สมัยเด็ก
ๆ จำได้ว่าตอนเย็น ๆ ยามพระอาทิตย์อัสดง
พ่อมักจะพาฉันไปบ้านย่าเดินจูงมือลัดเลาะไปตามทิวสน
บ้านย่าอยู่ติดกับชายทะเลไกลจากบ้านฉันพอประมาณ
ทุกครั้งที่ถึงบ้านย่าฉันมักจะวิ่งไปที่ชายหาดและมองทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล
หาดทรายขาวระยิบระยับและสะอาดมากด้วย
เปลือกหอยเรียงรายเต็มชายหาดฉันมักจะเดินเก็บเปลือกหอยมาใส่ในกระเป๋ากางเกง
แต่วันนี้ฉันขอวิ่งไล่จับปูลมก็เพราะว่าฉันวิ่งไล่ไม่เคยทันมันสักทีพอจวนจะจับได้มันก็วิ่งลงรูหายไป
แต่บางตัวก็ฉลาดวิ่งหายลงทะเลและฝังตัวอยู่ในพื้นทราย บอกตรง ๆ
ว่าปูลมมันวิ่งเร็วมาก ๆ
วิ่งไล่จับไปสักพักด้วยความเหนื่อยจึงเปลี่ยนใจไปเก็บเปลือกหอยท่าจะสบายกว่ากันเยอะ
เล่นไปกระทั่งพลบค่ำก็ได้ยินเสียงตะโกนของพ่อ
ฉันก็เลยรีบวิ่งจ้ำไปหาพ่อทันที
พ่อนั่งคุยกับญาติ ๆ อยู่พักใหญ่
ฉันไม่ค่อยชอบที่จะฟังผู้ใหญ่คุยกันเพราะไม่รู้ว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร?
ฉันจึงขอวิ่งไปขุดดินเล่นอยู่ใกล้
ๆ นั่งเล่นได้สักพักพ่อก็พาฉันกลับบ้าน
จูงมือเดินลัดเลาะไปตามทิวสนในเส้นทางเดิม
แต่ดูเหมือนตอนกลับระยะทางมันจะไกลกว่าเดิม
รู้สึกว่าขาฉันก้าวไม่ค่อยจะออกเริ่มเหนื่อย “พ่อขี่คอหน่อยหนูเดินไม่ไหวแล้ว”
ฉันทรุดตัวลงนั่งและไม่ยอมเดินอีกต่อไป
พ่ออุ้มฉันยกขึ้นขี่คอพาเดินไปเรื่อย ๆ ความรู้สึก...ทำไมพ่อตัวสูงจังเหมือนฉันลอยอยู่บนอากาศ รู้สึกได้ปลดปล่อย
อิสระ อย่างบอกไม่ถูก และอบอุ่นมาก ๆ ขาฉันก็เกว่งไกวอยู่ในอากาศใกล้
ๆ หน้าอกของพ่อ ส่วนมือฉันก็จับใบหูสองข้างของพ่อไว้
บางครั้งเมื่อยมือก็หันไปจับหัวบ้างหน้าผากบ้าง
มันเหมือนกับว่าได้ขี่หลังม้ายังไงยังงั้นเลย
เดินต่อไปได้สักพักพ่อก็เริ่มชวนคุยคงกลัวว่าฉันจะหลับ หรืออาจจะกลัวว่าฉันกลัวผี หรืออาจจะทั้งสองอย่าง “กลัวผีใหม?” พ่อถาม “กลัว” ฉันตอบด้วยความมั่นใจ พ่อก็ยังคงถามต่อ “มันหน้าตาเป็นยังไง? ถ้าเจอก็ช่วยจับใส่ขวดให้พ่อดูสักตัวน่ะ” ฉันอมยิ้มเพราะรู้ว่าพ่อไม่เคยสอนให้กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็นและพ่อก็ไม่เคยกลัวผีด้วยซิแต่ฉันกลัว ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิทในขณะที่หูฉันแว่ว ๆ ว่าจะได้ยินเสียงจั๊กจั่นเรไรร้องแข่งกันฟังแล้วเพลิดเพลินดีจัง สองข้างทางมืดมากแต่ในความมืดฉันกลับเห็นแสงแว๊บ ๆ บางอย่าง “พ่อแสงอะไร?” ถามเพราะความกลัว “นั้นแหละ...” พ่อเว้นจังหวะไว้นานพอดูทำให้ฉันรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิม “...แสงหิ่งห้อย” ค่อยโล่งอกโล่งใจ กลัวว่าพ่อจะตอบว่า “ผี” ยิ่งเดินเข้าไปหิ่งห้อยมันยิ่งเยอะขึ้นเรื่อย ๆ บางตัวมันก็บินมาชนฉัน พอพ่อจับได้ก็ส่งมาให้ฉันดูจึงได้รู้ว่าที่ตูดมันมีไฟกระพริบ ๆ อยู่ แปลกจัง!!! ด้วยความดีใจฉันกำมันเอาไว้แน่นกลัวว่าจะหลุดหายไป
แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ ไม่รู้เรี่ยวแรงหดหายไปไหนหมด มือก็เริ่มอ่อนและห้อยลงเรื่อยๆ หิ่งห้อยก็บินหายไป หัวฉันเริ่มซบลงบนหัวของพ่อ เผลอหลับตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ "คงเป็นเพราะความอบอุ่นจากพ่อที่ส่งผ่านมาสู่ลูกด้วยกระมังถึงทำให้ฉันหลับสบายและไม่อยากจะตื่นอบอุ่นจริง ๆ และฉันก็ชอบที่จะหลับทุกครั้งเมื่อได้ขี่คอพ่อ" มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนถึงบ้าน พ่อปลุกให้อาบน้ำและเข้านอน
ฉันอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง “พ่อรักฉันจัง” แต่ใช่ว่าตอนนี้จะไม่รักน่ะ “ก็ยังคงรักเหมือนเดิม...แต่สิ่งที่พ่อเพิ่มเติมคือ...ความห่วงใย”คุณ "Patrickz"
สนับสนุนค่ะ...ลูกคงมีความสุขมากเลย...และมันก็ดูน่ารักด้วยที่พ่ออุ้มลูกขี่คอ...น่าประทับใจเมื่อเห็นพ่อกับลูกหัวเราะด้วยความสนุกสนาน ลองกลับไปทำดูรับรองลูกมีความสุขแน่นอนค่ะ
คุณ "-ขจิต"
มีภาพน่ารัก ๆ มาให้ดูทุกครั้งเลยน่ะค่ะ...บรรยากาศเหมือนขี่ม้าที่ชายหาดเลย...
อ่านแล้วอยากแลกด้วยความรู้นี้ครับ ผมในฐานะพ่อ เมื่อน้องเดมมีไข้