แกงขี้เหล็ก : อีกมิติของนักจัดการความรู้
วันนั้นผมได้ดูรายการตอนสาย ๆ รายการหนึ่ง ที่มีผู้หญิงสวย ๆ สี่คนมานั่งเล่าเรื่องต่าง ๆ เกร็ดสาระที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่พอพูดถึงเกร็ดเรื่องการท้องผูก เขาก็บอกว่าบ้านเราเนี่ยมีพืชอยู่ชนิดหนึ่งที่เป็นยาถ่ายอ่อน ๆ สามารถนำมาทำอาหารได้ นั่นก็คือ “ขี้เหล็ก” แกงขี้เหล็กอร่อยมาก มีพิธีกรคนหนึ่งงง ๆ แล้วก็บอกว่าขี้เหล็กเป็นอย่างไง หน้าตาเป็นอย่างไง ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น (น่าจะอายุยี่สิบกว่า ๆ แต่ก็ไม่เห็นแตกต่างกับผมซักเท่าไหร่ แต่ทำไมผมรู้จัก อ้อ แต่ถามผมเรื่องอาหารฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน ผมก็คงเหวอ ๆ งง ๆ เหมือนกับเขาเหมือนกัน)
เห็นอะไรบ้าง?
ที่ผมเล่าให้ฟังไม่ได้แสดงว่าคนที่ไม่รู้นั้นแสดงว่าโง่นะ
แต่ถ้าเราลองสังเกตลึกเข้าไปถึงเหตุผลของการไม่รู้ดูสิ แล้วคุณก็จะรู้ว่าคนเรา มีพื้นฐานประสบการณ์ในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่มีใครรู้ทุกเรื่องหรอก ถ้ามีต้องให้ไปเล่นเกมเศรษฐีของคุณไตรภพ คงจะได้เงินล้านไม่ยาก
คนเรามีพื้นฐานครอบครัว พื้นฐานการศึกษา การดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน บางคนรู้เรื่องบางเรื่องบางซะจนน่าอัศจรรย์ อย่างแฟนพันธุ์แท้ อื่ม ผมเส้นเดียวของตุ๊กตาบาร์บี้ สามารถรู้ได้เลยว่า เป็นตุ๊กตาตัวไหนรุ่นไหน เก่งจริง ๆ เลย ถ้ามาถามเรา ให้ดูตุ๊กตาทั้งตัว เราอาจจะยังไม่รู้เลยว่า นั่นเหรอ ตุ๊กตาบาร์บี้
ความสนใจ และความใส่ใจ มุ่งมั่นที่จะรู้ของคนเราแตกต่างกัน เราจะต้องรู้หมดมั๊ย ไม่ต้องหรอก และคงเป็นไปไม่ได้ แต่เราควรจะต้องรู้ในสิ่งที่เราจำเป็นและควรที่จะรู้ แล้วใครจะรู้ล่ะ ก็ตัวของเราเองไง ไม่มีใครรู้หรอกว่า เราอยากจะรู้อะไร ดังนั้น ไม่มีใครมาจัดความรู้หรือใส่ความรู้ให้เราได้ดีเท่ากับตัวเราเอง แต่เขาสามารถไกด์หรือจัดกระบวนการให้เราสามารถค้นหาตัวเองได้ว่า เราเนี่ยต้องการรู้อะไร “จริง ๆ” เขาไม่รู้หรอกว่าเราอยากรู้อะไร แต่เขารู้ว่ามีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้เรารู้ได้ เขาคนนั้นก็คือ “นักจัดการความรู้” นั่นเอง
(ภูมิปัญญาการทำไม้กวาดลับแล : โครงการวิจัยศึกษาสภาพและพัฒนาชุดโจทย์วิจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนจังหวัดอุตรดิตถ์)
ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ
พิธีกรเดี๋ยวนี้ก็น่าเบื่อ บางครั้งพูดอะไรมาก็ดูว่าโง่ๆ ทั้งที่อาชีพนี้สมควรที่จะเป็นคนที่รอบรู้เรื่องในวงกว้างๆแท้ แต่หลายต่อหลายครั้งก็กลับที่จะชอบปล่อยไก่ออกมากลางอากาศ ยิ่งเป็นรายการสดด้วยแล้ว การแสดงความโง่ก็ยิ่งจะมากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งรายการของผู้หญิงช่วงสายๆนี่จะไม่ดูเลย เนื้อหาก็เอามาจากอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น หน้าก็ไทยแท้ๆบางคนออกลาวด้วยซ้ำกลับไม่รู้เรื่องอะไรของเมืองไทยเลย ยิ่งพิธีกรผิวสีหมึกที่ออกจะตลกฝืดและลามกนี่จะถึงขั้นว่าเกลียดเลย พูดจาอะไรฟังไม่ได้ไม่ว่า เกลียดตรงตลกฝืดของหล่อน ไม่รู้ช่อง3ยังเลี้ยงเอาไว้ทำไม น้ำเสียงก็น่ารำคาณ รู้กันอยู่แต่เรื่องเดียวเรื่องเสริมสวย อย่างอื่นนี่ก็คงเท่าหางอึ่ง เข้าอินเตอร์เน็ตยังจะสบายใจกว่า เพราะข่าวๆที่เอาๆมาพูดก็มาจากอินเตอร์เน็ตทั้งนั้น