คนหนอคน...อย่างไร?


“ครั้งหนึ่งเมื่อยังเยาว์วัยนอนกับน้องสาวในห้องสองคนมีผ้าห่มสองผืน ตกดึกอากาศเริ่มหนาวจับใจ มือควานหาผ้าห่มแต่ไม่เจอ ด้วยความหนาวตัดสินใจดึงผ้าห่มที่ตัวน้องมาห่มเพื่อให้ตัวเองนั้นอบอุ่น...พอเริ่มหายหนาวกลับนึกถึงน้องที่นอนคุดคู้อยู่ จึงแบ่งบันผ้าห่มนอนกันสองคน”

         "เคยรู้จักคนมาก็มากแต่ไม่ยักจะรู้ใจใครสักคน เคยใช้ใจคบคนหลายหนแต่ผลกลับมาไม่เคยได้ใจ" ก็คงต้องตั้งคำถามถามตนเองอยู่เรื่อยไปว่าทำไมใจของคนถึงค้นยากจัง อาจจะเป็นเพราะเราหรือเป็นเพราะใครที่เข้าใจยาก เลยจึงอยากกลับมาค้น!! ค้น!! ค้น!! หาคำตอบอยู่หลายครา ในขณะที่วันเวลาก็ล่วงเลยไป บางครั้งบางคราใจเริ่มล้าเพราะความไม่เข้าใจคน เคยถามตนคนหนอคนเป็นอย่างไร?

          อย่าปฏิเสธว่าคนไม่เห็นแก่ตัว “ครั้งหนึ่งเมื่อยังเยาว์วัยนอนกับน้องสาวในห้องสองคนมีผ้าห่มสองผืน ตกดึกอากาศเริ่มหนาวจับใจ มือควานหาผ้าห่มแต่ไม่เจอ ด้วยความหนาวตัดสินใจดึงผ้าห่มที่ตัวน้องมาห่มเพื่อให้ตัวเองนั้นอบอุ่น...พอเริ่มหายหนาวกลับนึกถึงน้องที่นอนคุดคู้อยู่ จึงแบ่งบันผ้าห่มนอนกันสองคน” ทุกอย่างล้วนแล้วมาจากความเห็นแก่ตัวของตน โดยบางครั้งทำไปอาจไม่รู้ตัว พบว่าคนที่เจอปัญหาในชีวิตอย่างรุนแรงทำให้ต้องตัดสินใจเพื่อหาหนทางออกให้กับตนเอง มักจะคำนึงถึงตเองเป็นที่ตั้ง “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี” โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น อาจเพราะในขณะนั้น "ตนไม่ได้มองตนไปรอบด้าน แต่เป็นตนมองตนแค่คนเดียว"

          อาจเพราะคนมีองค์ประกอบมากมายหลายอย่างที่มาหลอมรวมขึ้นเป็นตัวตน จับมานั่งคน คน คน ผสมรวมกันทั้งพันธุกรรม การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม หลวมรวมออกมาเป็นพฤติกรรมของแต่ละคนที่ต่างกัน ทั้งด้านความคิด สติปัญญา บุคลิกภาพ  มีคำกล่าวว่า “ใจคนนั้นไซร้...อยากลึกหยั่งถึง” เปิดตำราเล่มไหนก็ยังคงค้นใจคนไม่เคยเจอ ขนาดตัวเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องการอะไรในชีวิต แต่ที่รู้ ๆ คือคนไม่มีความเพียงพอไม่มีความพอดี เพราะคนยังยึดติดกับความโลภ ความโกรธ ความหลง นี่แหละ!!! “คนหนอคน”

          ถามว่าคนเราเกิดมาต้องการอะไร?  ก็ยังตอบตนเองไม่ค่อยจะได้ก็เพราะความคิดของคนมิได้หยุดนิ่งแต่ยังคงไหวติงตามพายุกิเลส ตัณหา คงเหมือนกับคำถามที่ว่า “ชอบหายใจใหม?...ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบหรือเปล่า...แต่ก็ยังหายใจอยู่ทุกวัน”

          “คนทุกคนมีส่วนของความชั่วร้าย  ส่วนของความเป็นบัณฑิต
           และส่วนของความเป็นนักบุญอยู่ในตัว” 

          “Everyone has within him something
           Of the criminal, the genius, and the saint.”
                                                         
                                                        C.G. Jung


          ***ไม่ได้สัญญา...แต่มีมาให้อ่านเล้ว***


คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 28608เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2006 21:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 00:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
อาจารย์มีอะไรดีๆมานำเสนอ ทำให้ได้คิด มองชีวิตเตือนสติดีมาก
  • บางครั้งอยากได้ใจใครต้องแลกด้วยใจเราเหมือนกันครับ
  • คนเรามีส่วนไม่ดีและดีปนกันถือเป็นเรื่องธรรมดา
  • แต่ว่าเราจะทำอย่างไร ให้เกิดสิ่งดีๆแก่คนอื่นๆให้ได้มากที่สุดนี่น่าสนใจนะครับ

คุณ "วรชัย"

ขอบคุณค่ะที่ชื่นชม...ตราบใดที่ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป

คุณ "ขจิต"

ขอบคุณค่ะคุณ "ขจิต"
เอ๋! งั้นพรุ้งนี้สงสัยต้องตั้งต้นทำความดีเสียทีแล้วล่ะค่ะ...นานแล้วไม่ได้ทำความดี "ขอบคุณอีกทีที่เตือนสติ"

      โหซึ้ง ชอบตรงนี้จัง “ชอบหายใจใหม?...ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบหรือเปล่า...แต่ก็ยังหายใจอยู่ทุกวัน”

       อ่านบทความอาจารย์แล้ว รู้สึกตัวเองเลยว่าเนี้ยการดำเนินชีวิตของผมยังนึกถึงตัวเองอยู่มากนะเนี้ย (คราวหน้าต้องเพลา ๆ แล้วเพราะมีคนที่เกี่ยวข้องด้วยเดือดร้อนกับเรา)

หาที่พี่บอกเท่าไรก็ไม่เจอ สงสัยว่าบอกผิดคน

อยากเอาทฤษฎีหน้าต่าง4บานของโจฮาลีมาใช้พี่มีใหม

คุณ "007"

มีจ๊ะ...(The Johari' Window) เป็นทฤษฎีแบบแผนพฤติกรรมของบุคคล โดยมีแนวคิดว่าคนเราต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับตนเอง เปิดเผยตนเองให้มากขึ้น และพร้อมที่จะรับข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราจากผู้อื่นด้วยใจที่เปิดกว้าง เพื่อให้ทราบข้อมูลของเราในส่วนที่เราไม่รู้ เพื่อจะนำข้อมูลมาพัฒนาจุดเสียหรือจุดอ่อนของเรา

อืม!! เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก พี่คงต้องขอจองเรื่อง ท.หน้าต่างโจฮารี่ แล้วซิน่ะ...หรือน้องว่าไง...น่าสนใจมั๊ย

ขอบคุณครับ พี่ผมรออ่านหลายบทความพี่มีสว่นให้รายงานส่งอาจารย์ได้ขอบคุณ รออ่านครับ

ชอบบันทึกนี้ค่ะ อ่านแล้วชอบตรงท่อนสุดท้ายด้วย

เพราะความหลากหลายในตัวคนหรือเปล่าคะ ที่ทำให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อหน่ายจนเกินไป

คุณ "jc"

เพราะมนุษย์เราแตกต่างกัน จึงทำให้เกิดสีสรรที่หลากหลาย เชื่อค่ะว่าในความแตกต่างของห้องแต่ละห้องย่อมทำให้คนมีความรู้สึกที่หลากหลาย บางเวลาก็ชอบห้องครัว บางเวลาก็ชอบห้องนอน บางเวลาก็ชอบห้องนั่งเล่น ในขณะที่บางเวลากลับชอบห้องน้ำห้องส้วม บ้านหนึ่งหลังมีหลายห้องหลายอารมณ์ เช่นเดียวกับคนที่มีความหลากหลาย และในความหลากหลายของคนมันก็ทำให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อหน่ายอย่างที่คุณ "jc" กล่าว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท