“ขี่คอ...พ่อเดิน...อบอุ่น...เกินใคร”


"คงเป็นเพราะความอบอุ่นจากพ่อที่ส่งผ่านมาสู่ลูกด้วยกระมังถึงทำให้ฉันหลับสบายและไม่อยากจะตื่นอบอุ่นจริง ๆ และฉันก็ชอบที่จะหลับทุกครั้งเมื่อได้ขี่คอพ่อ"

          สมัยเด็ก ๆ จำได้ว่าตอนเย็น ๆ ยามพระอาทิตย์อัสดง พ่อมักจะพาฉันไปบ้านย่าเดินจูงมือลัดเลาะไปตามทิวสน บ้านย่าอยู่ติดกับชายทะเลไกลจากบ้านฉันพอประมาณ ทุกครั้งที่ถึงบ้านย่าฉันมักจะวิ่งไปที่ชายหาดและมองทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล หาดทรายขาวระยิบระยับและสะอาดมากด้วย เปลือกหอยเรียงรายเต็มชายหาดฉันมักจะเดินเก็บเปลือกหอยมาใส่ในกระเป๋ากางเกง แต่วันนี้ฉันขอวิ่งไล่จับปูลมก็เพราะว่าฉันวิ่งไล่ไม่เคยทันมันสักทีพอจวนจะจับได้มันก็วิ่งลงรูหายไป แต่บางตัวก็ฉลาดวิ่งหายลงทะเลและฝังตัวอยู่ในพื้นทราย บอกตรง ๆ ว่าปูลมมันวิ่งเร็วมาก ๆ วิ่งไล่จับไปสักพักด้วยความเหนื่อยจึงเปลี่ยนใจไปเก็บเปลือกหอยท่าจะสบายกว่ากันเยอะ เล่นไปกระทั่งพลบค่ำก็ได้ยินเสียงตะโกนของพ่อ ฉันก็เลยรีบวิ่งจ้ำไปหาพ่อทันที

          พ่อนั่งคุยกับญาติ ๆ อยู่พักใหญ่ ฉันไม่ค่อยชอบที่จะฟังผู้ใหญ่คุยกันเพราะไม่รู้ว่าเขาคุยกันเรื่องอะไร? ฉันจึงขอวิ่งไปขุดดินเล่นอยู่ใกล้ ๆ นั่งเล่นได้สักพักพ่อก็พาฉันกลับบ้าน จูงมือเดินลัดเลาะไปตามทิวสนในเส้นทางเดิม แต่ดูเหมือนตอนกลับระยะทางมันจะไกลกว่าเดิม รู้สึกว่าขาฉันก้าวไม่ค่อยจะออกเริ่มเหนื่อย “พ่อขี่คอหน่อยหนูเดินไม่ไหวแล้ว” ฉันทรุดตัวลงนั่งและไม่ยอมเดินอีกต่อไป พ่ออุ้มฉันยกขึ้นขี่คอพาเดินไปเรื่อย ๆ ความรู้สึก...ทำไมพ่อตัวสูงจังเหมือนฉันลอยอยู่บนอากาศ รู้สึกได้ปลดปล่อย อิสระ อย่างบอกไม่ถูก และอบอุ่นมาก ๆ ขาฉันก็เกว่งไกวอยู่ในอากาศใกล้ ๆ หน้าอกของพ่อ ส่วนมือฉันก็จับใบหูสองข้างของพ่อไว้ บางครั้งเมื่อยมือก็หันไปจับหัวบ้างหน้าผากบ้าง มันเหมือนกับว่าได้ขี่หลังม้ายังไงยังงั้นเลย

          เดินต่อไปได้สักพักพ่อก็เริ่มชวนคุยคงกลัวว่าฉันจะหลับ หรืออาจจะกลัวว่าฉันกลัวผี หรืออาจจะทั้งสองอย่าง “กลัวผีใหม?” พ่อถาม “กลัว” ฉันตอบด้วยความมั่นใจ พ่อก็ยังคงถามต่อ “มันหน้าตาเป็นยังไง? ถ้าเจอก็ช่วยจับใส่ขวดให้พ่อดูสักตัวน่ะ” ฉันอมยิ้มเพราะรู้ว่าพ่อไม่เคยสอนให้กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็นและพ่อก็ไม่เคยกลัวผีด้วยซิแต่ฉันกลัว ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิทในขณะที่หูฉันแว่ว ๆ ว่าจะได้ยินเสียงจั๊กจั่นเรไรร้องแข่งกันฟังแล้วเพลิดเพลินดีจัง สองข้างทางมืดมากแต่ในความมืดฉันกลับเห็นแสงแว๊บ ๆ บางอย่าง “พ่อแสงอะไร?” ถามเพราะความกลัว “นั้นแหละ...” พ่อเว้นจังหวะไว้นานพอดูทำให้ฉันรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิม “...แสงหิ่งห้อย”   ค่อยโล่งอกโล่งใจ กลัวว่าพ่อจะตอบว่า “ผี” ยิ่งเดินเข้าไปหิ่งห้อยมันยิ่งเยอะขึ้นเรื่อย ๆ บางตัวมันก็บินมาชนฉัน พอพ่อจับได้ก็ส่งมาให้ฉันดูจึงได้รู้ว่าที่ตูดมันมีไฟกระพริบ ๆ อยู่ แปลกจัง!!! ด้วยความดีใจฉันกำมันเอาไว้แน่นกลัวว่าจะหลุดหายไป

          แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเริ่มอ่อนลงเรื่อย ๆ ไม่รู้เรี่ยวแรงหดหายไปไหนหมด มือก็เริ่มอ่อนและห้อยลงเรื่อยๆ หิ่งห้อยก็บินหายไป หัวฉันเริ่มซบลงบนหัวของพ่อ เผลอหลับตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ "คงเป็นเพราะความอบอุ่นจากพ่อที่ส่งผ่านมาสู่ลูกด้วยกระมังถึงทำให้ฉันหลับสบายและไม่อยากจะตื่นอบอุ่นจริง ๆ และฉันก็ชอบที่จะหลับทุกครั้งเมื่อได้ขี่คอพ่อ" มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนถึงบ้าน พ่อปลุกให้อาบน้ำและเข้านอน

          ฉันอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง “พ่อรักฉันจัง” แต่ใช่ว่าตอนนี้จะไม่รักน่ะ  “ก็ยังคงรักเหมือนเดิม...แต่สิ่งที่พ่อเพิ่มเติมคือ...ความห่วงใย”
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 28142เขียนเมื่อ 12 พฤษภาคม 2006 12:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2012 00:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
น่าประทับใจครับ :) ทำให้รู้สึกว่า เย็นนี้ผมอยากจะอุ้มลูกขี่คอบ้าง
  • เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอบอุ่นมากครับ
  • ตั้งใจว่าจะกลับไปขี่คอพ่อ ...เฮ้ยไม่ใช่สิ กลับไปให้หลานขี่คอ คงมีรายการขี่ม้าชนกันอีกแน่ๆ...

คุณ "Patrickz"

สนับสนุนค่ะ...ลูกคงมีความสุขมากเลย...และมันก็ดูน่ารักด้วยที่พ่ออุ้มลูกขี่คอ...น่าประทับใจเมื่อเห็นพ่อกับลูกหัวเราะด้วยความสนุกสนาน ลองกลับไปทำดูรับรองลูกมีความสุขแน่นอนค่ะ

คุณ "-ขจิต"

มีภาพน่ารัก ๆ มาให้ดูทุกครั้งเลยน่ะค่ะ...บรรยากาศเหมือนขี่ม้าที่ชายหาดเลย...

     อ่านแล้วอยากแลกด้วยความรู้นี้ครับ ผมในฐานะพ่อ เมื่อน้องเดมมีไข้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท