ปฐมบท ทีมสงขลาพัฒนา กับ อุทิศ ชูช่วย

อุทิศ ชูช่วย และ ทีมสงขลาพัฒนา คือใคร

จุดเริ่มต้น

อุทิส ชูช่วย นำทีมคนหนุ่มสาวไฟแรง จัดตั้งทีมสงขลาพัฒนา ในช่วงการเลือกตั้งปี42 กำลังจะมาถึง เทศบาลเมืองสงขลายุคนั้นยังเป็นการเลือกตั้งฝ่ายบริหารโดยอ้อม คือประชาชนเลือกสมาชิกสภาเทศบาล แล้วสมาชิกสภาฯโหวตเลือกฝ่ายบริหาร อุทิศ ชูช่วยและทีมงานตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้าบริหารเทศบาลฯ ดังนั้นสมาชิกของทีมต้องได้รับเลือกเข้าไปเป็นเสียงข้างมากจึงจะชนะโหวตในสภาได้  แต่บรรยากาศการแข่งขันดูน่าจะเหนื่อยหนัก เพราะมีผู้สมัครลงชิงชัยสู่สมาชิกสภาเทศบาลฯ สูงมาก ถึง125คนจากจำนวนที่นั่ง24ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสนามการเลือกตั้งระดับเทศบาลที่มีผู้สมัครมากที่สุดในประเทศของยุคนั้น (แต่ยุคนี้..ไร้เงาคู่แข่ง!)

 

สำหรับการหาเสียงในยุคนั้น อุทิศ ชูช่วย เลือกวิธีการหาเสียงแบบง่ายๆแต่เหนื่อยยาก ลำบากกาย คือ “การเดินสายเล่านโยบาย” ที่ทีมจะทำหากได้รับเลือกตั้งเข้าไปบริหารเทศบาลฯ เดินกันทุกตรอก ซอก ซอย อธิบายนโยบายและโครงการต่างๆ แบบนอนสต๊อบ(Non Stop) ไม่รู้จักเหน็ด,ไม่รู้จักเหนื่อย ทำแบบนี้ ทุกคน ทั้งทีม ของทีมสงขลาพัฒนา

 

ผลก็คือ ทีมเล็กๆของคนรุ่นใหม่ไฟแรง “ทีมสงขลาพัฒนา” ได้ปลุกจิต เร้าใจ ให้พี่น้องประชาชนเข้าใจถึง คำว่า “งานการเมือง” มิใช่ “เล่นการเมือง” คนหนุ่มเหล่านี้จึงได้รับเลือกเข้ามาถึง 18คน จากที่นั่งในสภาเทศบาลฯ 24ที่นั่ง เป็นผลให้ “ทีมสงขลาพัฒนา” ได้เสียงข้างมาก และ“ทีมสงขลาพัฒนา” สามารถเลือกนายอุทิศ ชูช่วยให้นั่งเป็นนายกเทศมนตรี (ตามข้อกฎหมายในสมัยนั้น)

 

จุดเปลี่ยน

 

อุทิศ ชูช่วย และ “ทีมสงขลาพัฒนา” เมื่อรับเลือกตั้งเข้าบริหารเทศบาลฯ ได้สร้างปรากฏการณ์ “สัญญาประชาคม” กล่าวคือ เมื่อนาย อุทิศ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีฯ นายอุทิศ ได้ดำเนินโครงการต่างๆที่ได้พูดไว้ขณะหาเสียง เพียง1ปี ของการบริหาร นายอุทิศ ลงมือทำมากกว่า10โครงการฯ ตามที่ได้พูดไว้ตอนหาเสียง ผลงานเกิดเป็นรูปธรรม เกิดเป็นปรากฏการณ์ “สัญญาประชาคม” ที่เคยให้ไว้ ซึ่งได้รับคำชมมากมาย (ดูได้จากบล็อก “คำชมจากคนดัง” www.songkhlapattana.com)

 

ปี43 จึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง(Change)ของเมืองสงขลา เป็นจุดเริ่มต้นของนักบริหารจัดการองค์กรภาครัฐฯ ที่ดูแลพี่น้องในพื้นที่ ภายใต้การบริหารของ อุทิศ ชูช่วย และ ยังเกิดโครงการฯต่อเนื่องอีกหลายสิบโครงการฯ ที่ทยอยออกมาแบบนอนสต๊อบ(Non Stop อีกแล้วครับท่าน)

 

จุด จุด จุด (สร้างชุมชนเข็มแข็ง)

 

วันที่ 31 ม.ค.2550 องค์กรปกครองท้องถิ่นในจังหวัดสงขลา จำนวน7 แห่งได้หมดวาระลง และได้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 9 มี.ค.2550 ปีนั้นมีองค์กรปกครองท้องถิ่น จำนวน 4 แห่งที่มีผู้สมัครนายกฯเพียง 1 คน ได้แก่ เทศบาลตำบล (ทต.) กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ, ทต.ปริก อ.สะเดา, ทต.คลองแงะ อ.สะเดา และเทศบาลนครสงขลา

 

นายอุทิศ ชูช่วย นำทีมสงขลาพัฒนา ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกเทศมนตรี และ สมาชิกสภาเทศบาล แบบไร้คู่แข่งติดต่อกันเป็นสมัยที่2 และมีเพียงเทศบาลนครสงขลาหนึ่งเดียวของประเทศเท่านั้น ที่เกิด ปรากฏการณ์การเลือกตั้ง “ไร้คู่แข่ง 2สมัยติดต่อกัน”

 

ผลการนับคะแนนในครั้งนั้น(ปี50) ปรากฏว่า นายอุทิศ ได้คะแนน 14,796 คะแนน จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 18,142 คน (คิดเป็น80%จากจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ฯ) ทำให้นายอุทิศ เป็นนายกเทศมนตรีอีกสมัย พร้อมทีมสมาชิกสภาเทศบาล ที่ได้เกินร้อยละ 10 ทุกเขตเลือกตั้ง จากผลการเลือกตั้งครั้งนี้คงเป็นคำตอบแทนความนิยมจากประชาชนในพื้นที่

 

ความสวยงามของเมืองจากหัวแหลมสนยาวจนสุดถนนชลาทัศน์ คือประจักษ์พยาน และ บทพิสูจน์ของการมีวิสัยทัศน์การทำ “งานการเมือง” ของนักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ หรือ บทพิสูจน์ความเป็นเลิศทางการบริหารเงินงบประมาณ (จากอดีตสมุห์บัญชีธนาคารฯ อุทิศ ชูช่วย) ด้วยการดึงงบประมาณส่วนกลางมาดำเนินการในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย ใช้ระยะเวลา 8ปี ผ่าน 7นายกรัฐมนตรี

 

ผลงานเหล่านี้คงเป็นคำตอบ และ ไขข้อข้องใจว่าทำไม นาย อุทิศ ชูช่วย “ไร้คู่แข่งถึง2สมัย”

 

ที่มาของข้อมูล

ขอขอบคุณ พี่พงษ์, คุณกิตติ

[คนใต้โดยภรรยา]

ฝากท่านนายกอุทิศ ชูช่วย

ดูแลร้านขายเหล้า ขายเบียร์

ติดรั้ว ม.ราชมงคล ศรีวิชัย สงขลาหน่อยซิครับ

ผู้ปกครองต่างๆ ไม่ค่อยสบายใจ

ที่ปล่อยให้มีการขายเบียร์ ขายเหล้าติดรั้ว มหาวิทยาลัย

อย่างนั้นครับ

[ทีมงาน]

รับทราบครับ

จะปร๊นข้อมูลส่งให้ท่านนายก

ตอนสรุปรายงานประจำสัปดาห์ครับ