จากประสบการณ์ที่ได้ใช้ รูปแบบการจัดการความรู้มาแทนการให้สุขศึกษาแบบเดิมๆ ได้9เดือน เห็นได้ชัดเจนว่ามีการรับรู้เรื่องสุขภาพมากขึ้น หลายๆคนเปลี่ยนไป เป็นคนละคน ที่เคยพูดคุยลำบากมาก แนะนำอะไรก็บอกทำไม่ได้ จะเป็นอย่างนี้แหละ แต่พอได้มารับฟังเรื่องราวที่คนอื่นๆเล่า ก็ทำให้ท่าทีเปลี่ยน ปรับ เป็นคนที่เริ่มมีสุขภาพดีขึ้นไปได้
ตามแนวคิดของ แพนเดอร์ กล่าวว่าบุคคลจะลงมือทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและจะปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นแบบแผนการดำเนินชีวิตนั้น ต้องมีปัจจัย3ด้านคือ
1.ด้านความรู้และการรับรู้ เช่น ความสำคัญของสุขภาพ การควบคุมสุขภาพ ความสามารถในตน
การรับรู้ประโยชน์ของพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ การรับรู้อุปสรรค
2.ปัจจัยร่วม เช่น อายุ เพศ การศึกษา รายได้ เชื้อชาติ น้ำหนักของร่างกาย อิทธิพลระหว่างบุคคล ด้านสถานะการณืสิ่งแวดล้อม ประสบการณ์เดิม
3.ตัวชี้แนะการกระทำ ได้แก่ ตัวชี้แนะภายในคือการับรู้ศักยภาพของตนเองต่อความรู้สึกสุขสบายขึ้นเมื่อเริ่มต้นกระทำพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ ส่วนตัวชี้แนะภายนอกคือ การสนทนากับผู้อื่นในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพจะเป็นตัวผลักดัน
ด้วยแนวความคิดทั้งหมดที่กล่าวมา เมื่อนำมาปรับใช้การจัดกลุ่ม ลปรร. การสร้างบรรยากาศที่ให้ทุกคนได้เล่าประสบการณของตัวเอง ร่วมกันสรุปแต่ละประเด็นที่ได้เล่าจบ และAAR ทุกครั้งที่ทำ ผลก็พบว่ารูปแบบนี้ได้ผลดี โดยการประเมินผลจากพฤติกรรมสุขภาพที่ดีขึ้นเช่นระดับน้ำตาลลดลง ความดันโลหิตลดลง น้ำหนักตัวลดลง และมีการสรุปคลังความรู้ที่ได้ทุก3เดือนติดบอดร์เผยแพร๋
และจัดระดับกลุ่มของผู้เข้า ลปรร. เป็น 5ระดับ
ระดับ1.ไม่สนใจที่จะรับรู้เรื่องสุขภาพ
ระดับ2.รับรู้ แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติได้
ระดับ3.เริ่มปฏิบัติ แต่ยังไม่สม่ำเสมอ เห็นผลไม่ชัดเจน
ระดับ4.ปฏิบัติได้ต่อเนื่อง เห็นผลชัดเจน
ระดับ5.สามารถปฏิบัติได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เป็นตัวอย่างแก่ผู้อื่นได้ เป็นผู้นำการถายทอดวิธีปฏิบัติของตนเองได้
ท่านเชื่อหรือไม่ว่า จากเดิม(9เดือนที่แล้ว) เรามีคนที่อยู่ระดับ2-3 คิดเป็นร้อยละ90-95 แต่ขณะนี้เรามีคนที่เป็นระดับ4-5 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ70-80 และนำวันกลุ่มนี้จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาที่เริ่มจากระดับ1 และเมื่อมา ลปรร. กับกลุ่มบานไม่รู้โรย(ชื่อที่กลุ่มตั้งขึ้น) ก็น่าจะปรับเลือนระดับเป็น3-4-5 ได้ต่อไป เราจะนำมาเล่าต่ออีก
จะเป็นกำลังใจให้อุ้ยอย่างนี้ และตลอดไป
Yes! you can do it.
เสน่ห์...ของ KM คือ ความสุขจากเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่คุณดื่ม(สัมผัส)ได้
หากเราเชื่อสมมุติฐานว่า คนทุกคนมีศักยภาพ
ความสามารถของอุ้ย...ซึ่งได้ทำหน้าที่ FA อย่างสมบูรณ์ จึงเกิดผลลัพธ์ในเชิงประจักษ์อย่างที่เห็นนี้ ขอบคุณสำหรับผลงานดีดีที่อุ้ยอุตสาหะในการลงมือทำ
เป็นกำลังใจให้สู้ ต่อไปนะ แล้วถึงงานมหกรรมKM กรมอนามัย อยากให้ชวนคนไข้เก่งๆ ที่เป็นดาวระดับ5 มาร่วมในงานของกรมฯด้วยจ้า...*_*