๑. แม่ : มือแห่งเมตตาธรรม


"...ทำให้ชาวบ้านซึ่งแต่ละครอบครัวมีลูกน้อยลงมักเลือกกัดฟันส่งลูกไปเรียนในตัวอำเภอซึ่งไกลจากหมู่บ้านพัยง ๗-๘ กิโลเมตร ทำให้โรงเรียนมีเด็กๆเหลือเพียง ๗๐-๘๐ คน ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมเป็นเด็กๆจากครอบครัวที่ยากจน กำลังทางเศรฐกิจต่ำ ความสามารถทางการเรียนแบบที่เป็นทางการมีข้อจำกัด และไร้โอกาสต่างๆอีกมากมาย ผมรู้สึกเหมือนกำลังได้แบ่งปันความรักของแม่กับเด็กๆและผู้คน..."

ผมลาออกและเป็นข้าราชการบำนาญ แล้วก็กะว่าจะทำงานในระบบอีกสักสองสามปีเพื่อทำกิจต่างๆให้เรียบร้อย หากถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆที่คนเขาสนใจและใช้ทำงานให้กับสังคมได้ ก็จะทำเท่าที่เหตุปัจจัยทั้งหลายจะเอื้อให้ทำ จากนั้นก็จะไปเป็นคนเร่ร่อนในชีวิตบั้นปลายสักหน่อย 

กระนั้นก็ตาม ก็ทำให้ได้เงินบำนาญรายเดือนจากการสะสมของตนเองมาตลอดชีวิตราชการได้หมื่นกว่าบาทนอกเหนือจากเงินเดือนในฐานะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยไปด้วย เลยไปเข้าเกณฑ์โครงการเช็คช่วยชาติของรัฐบาล ในนโยบายให้เงินอุดหนุนสองพันบาทแก่ผู้มีรายได้ต่ำกว่าหมื่นห้าพันบาทต่อเดือน

ผมคิดว่าผมเข้าใจและทราบมาตรการเชิงนโยบายประชานิยมอย่างนี้ดีว่า ด้านหนึ่งก็ทำเพื่อได้ใจจากประชาชนและหาเสียงสนับสนุนจากข้าราชการและคนใช้แรงงาน ทว่า อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นมาตรการขยายกำลังซื้อของสังคมให้ไปเคลื่อนพลังการผลิตและระบบตลาด รวมทั้งวงจรต่างๆในสังคมเศรษฐกิจที่กำลังแย่ไปทั่วโลก ให้บรรเทาจากภาวะวิกฤติต่างๆพร้อมไปกับการได้ให้สวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทางอ้อม

อันที่จริงผมไม่อยากรับเลยเพราะผมน่าจะอยู่ในภาวะที่ดีกว่าคนส่วนใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก แต่การไม่ไปรับหรือการรับมาแล้วคืนนั้น ทั้งการทำราชการมากว่า ๒๐ ปีและการเป็นผู้บริหารหลายระดับในหน่วยปฏิบัติงานเล็กๆในระบบใหญ่ ก็ทำให้ผมทราบและตระหนักเป็นอย่างดีว่า มันจะทำให้เกิดต้นทุนความสูญเสียในระบบที่ไม่เห็นเป็นตัวเงินมากกว่า ๒ พันบาทที่ผมอยากคืนให้กับสังคมเสียอีก ผมจึงตัดสินใจรับเช็คช่วยชาติ ๒ พันบาทและหาทางคิดทำอย่างอื่นที่ดีกว่า

ผมคิดว่า ผมควรจะทำให้วงจรการใช้เงินสองพันบาทนี้มีความหมายที่สุดโดยวิธีการใช้เงินให้ออกไปหมุนให้เกิดกระบวนการทางสังคม พร้อมทั้งทำให้คนได้การเรียนรู้และมีความสุขความรื่นรมย์ผ่านการทำกิจกรรมในหน่วยเล็กๆของสังคมที่เราพอมีกำลังลงมือทำ ผมเลยมองหาว่าผมจะนำเอาเงิน ๒ พันบาทนี้ไปทำอะไรได้บ้าง

ผมนึกถึงกิจกรรมได้หลายอย่างและหนึ่งในนั้นก็คือผมจะกลับไปจัดกิจกรรมให้แก่เด็ก โรงเรียนและชุมชนที่บ้านเกิด อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ โดยสมทบเข้ากับเงินอีกเล็กน้อยจำนวนหนึ่งที่ผมสะสมไว้อยู่แล้ว ผมโทรศัพท์ไปคุยและหาโอกาสขายความคิดนี้กับแม่ว่าแม่อยากทำอะไรบ้างไหม กับเด็ก กลุ่มผู้สูงอายุ โรงเรียนและเด็กๆ หรือกิจกรรมสุขภาพของประชาชนในชุมชน เลยทำให้ได้ทราบว่าแม่ก็กำลังทำกิจกรรมให้กับเด็กๆอยู่พอดี เป็นกิจกรรมที่แม่ทำเนื่องในวันแม่

แม่บอกว่าไปซื้อเส้นขนมจีนมา ๒ เข่งและกำลังทำน้ำยากระทิ เพื่อวันรุ่งขึ้นก่อนเป็นวันหยุดในวันแม่นั้น แม่จะได้ไปเลี้ยงเด็กๆและคุณครูที่โรงเรียนในชุมชนของเราที่เป็นบ้านเกิดของผมคือโรงเรียนวันครู(๒๕๐๔) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สร้างขึ้นจากเงินบริจาคของครูเพื่อสร้างโรงเรียนเป็นที่ระลึกในวันครูเมื่อปี ๒๕๐๔  อีก ๒ ปีก็จะก่อตั้งมาได้ครึ่งศตวรรษแล้ว

ผมเรียนจบประถมต้นมาจากโรงเรียนนี้ แต่ปัจจุบันนี้ ถนนหนทางสะดวกมาก ทำให้ชาวบ้านซึ่งแต่ละครอบครัวมีลูกน้อยลงมักเลือกกัดฟันส่งลูกไปเรียนในตัวอำเภอซึ่งไกลจากหมู่บ้านเพียง ๗-๘ กิโลเมตร ทำให้โรงเรียนมีเด็กๆเหลือเพียง ๗๐-๘๐ คน

แน่นอนว่าเด็กนักเรียนที่เหลืออยู่ไม่ถึง ๑๐๐ คน ย่อมเป็นเด็กๆจากครอบครัวที่ยากจน กำลังทางเศรฐกิจต่ำ ความสามารถทางการเรียนมีข้อจำกัด และไร้โอกาสต่างๆอีกมากมาย การที่แม่นึกถึงเด็กๆในสภาวการณ์อน่างนี้ จึงทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังได้แบ่งปันความรักของแม่กับเด็กๆอย่างเป็นครอบครัวขนาดใหญ่

                          

แม่ทำอาหารและขนมอร่อย ยิ่งขนมจีนน้ำยาแล้วละก็ เป็นที่ถูกปากทั้งญาติพี่น้องและชาวบ้านไปทั้งหมู่บ้าน รวมทั้งทำให้ผม พี่ และน้องเมื่อตอนเป็นเด็ก เป็นมิตรกับงานบ้านและการทำครัวของแม่เพราะต้องการคลุกคลีและใช้แรงงานเป็นลูกมือแลกกับการได้กินของอร่อยๆ

ยิ่งในวันโกนแล้วละก็ จะเป็นวันที่ทำให้ทั้งบ้านของเราคึกคักตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทั้งน่าเบื่อและดึงดูดใจระคนกัน

น่าเบื่อเนื่องจากจะเป็นวันที่ไม่ค่อยปลอดโปร่งสำหรับออกไปเล่นทะโมนกับเพื่อนๆ และดึงดูดใจเนื่องจากเป็นวันที่จะต้องได้กินขนมอย่างใดอย่างหนึ่งที่แม่จะต้องทำขึ้นมา

วันโกนเป็นวันที่แม่จะต้องเตรียมทำขนมไปวัดในวันพระ ต้องแช่แป้ง ขูดมะพร้าว ก่อไฟทั้งไฟฟืนและเตาถ่าน โม่แป้งด้วยโม่หินและหมุนด้วยแรงมือทีละนิด พอค่ำลง นอกชานกลางบ้านก็จะเป็นห้องปฏิบัติการทำขนม

พวกผมพี่ๆน้องๆ ๗ คนก็จะหาเรื่องเป็นลูกมือเพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆน้ำตาลหรือส่วนประกอบต่างๆของขนมหรืออาหารที่ระหว่างทำแม่ก็จะหาคนชิมไปด้วย เด็กบ้านนอกแถวบ้านผมชอบกินน้ำตาล แค่แม่ใช้ให้เป็นลูกมือไปล้างช้อนที่เปื้อนน้ำตาล พวกเราก็จะวิ่งแย่งกันกรูแล้ว เพราะมันหมายถึงจะได้ถือโอกาสแลบลิ้นเลียกินน้ำตาลที่เปื้อนช้อนสักหน่อยหนึ่งก่อนลงมือล้าง แค่นี้แหละครับ

ตอนหัวค่ำโพล้เพล้ก็จะมีญาติๆแวะเวียนมานั่งคุย พอดึกๆหน่อยก็จะเหลือแต่พวกเรา พ่อจะนั่งฟังวิทยุสลับกับสอนพวกเราให้รู้จักดวงดาวและกลุ่มดาวต่างๆบนท้องฟ้า แล้วก็เล่านิทานให้ฟัง ทั้งเพื่ออยู่เป็นเพื่อนแม่และรอถึงตอนเสร็จ

เศษขนมที่ติดตามก้นหม้อและกะทะ จะอร่อยอย่างประหลาด ยิ่งวันไหนเป็นวันที่ทำขนมกวนซึ่งต้องใช้เวลานาน ก็ถึงกับจะต้องนอนเฝ้ากันเลยทีเดียว แต่ก็คุ้มสำหรับการรอคอยทุกครั้ง

น้ำเสียงที่แม่เล่าให้ผมฟังว่ากำลังทำเพื่อไปเลี้ยงเด็กๆและคุณครูที่โรงเรียนเนื่องในวันแม่ พอได้ยินแล้วผมทั้งร่วมอนุโมทนาและมีความสุขไปกับแม่ด้วย ผมสัมผัสได้ถึงอารมณ์แห่งความเมตตาธรรมต่อเด็กๆของคนรุ่นอาวุโสและความเป็นครอบครัวในความหมายตามความรู้สึกของแม่ ที่แผ่กว้างไปมากกว่าในบ้านของเรา

ในขนมจีนน้ำยานั้น เด็กๆและคุณครูได้กินความรักและความห่วงใยกันอย่างบริสุทธิ์ของมนุษย์.

หมายเลขบันทึก: 286693เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2009 07:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรโยมอาจารย์วิรัตน์และท่านผู้อ่านทุกท่าน

  • แค่สัมผัสเพียงตัวอักษรก็รับรู้ได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของแม่ขออนุโมทนาบุญต่อโยมแม่ของอาจารย์ด้วยสาธุ
  • นึกภาพออกเลยที่อาจารย์เล่า เมื่อต้นเทอมที่ผ่านอาตมาไปร่วมเลี้ยงเด็กที่โรงเรียนวัดโพธิญาณในเมืองพิษณุโลก
  • เด็กเกือบสองร้อยคนเป็นมูลนิธิที่อุปการะเลี้ยงดูเด็กทุกด้านโดยเด็กอยู่ประจำมาจาหลายจังหวัดพ่อแม่แยกทางกัน หย่าร้างกัน เสียชีวิตจากเชื้อโรคเอชไอวี
  • ดูเด็กก็มีความสุขดีแต่เบื้องหลังของครอบครัวคือปัญหาสังคมที่มีระดับขนาดใหญ่ไม่น้อยเลย
  • ทั้งผอ.และคุณครูก็ทุ่มเทเสียสละกันอย่างมากน่าอนุโมทนาในความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ขาดโอกาศทุกด้าน.

ขอเจริญพร

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้า พระอาจารย์มหาแล ขำสุข(อาสโย)

  • ขอกราบอนุโมทนาในกิจกรรมที่พระคุณเจ้าและเครือข่ายได้ทำด้วยเช่นกันครับ
  • การมองปัญหาแบบย้อนไปสู่ชุดของเหตุปัจจัยที่สามารถให้การศึกษาเรียนรู้แก่สังคม รวมไปจนถึงปัจเจกและครอบครัว เพื่อสามารถมีส่วนร่วมในการหันเหการพัฒนาสังคมและวิถีการปฏิบัติ ให้ออกไปจากเหตุแห่งปัญหา เป็นวิธีแปรวิกฤติให้เป็นโอกาสสร้างสรรค์ที่ดีครับ
  • องค์กรทางศาสนา ผู้นำทางจิตใจ และสังคม เดินเข้าหากันและทำสิ่งต่างๆเพื่อให้สังคมพ้นทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพหรือปัญหาสังคม ก็เป็นเรื่องที่น่าส่งเสริมมากๆครับ
  • ทว่า จากแง่มุมที่ผมได้กล่าวถึงในข้างต้นนั้น จำเป็นต้องมีการผสมผสานการปฏิบัติและเรียนรู้ ให้การกล่อมเกลาทางจิตใจ ลงในกิจกรรมการพัฒนาต่างๆไปด้วย ชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะในชนบทซึ่งขาดแคลนผู้นำที่จะชวนคิดและปฏิบัติ จึงจะมีโอกาสพัฒนาหลายอย่างไปด้วย และเครือข่ายพระสงฆ์ก็จะสามารถทำบทบาทแปรความทุกข์ของสังคมให้เป็นโอกาสนำผู้คนเข้าถึงธรรมในสถานการณ์ที่เป็นจริงของสังคมได้มากยิ่งๆขึ้นไปด้วยครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพ

สวัสดีค่ะพี่ชาย

  • ได้อ่านทุกๆบันทึกใน  ดังลมหายใจ  ของพี่ชายแล้วค่ะ  ขอหลบมาไว้ในบันทึกนี้แล้วกันนะคะ
  • ตื้นตันใจกับเรื่องราวชีวิตในอดีต ที่พ่อกับแม่ช่วยกันฝันฝ่าอุปสรรค เลี้ยงพวกเรามา  จนเราเป็นเราในทุกวันนี้
  • ขอยืมคำพูดของคุณเอกมาใช้หน่อยนะคะ  ถ้าไม่มีวันนั้นก็คงไม่มีเราวันนี้
  • ชีวิตเด็กบ้านนอกของพี่ชายกับน้องไม่แตกต่างกันเลยค่ะ  ความยากจน สอนให้เราอดทน มุมานะ  มุ่งมั่นที่จะทำสิ่งใดๆ   ความคิดความหวังต่างๆ  ให้สำเร็จด้วยตัวของเราเอง มากกว่าที่จะรอความช่วยเหลือ หรือพึ่งพาคนอื่น
  • ในสมัยเรียน สนิทกับแม่ เพราะเวลาที่มีประชุมแม่ต้องไปค้างคืนที่หอพัก  สมัยนั้นการเดินทางไม่สะดวกจะไปไหมมาไหน ก็เล่นเดินทางกันครึ่งวันค่อนวัน  แม่ไม่เคยขาดการประชุมผู้ปกครองเลย  ท่านสนใจเอาใจใส่เรื่องการเรียนของลูกๆของท่านทุกคน และคงไปเยี่ยมเยียนลูกๆด้วยกระมัง ทราบว่าเรียนสายอาชีพกันทุกคนเลยใช่ไหม่คะ  ทั้งเทคนิคและอาชีวะ  ส่วนพ่อ น้องได้พูดคุยตอนไปเที่ยวบ้านที่หนองบัว  เพราะด้วยภาระหน้าที่ของความเป็นครู ท่านจึงไม่ค่อยได้ไปประชุมผู้ปกครอง นอกจากตรงกับวันหยุดราชการ
  • พวกเราไปเฮฮากันที่หอพักอ้วน ซึ่งอยู่หน้าวิทยาลัย เวลาแม่ไปหาก็จะมีของฝากไปให้ลูกๆด้วย  โดยเฉพาะน้ำพริกผักสดกับข้าวหลาม น้ำพริกของแม่อร่อยมากค่ะ  แต่เผ็ดชะมัดเลยค่ะ( สงสัยกลัวเปลืองมั้งคะ ถ้าไม่เผ็ดจะหมดเร็ว  เลยหาอุบายให้กินน้อยๆ..อิอิ..) แม่ตำน้ำพริกใส่ขวดโหลให้ไว้กินได้หลายวัน ประหยัดดีค่ะ 

 

  • สงกรานต์ปีนี้เรานั่งคุยกันจนค่ำ ล้วนแต่เป็นเรื่องราวในอดีตที่เป็นความทรงจำดีๆทั้งนั้นค่ะ  แถมด้วยเรื่องเล่าตลกๆ เพื่อน(คนผมสั้น)จะไปเรียนที่พระนครใต้ ไปสมัครวันสุดท้ายแต่คนนำทางพาไปพระนครเหนือ  ขำขำ..ค่ะ น้องสาวของพี่เขาใฝ่ฝันที่จะเป็นนางฟ้ารักษาคนไข้ ชีวิตผกผันให้ได้เรียนและทำงานอีกอย่างหนึ่ง แต่ก็มีใจรัก นอกเหนือจากเงินเดือนแล้ว ยังมีรายได้จากเก็บผลผลิตในสวน วันที่ไปเที่ยวสวนชัยนาท คนเฝ้าสวนเล่าให้ฟังว่าช่วงนั้นเก็บมะนาวขายส่งได้ลูกละ 4 - 7บาท  เก็บเป็นคันรถเลย ถ้าทำให้มะนาวออกนอกฤดูได้คงจะดีไม่น้อย  ไม่นานน้องสาวของพี่คงเป็นเสือนอนกินแน่ๆเลยค่ะ
  • ณ  เวลานี้  น้องสาวของพี่และหลานๆคงได้เข้ามาอ่านบันทึกของพี่ชาย  และรับรู้เรื่องราวของครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับน้ำรักจากพ่อแม่มาตั้งแต่อดีตแล้วนะคะ

 

สวัสดีครับน้องนก : คุณครูจุฑารัตน์

  • พี่เลยเอารูปเผาข้าวหลามมาฝาก น้องสาวพี่ทำกับข้าวและเผาข้าวหลามเก่งด้วย เราแทบจะรู้กันเลยว่าเวลากลับบ้าน จะต้องทำข้าวหลามหรือขนมจีน และตำน้ำพริกปลาร้า  เก็บผักแว่น-ผักบุ้งตามสระ ห้วยหนองและท้องนา มากินกัน ขั้นตอนและวิธีทำข้าวหลาม มันจะทำให้ญาติๆมาทำและอยู่ด้วยกัน แล้วก็กินข้าวหลามรอบกองไฟด้วยกัน

                        

  • น้องสาวพี่เขาก็ชื่นชมน้องนกมากเลย เขาบอกน้องนกเป็นคนเรียนเก่ง ทำงานหนัก เป็นเพื่อนที่เขารักและรักเขามากคนหนึ่ง เคยขี่มอเตอร์ไซคล์ไปเล่นน้ำที่บ้านหลังเก่าของพี่หลังที่อยู่ในรูปวาดนี้ สภาพบ้านและสระดินโคลนที่อยู่ข้างบ้านอย่างนั้น น้องนกไปเล่นได้นี่ ต้องนับว่าใช้ได้เลย
  • ตอนที่พี่เรียนหนองคอก มีเพื่อนสักสิบคนจากหนองคอกที่เคยไปบ้านหลังเก่าของพี่ เพราะจะว่าไปแล้ว เป็นเพื่อนกันก็จริงแต่เขาอยู่ในอำเภอกัน บ้านพี่ไม่มีอะไร อายบ้านว่างั้นเถอะ
  • แม้แต่น้ำดื่ม ก็มีเรื่องขำๆ เพื่อนๆพี่เคยพากันไปเล่นบอลกันที่โรงเรียนวันครูที่บ้านพี่ เสร็จแล้วก็พากันไปบ้าน ตอนนั้นเป็นหน้าแล้งแล้ว พอไปถึงเพื่อนในกลุ่มก็บอกหิวน้ำขอน้ำดื่มกิน พี่ก็บอกไปตามความคุ้นเคยกันว่า โน่นในสระ เพราะเวลาพวกเด็กๆแถวบ้านพี่เวลาหิวน้ำ ก็จะวิ่งลงไปที่สระและก้มดื่มเอาจากสระน้ำ เขาอยู่ดื่มกินและใช้น้ำจากสระนั้นกันทุกอย่าง
  • เพื่อนๆคิดว่าแกล้งบอก พี่ก็งงๆว่าสระอยู่ข้างๆตั้งใหญ่โต มันมาขอน้ำกินทำไม 
  • น้องนกไปอย่างนั้นได้ เลยก็คงมีความเป็นเพื่อนกันมาก
  • จริงด้วย พวกพี่เรียนสายเทคนิคและอาชีวะกันมาทุกคนเลยนะเนี่ย เป็นลูกหม้อเทคนิคและอาชีวะก็ว่าได้  
  • มีบางหัวข้อพี่เปิดเป็นเวทีเสวนาของคนหนองบัว นองนกจะแวะไปเยือนให้มีความคึกคักและได้บรรยากาศท้องถิ่นบ้างก็จะดีไม่น้อยนะครับ

มีความสุขและเห็นความงอกงามจากแรงกายแรงใจอยู่เสมอๆนะครับ 

น้องเองค่ะ! เห็นภาพแม่กวนขนมแล้วตื้นตันใจมาก จริง ๆ ด้วย ถ้าไม่เห็นภาพเขียนภาพนี้ก็จะไม่นึกถึงฝาบ้านด้านหน้าในครัว

และที่นั่งและนอนเล่นกันรอแม่กวนขนมก็คือนอกชานบ้านที่พวกเราจะใช้นั่งทำกิจกรรมในครอบครัวร่วมกัน ยิ่งวันไหนเดือนหงาย

(บ้านเราเรียกกันอย่างนั้น) จะรอฟังนิทานจากพ่อและพ่อจะมีผ้าขาวม้าพาดบ่า 1 ผืนไว้ไล่ยุง ไฟฟ้าก็ไม่มี (ใช้ตะเกียง) พัดลมก็ไม่มี ใช้ความเย็นจากผ้าขาวม้าพ่อนั่นแหละ อีกอย่างหนึ่งคือโอ่งแดง (โอ่งดินสีแดงใส่น้ำไว้ดื่มกันทั้งครอบครัวไม่มีตู้เย็น) เวลานั่งใกล้ ๆ โอ่งจะเย็นถึงข้างนอกสัมผัสได้จากร่างกายของเรา วันไหนอากาศร้อนมาก ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทั้ง 7 คน จะแย่งกันนั่งกอดโอ่งแดง

(โอ่งใบนั้น ณ เวลานี้ก็ยังอยู่ที่บ้านตาลินนั่นแหละ) ในสมัยที่เรายังเป็นเด็กจะที่คอยวิ่งส่งกับข้าว+ขนมให้ญาติ ๆ เพราะเมื่อไหร่ที่พ่อได้ไปตลาดหนองบัว พ่อจะซื้อหมูมาทีละ 2 กิโล แม่จะแกงหม้อใหญ่ ๆ แล้วให้พวกเรานำแกงไปส่งให้ญาติผู้ใหญ่ บางทีบ้านญาติหมาดุ ไล่กัดถ้วยชามแกงหกทิ้งหมดก็มี ยายทวด (ยายทา) จะเรียกพวกเราว่า "ลูกอีแกงแซบ" (หมายถึงแม่) ส้ม+มันแกว (ดีที่สุดสำหรับชาวชนบทในสมัยนั้น) และที่ขาดไม่ได้เลยคือหนังสือเด็กก้าวหน้าเพียง 1 เล่มต่อลูก ๆ 7 คน ต้องจัดลำดับคิวกันอ่าน

ไม่งั้นเดี๋ยวทะเลาะกัน

พูดถึงแม่ทุกวันนี้ก็ยังทำน้ำพริกเผาส่งทางไปรษณีย์อยู่ตลอดเวลา มีอยู่วันหนึ่งแม่ดูทีวีรายการอาหารที่เห็นชาวตลาดน้ำราชบุรี

ทำหมี่กรอบขายโดยทำไปขายไปกันเดี๋ยวนั้นเลยพอดูทีวีเสร็จแม่ไปจัดการหาวัตถุดิบจัดการทำหมี่กรอบเดี๋ยวนั้นแล้วให้น้องจัดการส่งไปรษณีย์ให้ลูก ๆ ที่อยู่ไกลทันที บางทีน้องอยากจะบอกว่าอย่าเหน็ดเหนื่อยกับการทำเลย ค่าส่งน้ำพริกไปรษณีย์ต่อครั้งก็ไม่คุ้ม ค่าหีบห่อ+ค่าธรรมเนียมในการฝากส่งแพงกว่าค่าน้ำพริกในกล่องอีก ซื้อน้ำพริกเผา 10 บาท กินไปได้ตั้งหลายวันแต่คิดดูแล้ว มันเป็นความสุขของแม่ทึได้แสดงฝีมือการทำกับข้าวให้ลูก ๆ กินแล้วมีความสุขก็เลยดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยทุกครั้งไป

--พอพูดถึงพ่อ-แม่แล้วมีความสุขและอบอุ่นดีเนาะ

ไอ้เจ้าครูน้อง : ดีใจมากเลยนะเนี่ย จำเพาะที่เขียนในชุดนี้ พี่กำลังรวบรวมเพื่อทำเป็นหนังสือเล่ม ด้านหนึ่งก็จะทำให้แม่เนื่องในครบรอบอายุ ๗๗ ปีในปีหน้า และอีกด้านหนึ่งก็ทำให้เป็นสื่อเผยแพร่แก่ชาวบ้าน โดยเฉพาะแถวบ้านนอกของเรา หมู่ญาติ ชุมชนและกลุ่มคน โดยเฉพาะพ่อ-แม่ที่เห็นว่าเรื่องราวพวกนี้จะทำให้ลูกหลานได้เรียนรู้ชุมชนและชีวิตคอรบครัวในชนบท ให้ได้มุมมองที่ดีสำหรับการพัฒนาตนเอง เลยอยากให้พี่ทัศน์และน้องๆได้ร่วมเขียนด้วย

ที่น้องเขียนนี้แยกได้อีกเลย ๑ เรื่อง เดี๋ยวพี่จะเขียนรูปให้ เอาตรงบรรยากาศนั่งดูดาวที่นอกชาน หรือตอนวิ่งหนีหมาแล้วทำถ้วยแกงหกกระจายทิ้งนี่แหละ

น้องเขียนหนังสือแนวนี้ดีนะเนี่ย วิธีคิดและวิธีมองที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งที่เป็นคุณค่าทางจิตใจแยบคายดีจริงๆ พี่รู้สึกได้อยู่เหมือนกัน เวลาได้รับน้ำพริกที่แม่และน้องส่งไปให้ พอได้เห็นวิธีห่ออย่างพิถีพิถันเพื่อกันไม่ให้รั่วซึมเลอะเทอะในกล่องส่งพัสดุแล้ว ก็จินตนาการออกถึงจิตใจที่อยู่เหนือความยุ่งยาก

ที่น้องบอกว่าพอพูดถึงพ่อแม่แล้วมีความสุขนั้น เป็นจุดหมายหลักของเรื่องราวที่เขียนในนี้และที่จะทำออกมาเป็นหนังสือเลย เป็นวิธีการหนึ่งของการทำ Healthy Media | Healthy learning | Healthy Reading โดยการได้เรียนรู้ตนเองและชุมชนที่เป็นรากฐานชีวิตของเรา

อันที่จริง พี่ใช้เรื่องครอบครัวของเราเป็นเพียงข้อมูลเดินเรื่องสำหรับสอดแทรกและนำไปสู่การเรียนรู้สุขภาวะของครอบครัว ชุมชน และความเป็นชนบท ที่ชาวบ้านจะได้มีเรื่องใกล้ๆตัวไว้อ่านและดูรูป แล้วก็ได้คิดถึงสิ่งดีๆในชีวิตและเกิดหัวข้อการพูดคุยกันอย่างมีความสุขอย่างที่น้องสะท้อนออกมานี่แหละ  

เขียนอีก-เขียนอีก เขียนแบบพักผ่อนและเก็บสะสมเป็นข้อมูลไว้น่ะ

อาจารย์ครับ

อ่านบันทึกนี้ของอาจารย์แล้ว อยากจะเขียนถึงแม่บ้างครับ

แม่อกทนเพื่อลูก ๆ มากเลยครับ แม่ไม่ได้สอนตรง ๆ แต่ใช้การกระทำพฤติปฏิบัติเป็นตัวสอน...

ช่วงนี้ผมคลี่คลายโจทย์ตัวเองได้แล้ว และตัดสินใจกลับไปทำกิจการเล็ก ๆ ที่บ้าน (เพื่อดูแลพ่อแม่) สลับกับการทำงานในเมืองกรุง (เพื่อดูแลลูกเมีย) และเดินทางไปต่างจังหวัด ช่วยเหลือเพื่อนฝูงพี่น้องบ้าง

จะหาโอกาสไปชมนิทรรศการศิลปะของอาจารย์ ก็ปลีกเวลาไม่ได้เลย ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้ ไม่รู้ว่าเก็บไปแล้วหรือยังครับ

ต้องปูเสื่อต้อนรับ Best Blogger of the Month กลุ่มล่าสุดสักหน่อยละครับหนานเกียรติ ขอแสดงความยินดีและชื่นชมมากจริงๆ 

งานนิทรรศการจะเลิกสักกลางเดือนธันวาคมครับ ก่อนจะปิด พรรคพวกก็เสนอแนวคิดกันคร่าวๆว่าจะถือโอกาสใช้เป็นเวทีพบปะและถอดบทเรียนเครือข่ายผู้คนที่ทำงานต่างๆด้วยกันในอำเภอพุทธมณฑลและมหาวิทยาลัยมหิดลอีกสักครั้ง บางทีอาจจะได้แนวทำงานใหม่ๆด้วยกันที่ค่อยๆลงตัวขึ้น แล้วจะนำมาเล่าให้ฟังครับ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท