แกะ KM จากพ็อคเกตบุคส์ ไม่ได้ 'แอ้ม' หรอก 'สโรชา' จะบอกให้ => แกะภาพลักษณ์ แกะสาระ


จากพ็อตเกตบุคส์ประวัติชีวิตของสโรชา พรอุดมศักดิ์ เอามาแกะ KM ในแบบที่คงไม่มีใครคิดที่จะเอามาแกะกัน ในแบบที่ให้อะไรดีๆแก่ชีวิต ถึงแม้ไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ตาม

สำหรับพ็อตเกตบุคส์ ไม่ได้ 'แอ้ม' หรอก 'สโรชา' จะบอกให้ มีวางขายในร้านหนังสือ ราคาปก 125 บาท เล่มที่นายบอนได้อ่าน เค้าพิมพ์เป็นครั้งที่ 2 (เม.ย.49) แล้ว

คงเป็นแฟนรายการของคุณสโรชา หรือคนที่ชื่นชอบในบทบาทของเธอเท่านั้น ที่จะตัดสินใจควักเงินซื้อเล่มนี้มาอ่าน แต่ถึงไม่ได้ชื่นชอบขนาดนั้น ก็ KM กันได้

หลายคนมักจะติดกับภาพลักษณ์ที่เห็นกันประจำ และมักจะตัดสินว่า บุคคลนั้นจะต้องมีบุคลิก พูด หรือคิดแบบนั้นตลอดเวลา ซึ่งถ้านึกถึงคุณสโรชา หลายคนก็ต้องนึกถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล นึกถึงรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ นึกถึงการชุมนุม ฯลฯ

แต่เหรียญยังมี 2 ด้าน ชีวิตมีอีกหลายมุม เมื่อเห็นมุมกุ๊กกิ๊ก น่ารัก มุมสบายๆที่ต่างจากมุมที่เคร่งเครียด แข็งกร้าวแล้ว

ถ้านายบอนมีน้องสาวแบบนี้นะ ปลื้มตายเลย เพราะอยากให้ผู้หญิงเข้มแข็ง ทันคน มีความคิด เก่ง เป็นตัวของตัวเองแบบคุณสโรชา

ที่มาของชื่อเล่น แอ้ม ไม่ใช่อ้อมแอ้ม แต่มาจาก ไม่ได้แอ้มหรอก ตามชื่อหนังสือ เป็นชื่อที่คุณยายของเธอตั้งให้
เพราะไม่อยากให้หนุ่มๆมาแอ้มง่ายๆ

ทำไมคนรุ่นใหม่หลายคน ไม่รักนวลสงวนตัว ยอมให้แอ้มง่ายๆ
หรือเดินตามกระแสวัฒนธรรมตะวันตกมากเกินไป

คุณแอ้ม สโรชา ตามพ่อแม่ไปใช้ชีวิตที่ สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ กลับไทยตอน 12 ขวบปี พ่อแม่ตัดสินใจพากลับเพราะกลัวลูกสาวจะทำตัวเป็นฝรั่งจ๋า และจะห่างวัฒนธรรมไทย อย่างน้อยเกิดเป็นคนไทย ก็ควรเป็นไทยให้เต็มตัว

เมื่อมองดูเด็กรุ่นใหม่ในไทยเวลานี้
1. คุณพ่อคุณแม่ของคุณสโรชา เค้าเลี้ยงดู อบรมแนะนำสั่งสอนลูกสาวยังไง ลูกสาวถึงมีความเป็นไทยในตัวได้ ทั้งๆที่ใช้ชีวิตเติบโตที่สหรัฐอเมริกาถึง 10 ปี

เหลียวดูเด็กรุ่นใหม่หลายคน ที่เห่อตามวัฒนธรรมตะวันตก หรือว่า พ่อแม่ละเลยในการใส่ใจดูแลลูกของตน จนเด็กๆ เห่อตามวัฒนธรรมตะวันตก ทั้งตัวทั้งใจ

2. ครอบครัวของคุณสโรชา ดูแลเธอยังไง ถึงสามารถเลี้ยงดูให้เธอเป็นคนไทยเต็มตัวได้ และที่เธอเขียนในหนังสือ มีการยกเหตุการณ์ในอดีตมาเล่าในเล่ม ครอบครัวของเธออบรมสั่งสอนเธออย่างไร ถึงทำให้เธอมีจิตสำนึกถึงความเป็นไทย ทำการสังเคราะห์ วิเคราะห์ จนเกิดการยอมรับในวัฒนธรรมไทยด้วยตัวเอง

น่าจะรวบรวมเป็นองค์ความรู้ ในเวลานี้ได้ก็น่าจะดีเหมือนกัน



หมายเลขบันทึก: 27658เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2006 11:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท