โดนัท ฯลฯ ผมไม่ชอบ    ถ้ามีให้เลือก ผมเลือกขนมไทย    ขนมฝรั่งผมไม่ค่อยสนใจ จึงไม่ค่อยรู้จักชื่อ    แต่ถ้าไม่มีให้เลือก ผมกินได้ทั้งนั้น เพราะผมฝึกตัวให้เป็นคนกินง่าย อยู่ง่าย    มีความสุขง่าย --- แบบพอเพียง 
• ขนมไทยมักมีกากเยอะ   เป็นอาหารสุขภาพ    ที่เราชอบกันมากในครอบครัวผม    หาโอกาสทำกินกันอยู่เสมอ คือกล้วยอบ   ใช้กล้วยน้ำว้าห่ามมากๆ    ปอกเปลือกชุบน้ำเกลืออ่อนๆ แล้วอบในหม้ออบไฟฟ้า    ให้ส่วนนอกแข็งกรอบ เนื้อในสุกแบบนุ่ม กินตอนยังอุ่นอยู่ อร่อยมาก เป็นทั้งอาหารสุขภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง คือประหยัดมากครับ

วิจารณ์ พานิช
๗ พค. ๔๙

หมายเลขบันทึก: 28824เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2006 08:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 23:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อ่านเรื่องของอาจารย์แล้วนึกถึงเรื่องการปาดตาล และเก็บตาลของคุณพ่อ ท่านเล่าว่า ตาลที่เก็บมาและเก็บไว้ที่กระบอกตาลนั้น หากนำเปลือกพะยอมใส่ลงไปในกระบอกตาล จะให้ตาลมีรสหอมหวานและเก็บได้นานขึ้น ตอนสมัยยังเป็นเด็ก คุณพ่อมักจะทำขนมไทยๆทานกันในครอบครัว (ลูกมาก) เช่นขนมตาล ซึ่งสมัยนี้หาที่อร่อยๆได้ยาก มีขั้นตอนการทำที่สนุกสนานสำหรับเด็ก เช่นการยีลูกตาล การหมักตาลให้ขึ้น (สมัยนี้เราใช้ผงฟูผสมแป้ง) การทำขนมทานกันเอง นอกจากจะประหยัดแล้ว ยังสร้างสัมพันธ์ที่ไม่รู้ลืมแม้เวลาจะผ่านไปกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม

ดิฉันชอบขนมไทยเหมือนกัน ปกติอาหารหรือขนมที่ต้องใช้เวลาและความประณีต สามีจะเป็นคนทำค่ะ
เวลาไปอบรมอยากให้เขาจัดขนมไทยเป็นอาหารว่างจัง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท