โครงการเล่านิทาน อ่านหนังสือ สานนิสัยรักการอ่านในเด็กปฐมวัย


ถ้าโลกนี้ไม่มีนิทาน ความสุขก็จะหายไป เด็กจะเป็นอย่างไร

โครงการเล่านิทาน  อ่านหนังสือสานนิสัยรักการอ่านในเด็กปฐมวัย  เพื่อให้คุณครูและโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องการเล่านิทาน  อ่านหนังสือ  และปลูกฝังนิสัยรักการอ่านในเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ  ในวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม  2552 ณ ห้องประชุมใหญ่ โรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่  จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับมูลนิธิหนังสือเด็ก  อุทยานการเรียนรู้ ดำเนินงานโดยนิตยสาร Mother&Care


วิทยากรผู้บรรยาย "เล่านิทานสานนิสัยรักการอ่าน"  คือครูหวาน หรืออ.ธิดา  พิทักษ์สินสุข กรรมการบริหารฝ่ายวิชาการสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย และอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสาธิตพัฒนา

ครูหวานได้บรรยายประกอบการเล่านิทานปากเปล่า และใช้หนังสือนิทานประกอบ  พร้อมทั้งตั้งประเด็นและนำเสนอข้อคิดแก่ครูอนุบาล  พอจับใจความและจดบันทึกได้ดังนี้

  • ครูอนุบาลต้องมีความสามารถในการร้องเพลงและการเล่านิทาน
  • เด็กแรกเกิดถึง 8 ปีเป็นช่วงเวลาสำคัญมากสำหรับการพัฒนาภาษาพูด
  • เด็กทุกคนชอบฟังนิทาน  ถ้าโลกนี้ไม่มีนิทาน  ความสุขก็จะหายไป  เด็กจะเป็นอย่างไร
  • การเล่านิทานมี 4 แบบ 1.เล่าเรื่องที่แต่งขึ้นเองหรือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว 2.อ่านเรื่องจากหนังสือ 3.เล่าปากเปล่าโดยไม่ต้องใช้หนังสือ 4.เล่าเรื่องตลกขบขัน

      ครูสามารถเล่านิทานเพื่อปลูกฝังลักษณะนิสัยสำหรับเด็ก/ใช้สอนเด็ก จะทำให้เด็กไม่เกเร ไม่ดื้อ ไม่ซุกซน ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่พึงประสงค์  จะได้ผลดีกว่าให้เด็กฟังครูพูดสั่งสอนโดยตรง

      ปัญหาคือครูมักไม่ค่อยใช้วิธีการเล่าปากเปล่า และกำลังเกิดวิกฤต  ครูใช้หนังสือในการเล่านิทาน  ไม่อย่างนั้นครูเล่าไม่ได้ ข้อแตกต่างของการเล่านิทานและการอ่านนิทานคือ

การเล่านิทานมีบางมุมที่ดีกว่าการอ่านนิทาน

  • ได้สบตากับผู้เล่า
  • จดจำเรื่องราวได้ดีกว่า
  • สร้างจินตนาการตามคำบอกเล่าด้วยตนเอง
  • สามารถจดจำเรื่องราวได้ดีกว่า
  • เข้าใจเรื่องราวโดยเฉพาะคำสอนได้ดีกว่า

และตั้งข้อสังเกตว่า ชาดกเป็นเรื่องเล่าติดต่อกันมาเรื่อยๆหลายพันปีทำไมยังคงสืบต่อมาได้จนถึึงปัจจุบัน

ครูอนุบาลกำลังทำงานกับชีวิตมนุษย์

การเล่านิทานของ วอลดอฟ  เชื่อเรื่องจิตวิญญาณภายในเป็นหัวใจสำคัญท่ามกลางความสงบจากในส่วนการเล่าปากเปล่า

พลังของการเล่านิทาน  การเล่านิทานเป็นสื่อที่ทรงพลังเพราะ 

  • จะเป็นแรงผลักดันไปสู่การกระทำ
  • ทำให้เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมที่หลากหลาย
  • ขยายวงความรู้ให้กับเด็ก
  • สร้างความสนุกสนานเบิกบาน
  • ทำให้เด็กเข้าใจโลกและความสัมพันธ์ของผู้คน
  • ช่วยให้เด็กเข้าใจองค์ประกอบของเรื่องราว
  • ช่วยให้เด็กเข้าใจ...

คุณค่าของการเล่านิทาน  สร้างความตื่นเต้น  ประหลาดใจและประทับใจ  ให้สัจธรรมและจริยธรรมที่จดจำและใช้ในตลอดชีวิต  ทำให้เกิดความผูกพันเป็นพิเศษ

ครูมืออาชีพต้องผลักดันให้พ่อแม่มีการเล่านิทานที่บ้านด้วย

 

ช่วงบ่าย เสวนารูปแบบใหม่ "ล้อมวงเล่าเรื่องเมืองนิทาน" + work shop ประดิษฐ์สื่อสร้างสรรค์ประกอบการเล่านิทาน  วิทยากร คุณ ชัยฤทธิ์  ศรีโรจน์ฤทธิ์

 

คุณชัยฤทธิ์ (คุณโม) ได้แนะนำหนังสือนิทานที่ประทับใจในสมัยอดีต  หนังสือนิทานที่ดีมีคุณค่า สาธิตวิธีการอ่านนิทาน  แนะนำการทำคู่มือเพลง  การแต่งเพลง  การผลิตสื่อ  เน้นไม่เปลือง  ไม่แพง  สนุก เก็บไว้ใช้ได้อีก 

  • แนะนำ  ฝึกการเล่นกับเชือก  โดยค้นจาก กูเกิ้ล พิมพ์ ayatory
  • การพับกระดาษ  จากกูเกิ้ล พิมพ์ origami

ก่อนกล่าวลาได้ให้คติพจน์ไว้ว่า  "ครูทำงานเหนื่อย  หนัก  ไม่มีใครให้กำลังใจ  เราต้องให้กำลังใจตนเอง"

ก่อนกลับต้องนำแบบประเมินไปแลกของที่ระลึก  คือ นิตยสารMother&Care  และหนังสือการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย ตามแนวคิดไฮสโคป

สิ่งที่น่าติดตามแผ่นพับโครงการหนังสือเล่มแรก ของมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก  www.thaibby.in.th /E-mail : [email protected]

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 282391เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2009 15:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 22:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

ครูปฐมวัยควรเข้ามาอ่านบันทึกนี้ครับ ... ถือเป็นการพัฒนาวงการปฐมวัยได้ดีมาก ๆ ครับ

ขอบคุณครับ ;)

อ.วสวัตคะ  ถึงแม้ครูรสจะเป็นครูปฐมวัยแต่ก็ต้องพยายามติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับปฐมวัย  ซึ่งข่าวสารต่างๆ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก  บางทีความเชื่อ ความเข้าใจเดิมๆของเราอาจไม่ใช่ตามที่เราคิดไว้ก็ได้ค่ะ

ครูรส

 

สวัสดีค่ะครูรสมาเยี่ยมอ่านตามที่ อ.วสวัตแนะนำดีมากๆจะนำไปใช้สอนลูกๆนะค่ะ

  • สวัสดีค่ะคุณครูรินดา
  • ขอบคุณมากนะคะที่มาเยี่ยม
  • ได้รับรู้เรื่องใหม่ๆมา ก็อยากบอกต่อค่ะ

ครูรส

ยอมรับว่าได้ความรู้ และไอเดียใหม่ ๆ จากครูรสมากจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ขอความกรุณาส่งรูป ฉีก ตัด ปะ และภาพปั้นดินน้ำมันที่ชนะเลิศมาให้ดูทางเมลล์ด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณครูสุดสวาท

ยินดี จะจัดให้ค่ะ แต่ขอเวลาค้นหาภาพก่อนนะคะ เพราะว่าไฟล์เดิมที่ขึ้นให้ไว้ถูกลบไปแล้ว

ขอบคุณนะคะที่ใช้บริการ

ครูรส

สวัสดีค่ะ กันเป็นครูปฐมวัยเหมือนกันอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ซึ่งกำลังสนใจอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเล่านิทานให้เด็กฟัง

ขอบคุณนะคะ คุณครูกรร

อยากได้โครงการการเขียนโครงการเต็มรูปแบบครูรสกรุณาส่งมาให้ตามเมล์นี้ได้ไม๊คะ กำลังจะทำโครงการเกี่ยวกับนิทานอยู่คะ

สวัสดีค่ะคุณครูชมพู่

 อยากได้โครงการประมาณไหนค่ะจะได้ให้ข้อเสนอแนะได้ตรงประเด็น แจ้งมาทางเมล์ก็ได้นะคะ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

อยากได้โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านขอความกรุณาคุณครูช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณไพลิน พุฒกำพร้า

  ครูรสได้สรุปข้อมูลต่าง ๆไว้ที่ ผลงานวิชาการ- www.gotoknow.org/blog/kindergardensebject/388656

ลองคลิกเข้าไปอ่านดูนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท