"เคยรู้จักคนมาก็มากแต่ไม่ยักจะรู้ใจใครสักคน
เคยใช้ใจคบคนหลายหนแต่ผลกลับมาไม่เคยได้ใจ"
ก็คงต้องตั้งคำถามถามตนเองอยู่เรื่อยไปว่าทำไมใจของคนถึงค้นยากจัง
อาจจะเป็นเพราะเราหรือเป็นเพราะใครที่เข้าใจยาก เลยจึงอยากกลับมาค้น!!
ค้น!! ค้น!! หาคำตอบอยู่หลายครา ในขณะที่วันเวลาก็ล่วงเลยไป
บางครั้งบางคราใจเริ่มล้าเพราะความไม่เข้าใจคน
เคยถามตนคนหนอคนเป็นอย่างไร?
อย่าปฏิเสธว่าคนไม่เห็นแก่ตัว “ครั้งหนึ่งเมื่อยังเยาว์วัยนอนกับน้องสาวในห้องสองคนมีผ้าห่มสองผืน
ตกดึกอากาศเริ่มหนาวจับใจ มือควานหาผ้าห่มแต่ไม่เจอ
ด้วยความหนาวตัดสินใจดึงผ้าห่มที่ตัวน้องมาห่มเพื่อให้ตัวเองนั้นอบอุ่น...พอเริ่มหายหนาวกลับนึกถึงน้องที่นอนคุดคู้อยู่
จึงแบ่งบันผ้าห่มนอนกันสองคน”
ทุกอย่างล้วนแล้วมาจากความเห็นแก่ตัวของตน
โดยบางครั้งทำไปอาจไม่รู้ตัว
พบว่าคนที่เจอปัญหาในชีวิตอย่างรุนแรงทำให้ต้องตัดสินใจเพื่อหาหนทางออกให้กับตนเอง
มักจะคำนึงถึงตเองเป็นที่ตั้ง “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”
โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น อาจเพราะในขณะนั้น "ตนไม่ได้มองตนไปรอบด้าน
แต่เป็นตนมองตนแค่คนเดียว"
อาจเพราะคนมีองค์ประกอบมากมายหลายอย่างที่มาหลอมรวมขึ้นเป็นตัวตน
จับมานั่งคน คน คน ผสมรวมกันทั้งพันธุกรรม การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม
หลวมรวมออกมาเป็นพฤติกรรมของแต่ละคนที่ต่างกัน ทั้งด้านความคิด
สติปัญญา บุคลิกภาพ มีคำกล่าวว่า “ใจคนนั้นไซร้...อยากลึกหยั่งถึง”
เปิดตำราเล่มไหนก็ยังคงค้นใจคนไม่เคยเจอ
ขนาดตัวเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องการอะไรในชีวิต แต่ที่รู้ ๆ
คือคนไม่มีความเพียงพอไม่มีความพอดี เพราะคนยังยึดติดกับความโลภ
ความโกรธ ความหลง นี่แหละ!!! “คนหนอคน”
ถามว่าคนเราเกิดมาต้องการอะไร?
ก็ยังตอบตนเองไม่ค่อยจะได้ก็เพราะความคิดของคนมิได้หยุดนิ่งแต่ยังคงไหวติงตามพายุกิเลส
ตัณหา คงเหมือนกับคำถามที่ว่า “ชอบหายใจใหม?...ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบหรือเปล่า...แต่ก็ยังหายใจอยู่ทุกวัน”
“คนทุกคนมีส่วนของความชั่วร้าย
ส่วนของความเป็นบัณฑิต
และส่วนของความเป็นนักบุญอยู่ในตัว”
“Everyone
has within him something
Of the
criminal, the genius, and the saint.”
C.G. Jung
***ไม่ได้สัญญา...แต่มีมาให้อ่านเล้ว***
คุณ "วรชัย"
ขอบคุณค่ะที่ชื่นชม...ตราบใดที่ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป
คุณ "ขจิต"
ขอบคุณค่ะคุณ "ขจิต"
เอ๋!
งั้นพรุ้งนี้สงสัยต้องตั้งต้นทำความดีเสียทีแล้วล่ะค่ะ...นานแล้วไม่ได้ทำความดี
"ขอบคุณอีกทีที่เตือนสติ"
โหซึ้ง ชอบตรงนี้จัง “ชอบหายใจใหม?...ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบหรือเปล่า...แต่ก็ยังหายใจอยู่ทุกวัน”
อ่านบทความอาจารย์แล้ว รู้สึกตัวเองเลยว่าเนี้ยการดำเนินชีวิตของผมยังนึกถึงตัวเองอยู่มากนะเนี้ย (คราวหน้าต้องเพลา ๆ แล้วเพราะมีคนที่เกี่ยวข้องด้วยเดือดร้อนกับเรา)
หาที่พี่บอกเท่าไรก็ไม่เจอ สงสัยว่าบอกผิดคน
อยากเอาทฤษฎีหน้าต่าง4บานของโจฮาลีมาใช้พี่มีใหม
คุณ "007"
มีจ๊ะ...(The Johari' Window) เป็นทฤษฎีแบบแผนพฤติกรรมของบุคคล โดยมีแนวคิดว่าคนเราต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับตนเอง เปิดเผยตนเองให้มากขึ้น และพร้อมที่จะรับข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราจากผู้อื่นด้วยใจที่เปิดกว้าง เพื่อให้ทราบข้อมูลของเราในส่วนที่เราไม่รู้ เพื่อจะนำข้อมูลมาพัฒนาจุดเสียหรือจุดอ่อนของเรา
อืม!! เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก พี่คงต้องขอจองเรื่อง ท.หน้าต่างโจฮารี่ แล้วซิน่ะ...หรือน้องว่าไง...น่าสนใจมั๊ย
ขอบคุณครับ พี่ผมรออ่านหลายบทความพี่มีสว่นให้รายงานส่งอาจารย์ได้ขอบคุณ รออ่านครับ
ชอบบันทึกนี้ค่ะ อ่านแล้วชอบตรงท่อนสุดท้ายด้วย
เพราะความหลากหลายในตัวคนหรือเปล่าคะ ที่ทำให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อหน่ายจนเกินไป
คุณ "jc"
เพราะมนุษย์เราแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดสีสรรที่หลากหลาย เชื่อค่ะว่าในความแตกต่างของห้องแต่ละห้องย่อมทำให้คนมีความรู้สึกที่หลากหลาย บางเวลาก็ชอบห้องครัว บางเวลาก็ชอบห้องนอน บางเวลาก็ชอบห้องนั่งเล่น ในขณะที่บางเวลากลับชอบห้องน้ำห้องส้วม บ้านหนึ่งหลังมีหลายห้องหลายอารมณ์ เช่นเดียวกับคนที่มีความหลากหลาย และในความหลากหลายของคนมันก็ทำให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อหน่ายอย่างที่คุณ "jc" กล่าว