แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการปัญหาการปรากฏตัวของมนุษย์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ปัญหาหลักของการบังคับใช้กฎหมายสำหรับการกระทำของมนุษย์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็คือ
การพิสูจน์ตัวบุคคลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เนื่องจากระบบการทำงานของอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะการเชื่อมต่อแบบระบบเครือข่ายใยแมงมุมทำให้ผู้ใช้สามารถปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตนได้
เกิดบุคคลเสมือนจริงขึ้น (Virtual man)
บุคคลที่มีตัวตนจริง 1 คน สามารถสร้างบุคคลเสมือนจริง (Virtual man)
ขึ้นมาได้จำนวนมากมายหลายตัวตน
ยิ่งทำให้การพิสูจน์ตัวบุคคลยิ่งเป็นไปได้ยากมากขึ้น
บุคคลเสมือนจริงนี่เองที่ก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น
เพราะความสามารถในการปกปิดตัวตนนี้เองที่ทำให้อาชญากรในโลกแห่งอินเทอร์เน็ตเพิ่มปริมาณมากขึ้นทั้ง
ปริมาณของการกระทำและปริมาณผู้กระทำ
รวมทั้งระดับของความรุนแรงที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
โดยเฉพาะกรณีของการกระทำความผิดที่มีโทษทางกฎมายอาญา
มีกรณีเกิดขึ้นในสังคมเป็นจำนวนมาก เช่น
กรณีการหมิ่นประมาทบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
การประกอบการผิดกฎหมายบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
ปัญหาก็คือ
การไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันถึงผู้กระทำได้
ทำให้การบังคับใช้กฎหมายนั้นไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแท้จริงเนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นโดยปราศจากข้อสงสัยได้ว่า
“บุคคลผู้นั้นเป็นผู้กระทำความผิดนั้นๆ จริง”
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
จะเห็นได้ว่า สาเหตุหลักของปัญหาก็คือ
ความไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนอันแท้จริงของตัวบุคคลได้อย่างแน่นอน
แนวทางในการแก้ปัญหาประการหนึ่งก็คือ
การระบุตัวตนของบุคคลที่เข้ามาใช้อินเทอร์เน็ต
แนวความคิดในการจัดการแก้ปัญหาการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลบนอินเทอร์เน็ต
โดยความพยายามที่จะทำให้ ๑ ตัวตนบนโลกแห่งความเป็นจริง(1 Real Man)
เท่ากับ ๑ บุคคลบนโลกเสมือน (1 Virual Man) กล่าวคือ 1
Real Man = 1 Virual Man ผล ก็คือ 1:1 RV จึงเกิดขึ้น
โดยความเชื่อที่ว่า
เมื่อสามารถเชื่อมต่อระหว่างบุคคลในโลกแห่งความเป็นจริงกับโลกของอินเทอร์เน็ต
ก็จะสามารถบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า Virtual Man ในโลกอินเทอร์เน็ต
คือใครที่เป็น Real Man ในโลกแห่งความเป็นจริง
เมื่อมีการนำหลักการเรื่อง ๑ ตัวตนบนโลกแห่งความเป็นจริง ๑
บุคคลบนโลกเสมือนมาปรับใช้ได้ในทางปฏิบัติ
ประโยชน์ที่ได้รับสามารถอาจมองเห็นได้เป็นอย่างน้อย ๓
ลักษณะกล่าวคือ
ในประการแรก ก็คือ จะเป็นประโยชน์ทางด้านข้อมูล
โดยหลักการแล้ว
จะต้องมีการให้รหัสประจำตัวแก่บุคคลเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อ
ซึ่งหากมีการเชื่อมต่อกับระบบการทำงานของภาครัฐแล้ว
บุคคลผู้ใช้สามารถใช้รหัสประจำตัวนั้นในการเข้ารับบริการด้านข้อมูลและสามารถทำธุรกรรมต่างๆกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรเอกชนอื่นได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว เช่น กรณีของกำหนดรหัสบุคคล (PIN) ของกรมการปกครอง
หรือแนวคิดในการกำหนดตัวบุคคลผู้เล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์ของกระทรวงไอซีที
ในประการที่สอง ก็คือ จะเป็นประโยชน์ทางด้านเทคนิค
เนื่องจากการที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนอย่างนั้นจะทำให้การสืบค้นตัวบุคคลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีความเป็นไปได้มากขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว ในประการที่สาม ก็คือ
จะเป็นประโยชน์ทางด้านคุณภาพของข้อมูลในอินเทอร์เน็ต กล่าวคือ
ย่อมมีผลกระทบให้มนุษย์ที่จะเข้าไปใช้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีการไตร่ตรองในการกระทำของตนเอง
ซึ่งเป็นผลให้เนื้อหาของข้อมูลที่เกิดจากการเข้าไปใช้บริการในอินเทอร์เน็ตมีคุณภาพมากขึ้น
หากบุคคล ๑
คนใช้เพียง ๑
ตัวตนในโลกเสมือนในการเข้าทำธุรกรรมบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความสามารถในการพิสูจน์ตัวบุคคลจะเกิดความแน่นอนชัดเจนมากขึ้น
ในความเป็นจริงแล้วในโลกแห่ง e-commerce
ก็มีการระบุตัวบุคคลผ่านทางลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน
แต่นั่นจำกัดเฉพาะอยู่แต่ภาคธุรกิจซึ่งต้องการความแน่นอนชัดเจนในการประกอบการ
ในขณะที่การเข้าใช้อินเทอร์เน็ตซึ่งสามารถก่อปัญหาจากการไม่สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้นั้นมาจากทั่วทุกภาคส่วนในสังคม
แต่ที่กล่าวมาเป็นเพียงการเริ่มต้นของการวางแนวความคิด
ยังคงมีปัญหาเรื่องการจำกัดเสรีภาพ ปัญหาในทางเทคนิค
ปัญหาในเชิงการปฏิบัติการอีกมากมายที่จะตามมาหากแนวความคิดนี้ได้รับการสนับสนุนให้มีการนำมาใช้บังคับ
นั่นไม่ได้หมายความว่าปัญหาที่จะตามมาจะเป็นอุปสรรคให้แนวความคิดนี้ตกเป็นอันสูญเปล่า
แต่การคำนึงถึงคุณประโยชน์โดยการชั่งนำหนักระหว่างผลดีกับผลเสียที่ได้จะเป็นปัจจัยในการกำหนดว่าแนวความคิดนี้จะมีผลใช้บังคับได้จริงในทางปฏิบัติหรือไม่
สิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างรีบด่วน ก็คือ
การเข้าป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายของผู้ร้ายในอินเทอร์เน็ต
ซึ่งการหวงกันเสรีภาพส่วนตนในการใช้อินเทอร์เน็ตจนไม่ยอมทำสิ่งใดที่กระทบประโยชน์ส่วนตนเลย
ก็คือ การสนับสนุนการกระทำอันเป็นละเมิดสิทธิมนุษยชนบนอินเทอร์เน็ต
แต่การไตร่ตรองเพื่อให้เกิดจุดสมดุลย์ของเสรีภาพและความปลอดภัยของเหล่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตย่อมนำไปสู่การแก้ปัญหา
แม้เสรีภาพบางส่วนจะต้องมีน้อยลง
แต่ความปลอดภัยและความมั่นคงของมนุษย์บนอินเทอร์เน็ต (Human Safety
and Security on Internet) ย่อมจะทวีมากขึ้นอย่างแน่นอน
อิทธิพล ปรีติประสงค์ / มณทนา สีตสุวรรณ / วันฉัตร ผดุงรัตน์ /
พันธุ์ทิพย์ สายสุนทร
โครงการศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ในสังคมไทยบนอินเทอร์เน็ต
กองทุน ศาสตราจารย์ คนึง ฦาไชย
วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
อยากได้เนื้อหา (การจัดการธุรกิจเกี่ยวกับระบบไอซีที)
ในวันพรุ่งนี้