Archanwell
รศ.ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร

ขอเล่าเรื่องอดีตคนไร้สัญชาติแม่อายในวันนี้ ซึ่งอาจตกเป็นคนไร้สัญชาติอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (ตอนที่ ๑)


ครอบครัวเฮาเป็นคนเมือง ถ้าเฮาเป็นพม่า คนทั้งเชียงใหม่ก็เป็นพม่าด้วย
             พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติกับการเขียนบันทึกใน gotoknow แต่ก็ยังแปลกๆ  นึกลึกๆ ในใจว่า เราเขียนแล้ว จะมีใครมาอ่านไหมนะ อีกเสียงในใจก็ตอบมาว่า ไม่มีใครอ่าน ก็ไม่เห็นเป็นอะไร เวลาที่เราเขียนลงในกระดานข่าวของเรา หรือหนังสือพิมพ์ เราก็ไม่เห็นต้องกังวลเลย ต้องมีคนอ่านงานของเราอยู่แล้ว
              แต่อีกเสียงในหัว ก็โต้มาว่า เอาเวลาไปทำงานในพื้นที่ดีกว่ามังนะ มานั่งบ่นๆ หน้าคอม ในเว็บของคนที่เป็นนักคิด นักจัดการความรู้ไปทำไม ? เดินไปถามเขาเลยดีกว่าไหม ? นัดอาจารย์วิจารณ์เลยดีไหม ? ลากท่านไปพื้นที่อีกสักครั้งไหม ?
              อีกเสียงบอกว่า น่าจะดีนะที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ของเราตรงนี้ จะได้มีอะไรใหม่ๆ เพิ่มมาในหัวบ้างไง ทำงานมาก็หลายปี งานก็คืบหน้าบ้าง ไม่คืบหน้าบ้าง อย่างกรณีแม่อาย
             งั้นลองบันทึกเรื่องกรณีคนไร้สัญชาติที่แม่อายดีไหม งั้นบันทึกเลยก็แล้วกัน
             ถามว่า เรื่องไหนที่หนักใจที่สุดในชีวิตในวันนี้ ตอบว่า เรื่องคนแม่อาย ซึ่งประสบความไร้รัฐมาตั้งแต่วันที่รัฐไทยเริ่มทำทะเบียนราษฎรในราว พ.ศ.๒๔๕๒ – ๒๔๙๙ วิบากกรรมของคนแม่อายนั้นถูกทำเป็นสารคดีไปทั่วโลก
              สมัยก่อน พ.ศ.๒๔๙๙ ก็ไม่มีใครหรอกที่จะมีชื่อใน ทร.๑๔ ก็ตกในสภาพไร้รัฐกันหมดแหละค่ะ เพราะแนวคิดเรื่อง “รัฐชาติ (Nation-State)” ยังนั่งเรือมาไม่ถึงประเทศไทย แต่พอมีแนวคิดที่จะทำ “ทะเบียนราษฎร” แบบฝรั่งเขา ก็ไม่อาจจะเอาชื่อคนที่อาศัยบนขวานทองนี้ไปใส่ในฐานข้อมูลที่เรียกว่า “ทะเบียนราษฎร” ได้จนครบถ้วน โดยงานวิจัยที่ทำกันในมหาวิทยาลัยทั้งในและนอกประเทศไทย ก็รายงานตรงกันว่า มีคนที่ฟังได้ว่า มีสัญชาติไทยตามแนวชายแดนภาคเหนือที่ยังคงไม่มีชื่อใน ทร.๑๔ และที่น่าแปลก ก็คือ คนจำนวนไม่น้อยที่ถูกบังคับให้ยอมรับว่าเป็น “คนสัญชาติพม่า” ในราว พ.ศ.๒๕๑๙ – ๒๕๒๒   
            ท่านทั้งหลายคงคิดเถียงในใจว่า แล้วชาวบ้านเขายอมได้ไง ?
           ก็ตอบได้ว่า เขาไม่ยอมหรอกค่ะ มีการต่อสู้หลายรูปแบบที่จะพิสูจน์ว่า ฉันมีสัญชาติไทย มีไม่น้อยที่คุยกับกรมการปกครองอยู่หลายปี แต่ไม่รู้เรื่องกัน จนในที่สุด ก็ต้องถวายฎีกาไปยังในหลวง และก็ไม่ผิดหวังที่ในหลวงจะทรงให้สำนักพระราชวังมาดูค่ะว่า  เรื่องจริงเป็นอย่างไร ?
          เรื่องของแม่อายก็เหมือนกันค่ะ พอตระหนักว่า กรมการปกครองคงไม่ยอมรับฟังแน่แล้ว ชาวบ้านแม่อายดั่งเดิมก็ถวายฎีกา และในที่สุดท่านผู้ว่าราชการเชียงใหม่ในยุคนั้นก็มาจัดการแก้ปัญหาให้จนชื่อของคนจำนวนไม่น้อยกลับเข้าไปอยู่ใน ทร.๑๔
          แต่ในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๕ วิบากกรรมก็เกิดแก่คนแม่อาย ๑๒๔๓ คนอีกครั้ง กล่าวคือ นายอำเภอแม่อายมีประกาศฉบับเดียวถอนชื่อคน ๑๒๔๓ คน โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้โต้แย้งสักคำว่า เขาเป็นคนสัญชาติพม่าหรือเป็นคนสัญชาติไทยกันแน่
          ๓ ปีของการคุยกับกรมการปกครอง เริ่มต้นก็นอกศาลปกครอง ต่อมาก็ในศาลปกครอง แล้วทั้งศาลปกครองชั้นต้นและสูงสุดก็เห็นว่า การเพิ่มชื่อชาวบ้านในปี ๒๕๔๒ – ๒๕๔๔ เป็นไปตามกฎหมาย แต่การถอนชื่อในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๕ นั้นขัดต่อกฎหมาย
         ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๘ ให้กรมการปกครองเอาชื่อชาวบ้าน ๑๒๔๓ คนเข้า ทร.๑๔ ให้มีสถานะดังที่เคยได้รับการพิสูจน์ในปี พ.ศ.๒๕๔๒ – ๒๕๔๔
วันนี้ วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๙ แล้ว เกือบ ๙ เดือนนับแต่ที่ศาลมีคำพิพากษา มีท่านผู้หนึ่งที่เป็นที่เคารพนับถือของคนแม่อายโทรมาเล่าให้ฟังว่า มีคนๆ หนึ่งซึ่งอยู่ใน ๑๒๔๓ คน มาหารือว่า อำเภอแม่อายไม่ยอมเอาชื่อกลับเข้า ทร.๑๔  เขาควรจะทำอย่างไรดี ?
         เราตะโกนถามลั่นโทรศัพท์ว่า จริงหรือ ? เป็นไปได้ไง ?
         ท่านที่โทรมา ยืนยันว่า จริง
         เราเริ่มหัวเสียแล้ว ถามอีกว่า แล้วชาวบ้านยอมได้ไง ?
          ท่านที่โทรมาหา หัวเราะอย่างขมขื่น ก็เขากลัวอำเภอ
         เราหัวเราะบ้าง ขมขื่นเช่นกัน ตอนฟ้องคดี มีชาวบ้านกล้าลงชื่อฟ้องแค่ ๘๐๐ กว่าคน ทั้งที่ประกาศของอำเภอแม่อายนั้นกระทบ ๑๒๔๓ คน ๔๐๐ กว่าคนที่เหลือนั้นมีทั้งกลัว ไม่กล้าฟ้องอำเภอ หรือปลงตก ยอมรับชะตากรรม
         เราเคยได้ยิน แม่เฒ่าท่านหนึ่งบอกว่า สงสัยจะต้องทำใจยอมรับว่าเป็นพม่าเสียแล้ว ถ้าหลวงท่านไม่อยากให้สัญชาติไทย เราถามท่านว่า ท่านมาจากพม่าหรือ ? ท่านแม่เฒ่าตอบเราว่า ครอบครัวเฮาเป็นคนเมือง ถ้าเฮาเป็นพม่า คนทั้งเชียงใหม่ก็เป็นพม่าด้วย ซึ่งพอเราเข้าไปศึกษาจริงจัง เราก็พบว่า ครอบครัวของท่านนั้นเป็นครอบครัวเก่าแก่ของแม่อายจริงๆ  เรางงอยู่มากว่า สิ่งเรารู้ดูคนจำนวนมากก็รู้ แต่ทำไมกรมการปกครองไม่รู้
         กลับมาเล่าให้จบว่า ท่านที่โทรมา แจ้งให้ทราบว่า กรมการปกครองจะตรวจสอบเพื่อถอนชื่อชาวบ้านออกจาก ทร.๑๔ อีกหนแล้ว
         เรานึกสงสารคนแม่อายกลุ่มดังกล่าวจับใจ ชีวิตของพวกเขาดูจะไม่มี “สุขภาวะ” เลยนะ ต่อสู้ที่จะเป็นคนสัญชาติไทยใน “บัตรพลาสติกสีฟ้า” อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ละวันก็เจ็บช้ำน้ำใจในความโชคร้ายที่กระหน่ำตีตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนวันนี้เป็นยุคของลูกหลาน ก็ยังถูกสงสัยว่า เป็นคนพม่าอยู่อีก
         สงสัยจริงว่า ประสบการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ดูจะไม่สร้างบทเรียนอะไรเลยให้ใครบางคนในกรมการปกครองเลยหรือไร ?
          แล้วจะมาเล่าเชิงบ่นถึงชะตากรรมของคนแม่อายต่อค่ะ
         หากสนใจอยากศึกษาว่า ทำไมคนแม่อายไม่น้อยจึงเผชิญกับปัญความไร้รัฐความไร้สัญชาติ ?โปรดคลิก URL ต่อไปนี้เพื่ออ่านต่อได้ค่ะ
           http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=2&s_id=50&d_id=51
หมายเลขบันทึก: 28357เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2006 21:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
เรียนว่ามีผู้อ่าน ผู้ที่สนใจอยู่ ( ดูจากเคาเตอร์ )หากแต่การเข้ามาแสดงความคิดเห็นร่วม อาจจะดูบางตาบ้าง เรื่อง สัญชาติ ความมั่นคง  น่าสนใจ  เคยได้เห็น  เคยได้ฟัง เคยได้เห็น ความกล้า ความตั้งใจ เกี่ยวกับ การแก้ปัญหาสัญชาติ ที่น่าน เคยมีมาแล้วและเป็นผลจะข้อมูลมาแลกเปลี่ยน กำลังสืบค้นที่ ข่าวเสียงชาวน่านอยู่ ครับผม.

ขอบคุณชาวน่านค่ะ

ตัวเองใหม่มังคะกับความเป็น blogger มีคนแนะนำให้ลองมาถอดประสบการณ์แต่ละวันในการอ่านและบันทึกกับแนวคิด KM ก็เลยมาลอง ทำงานไปวันๆ มันก็มีอะไรตันๆ ทั้งที่สอนในห้องเรียน หรือลงไปลุยในพื้นที่

กำลังศึกษาค่ะ ว่า ท่านทั้งหลายที่บันทึกกันทุกวัน ท่านบันทึกอะไรหนอ

สวัสดีค่ะอาจารย์แหวว

น่าสนใจและขอบคุณที่นำเรื่องเล่ามาแบ่งปันให้อ่านค่ะ

เรียนถามท่านอาจารย์ครับ

การโอนสัญชาติจะทำอย่างไรดี ผมหมดหนทางแล้วจริงๆ ขอความช่วยเหลือผมด้วยครับ ผมถือบัตรไร้สัญชาติอยู่ที่ ต. สุเทพ อ. เมือง จ. เชียงใหม่ครับ ทำเรื่องโอนไม่ได้ทั้งๆที่คนที่ขอโอนพร้อมๆ กับผมเขาได้กันหมดแล้ว แต่เขาอยู่ในพื้นที่ ต.ช้างเผือก

อีกปัญหาหนึ่งคือ ปีที่ผ่านมาผมได้ติดตามเรื่องมาโดยตลอดจนเจ้าหน้าที่ลำคัน ผมก็หยุดติดตามไปช่วงหนึ่ง ก็โดนจำหน่ายชื่อออกจากระบบพอดี และต้นปีที่ผ่านมา ได้ทำเรื่องอีกครั้งรออีกประมาณ 4 เดือนถึงจะได้คืน จากนั้นผมก็ได้ติดตามตลอด ประมาณเดือนละหนึ่งครั้งจนเจ้าหน้าที่เขาลำคัน และบอกกับผมว่า คุณพูดไม่รู้เรื่องไม่ต้องมาแล้ว ถึงเวลาจะติดต่อไปเอง ผมเองก็ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ จึงรอตามที่เขาบอกรอมาประมาณ 3 เดือนแล้วยังเงียบอยู่ ก็ไม่สบายใจมากเลยครับ

เขาน่าจะให้โอกาสผมที่จะได้ติดตามเรื่องของตัวเองบ้าง

ทุกวันนี้ ผมอยู่ที่ ต.หายยา ชุมชนฟ้าใหม่ประตูก้อม ช่วยประธานชุมชนเท่าที่ผมจะช่วยได้ในการก่อสร้างโครงการบ้านมั่นคง ฉะนั้นหากมีโอกาสและมีสิทธิย้ายชื่อผมเข้ามาอยู่ในชุมชนผมก็น่าจะดีแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้ไม ? ขอแนะแนวและแนะนำด้วยครับ

ขอบคุณครับ นายสม จะเปา

โทร. 0869177850

[email protected]

คุณสมถือบัตรอะไรคะ ดูที่บัตร แล้วเขียนบอกมานะคะ

และมีเอกสารอื่นๆ อะไรอีกบ้าง

เกิดที่ไหน ?

พ่อแม่ถถือบัตรอะไร ?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท